"ทันตแพทยสภา -สภาการพยาบาล -สภาเภสัช "ฮึ่ม!จ่อฟันบุคคลากรใน3องค์กร หากตรวจสอบพบรีวิวสินค้า หรือโฆษณา เข้าข่ายผิดจรรยาบรรณ ถ้าสอบพบไม่เจตนา อาจโดนภาคทัณฑ์ แต่ถ้าตั้งใจอาจโดนถึงขั้นถอนใบอนุญาติ
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ เลขาธิการทันตแพทยสภา กล่าวว่า กรณีทันตแพทย์รีวิวผลิตภัณฑ์สุขภาพถือเป็นกระทำผิดจรรยาบรรณหรือไม่ นั้นตามข้อบังคับทันตแพทยสภาว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันกรรม พ.ศ.2538 ในหมวด 3 ว่าด้วย การโฆษณาการประกอบวิชาชีพทันตกรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปดูแลการประกอบวิชาชีพทันตกรรม และการกระทำที่เกี่ยวข้องกับทางทันตกรรมเท่านั้น ประเด็นการรีวิวที่เข้าข่ายจะเป็นการโฆษณาสินค้าความงามไม่เกี่ยวข้องกับทันตกรรม จึงไม่ขัดต่อจรรยาบรรณหมวด 3 แต่จรรยาบรรณในหมวด 1 ระบุเกี่ยวกับ ความประพฤติทั่วไปของผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมว่า ต้องไม่ประพฤติหรือกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพทันตกรรม จึงต้องดูว่า การรีวิวดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ หากตำรวจสั่งฟ้องและศาลพิพากษาว่ามีความผิดต้องพิจารณาต่อว่า รีวิวในนามส่วนตัว หรือเป็นการทำในฐานะวิชาชีพ และเป็นเหตุเสื่อมเสียเกียแก่วิชาชีพหรือไม่ หากไม่เสื่อมเสียก็ยกคำร้องไป หากเสื่อมเสีย ก็จะมีบทลงโทษ ตั้งแต่ ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต เพิกถอนใบอนุญาต
ผศ.อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล กล่าวว่า โดยปกติผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ต้องไม่ทำการจูงใจหรือชักชวนผู้อื่นให้รับบริการพยาบาลเพื่อประโยชน์ของตนเอง ซึ่งรวมการห้ามโฆษณาสินค้าด้วย หากมีการกระทำเกิดขึ้น มีผู้ร้องเรียนเข้ามา สภาการพยาบาลจะทำการตรวจสอบผู้ถูกร้องเรียนว่า เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ภายใต้การกำกับดูแลของสภาการพยาบาลหรือไม่ เพราะหลายๆ ครั้ง ทังทีวีและสื่อสังคมออนไลน์ออกข่าวว่าเป็นพยาบาล แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ แต่เป็นผู้ช่วยพยาบาล หรือพนักงานให้การดูแล หรือ เจ้าหน้าที่ประเภทอื่น
ผศ.อังคณา กล่าวอีกว่า หากเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลในการกำกับดูแลของสภาการพยาบาลจริง สภาการพยาบาลจะมอบให้คณะอนุกรรมการจริยธรรมทำการสืบสวน แสวงหาข้อเท็จจริงว่ามีมูลหรือไม่มีมูลความผิด และถ้ามีมูลว่าได้กระทำการที่ไม่ถูกต้อง คณะกรรมการสภาการพยาบาลจะแต่งตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาโทษแห่งความผิดต่อไป โดยทั่วไปการพิจารณาโทษของสภาวิชาชีพ จะมีหลายระดับแล้วแต่ระดับความรุนแรงของความผิด ได้แก่ เริ่มจากว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เพิกถอนใบอนุญาต และที่รุนแรงที่สุดคือการเพิกถอนสมาชิกภาพ ในระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ที่ทำความผิดในเรื่องนี้มีค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ประเภทอื่น หรือเป็นบุคคลทั่วไป แต่กล่าวอ้างว่าเป็นพยาบาลวิชาชีพ
ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า สภาฯมีแนวปฏิบัติเรื่องของการโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆในการพิจารณานั้น ต้องดูว่าภาพเภสัชกรรมคนนั้นเป็นการถูกคัดลอกภาพและเจ้าตัวรู้และยินยอมให้ทำหรือไม่ หากยินยอมเท่ากับมีส่วนในการรู้เห็น ถือว่าผิดจรรยาบรรณจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายกรณี ทั้งนี้หน้าที่พื้นฐานของเภสัชกรคือการดูแลสุขภาพประชาชน การปล่อยหรือยินยอมให้ใช้ภาพตนเองโฆษณา ถือเป็นการประมาทเลินเล่อโดยโทษจะมีตั้งแต่ ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ และเพิกถอนในบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ผ่านมามีการภาคทัณฑ์ไป 2 ราย เนื่องจากพบว่าถูกนำภาพไปใช้แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่รู้