งานกฐินสามัคคีประจำปี 2563 ของศูนย์ศึกษาสมุนไพรสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) –เทพนิมิต วราราม จัดขึ้นโดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ คุณกรณ์สรวง ภิรมย์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมคุณวุฒิวิชาชีพนานาชาติ , พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช , คุณฉฎาณิศา ชำนาญเวช และคณะ ร่วมเป็นเจ้าภาพใหญ่ พร้อมทั้งถวายเครื่องไทยธรรม พร้อมกันนี้ยังมีเจ้าภาพร่วมจากหลากหลายหน่วยงานด้วยกัน อาทิเช่น บจก. ไทย อินดิเพนเดนท์ เน็ตเวิร์ก เอเยนซี่ – กลุ่มบมจ. กันตนา กรุ๊ป, พนักงานกลุ่ม บมจ. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง , สายบมจ. ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล – พนักงานกลุ่มบริษัทในเครือสหพัฒนฯ ตลอดจนสายศิษยานุศิษย์ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมียอดเงินรวมของกฐินสามัคคีประจำปี 2563 จำนวนทั้งสิ้น 730,936.50 (เจ็ดแสนสามหมื่นเก้าร้อยสามสิบหกบาทห้าสิบสตางค์) โดยการกำหนดการทอดผ้ากฐินนั้นถือเป็นกาลทานซึ่งตามพระวินัยได้กำหนดไว้คือ ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ( นับจากวันออกพรรษาออกไป 1 เดือน) ซึ่งถ้ามีการทอดก่อน หรือ หลังในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ก็จะไม่ถือว่าเป็นการทอดผ้ากฐิน และสามารถที่จะทำได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นอานิสงส์จากการทำบุญทอดผ้ากฐินประจำปีจึงถือว่ามีอานิสงส์มาก
ศูนย์ศึกษาสมุนไพรสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ ตั้งอยู่เลขที่ 132 หมู่ 6 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการริเริ่มบุกเบิกขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยคุณเสาวนีย์ บุนนาค เป็นผู้มอบที่ดินจำนวน 9 ไร่ผืนนี้ถวายให้กับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม จากนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ จึงได้ทำการมอบหมายให้ท่านพระครูวิจารณ์โกศล ซึ่งเป็นเลขาสนองงานของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้พื้นที่แห่งนี้ในการปลูกพืชสมุนไพรไทยเพื่อให้เป็นสถานศึกษาหาความรู้ในเรื่องของสมุนไพร และยังให้ประโยชน์ในด้านของการรักษาโรคต่างๆ ในอนาคต ตามรอยศาสตร์ของพระราชาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
การดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ตั้งแต่เริ่มตั้งศูนย์ฯ จนถึงปัจจุบัน ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยความอนุเคราะห์จากญาติโยมและศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศของท่านพระครูวิจารณ์โกศล จนทำให้ศูนย์ฯ สามารถสร้างอาคาร คสล. อเนกประสงค์ได้ 5 หลัง พร้อมทั้งสามารถขุดสระน้ำเพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝน และใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเพาะปลูกของศูนย์ฯ ในฤดูแล้ง โดยมีท่านพระครูวิจารณ์โกศลในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ เป็นผู้ดำเนินการสนองงานในท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ
ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของศูนย์ศึกษาสมุนไพรฯ ยังคงต้องพัฒนาอีกหลายจุดด้วยกันกว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ดังนั้น ยังคงต้องขอความอนุเคราะห์จากญาติโยมพุทธสานิกชนทุกท่านในการช่วยทำนุบำรุงเพื่อให้พื้นที่แห่งนี้ได้เป็นสถานศึกษาและสถานบำบัดโรคโดยใช้พืชสมุนไพรไทยที่เพาะปลูกภายในศูนย์ฯ พร้อมกันนี้ยังเป็นพื้นที่ของการสืบสานพระพุทธศาสนาของคนในชุมชนที่จะเข้ามาสวดมนต์ ถือศีลและปฏิบัติธรรมในทุกวันสำคัญทางศาสนาอีกด้วย