10 พ.ย. 2563 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กรมธนารักษ์ ว่า ได้มอบนโยบายสำคัญ 6 เรื่อง ได้แก่ 1. ให้ทบทวนการประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ ที่จะประกาศใช้ในปี 2565 โดยประสานกับกรมที่ดิน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทาน เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประกอบในการประเมินราคาที่ดินรอบใหม่
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาก จึงต้องนำองค์ประกอบทั้งหมดมาพิจารณาในการปรับราคาประเมินให้ครบ เพราะบางพื้นที่มีความเจริญ มีศูนย์การค้า มีรถไฟฟ้า และมีมอเตอร์เวย์ การประเมินราคาจึงต้องทำให้ใกล้เคียงกับราคาที่มีการซื้อขายจริง
“กรมธนารักษ์จะต้องเข้าไปสำรวจทุกพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการพัฒนา การประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ก็จะต้องนำปัจจัยเรื่องการลงทุนภาครัฐมาประกอบด้วย ตรงนี้ก็จะเป็นรายได้ที่จะกลับเข้ามา” นายอาคม กล่าว
2.การใช้ที่ราชพัสดุให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นนโยบายที่กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง และขณะนี้มีหลายโครงการที่จะพัฒนาที่ราชพัสดุในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งการดำเนินงานพัฒนาที่ราชพัสดุเชิงสังคม เช่น ความร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาธิบดี ในโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ 3. เพิ่มบทบาทให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เป็นตัวนำในการพัฒนาโครงการบนที่ราชพัสดุ โดยดึงเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในรูปแบบสัญญาเช่าเพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้รัฐมากขึ้น
4. เชื่อมโยงที่ราชพัสดุกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยเฉพาะธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยให้ ธพส. เข้ามาพัฒนาโครงการ และให้ ธอส. ทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ต้องการมีที่อยู่อาศัย 5. ในช่วงที่ไทยยังไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ให้กรมฯ เร่งพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภาคใต้ พัฒนาท่าเรือทั้งบนเกาะ และบนฝั่งว่าจะมีการปรับปรุงอย่างไร เช่น เกาะพีพี เพราะยังมีช่วงเวลาอีก 1-2 ปี ให้ฟื้นฟูกว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะกลับมาปกติ โดยให้ประสานกับคมนาคมว่าจะดำเนินการอย่างไร และ 6. ดูแผนการจัดทำเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนให้สอดคล้องกับโลกดิจิทัล ซึ่งไทยกำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ทำให้ความจำเป็นในการใช้เหรียญน้อยลงจึงต้องดูแผนการผลิตเหรียญให้สอดคล้องมากขึ้น
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์พร้อมเร่งดำเนินการตามนโยบายของ รมว.การคัง โดยเบื้องคาดว่าราคาประเมินที่ดินทั่วประเทศรอบใหม่ ที่จะประกาศใช้ในปี 2565 ซึ่งราคาประเมินปัจจุบันยังไม่ได้มีการรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเข้าไปด้วย ซึ่งหากมีการนำปัจจัยดังกล่าวเข้าไปร่วมพิจารณาแล้ว จะส่งผลให้ราคาประเมินที่ดินทั่วประเทศปรับขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งคาดว่าราคาประเมินที่ดินในส่วนนี้จะปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% โดยขณะนี้พบว่ามีนายทุนเข้าไปกว้านซื้อที่ดินในบริเวณอีอีซีไว้เกือบหมดแล้ว
ขณะที่พื้นที่ย่านสำคัญอื่น ๆ เช่น สีลม คาดว่าจะมีการปรับขึ้นเช่นกัน แต่คงไม่มาก เพราะมีการปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนพื้นที่ที่อยู่ใกล้โครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ก็คาดว่าจะมีการปรับราคาประเมินขึ้นเช่นกัน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |