“ศบค.” เผยผู้ป่วยโควิดใหม่ 12 ราย พบติดเชื้อในประเทศ 1 ราย เป็นชายอินเดีย พนักงานร้านอาหาร อาศัยอยู่ใน จ.กระบี่ อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ตามตัวผู้สัมผัสทั้งหมดรวมประมาณ 20 คน ตรวจหาเชื้อและกักตัวไว้
    เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากชายแดนเมียนมา 2 ราย และมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,830 ราย หายป่วยเพิ่ม 5 ราย ยอดรวมผู้รักษาหายป่วย 3,644 ราย รักษาในโรงพยาบาล 126 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ รายที่ 1, 2 เดินทางมาจากฝรั่งเศส ทั้ง 2 ราย เป็นเพศชาย สัญชาติฝรั่งเศส รายแรกตรวจพบเชื้อวันที่ 5 พ.ย. และอีกรายตรวจพบเชื้อวันที่ 2 พ.ย. รักษาโรงพยาบาลเอกชน กทม., รายที่ 3 มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเพศหญิงสัญชาติไทย ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 พ.ย. รักษาในโรงพยาบาลของรัฐ กทม.
    รายที่ 4 มาจากอินเดีย เพศชายสัญชาติอินเดีย ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 พ.ย. รักษาในโรงพยาบาลเอกชน จ.สมุทรปราการ, รายที่ 5, 6 มาจากสหรัฐอเมริกา เป็นเพศชายและเพศหญิง สัญชาติไทย ทั้ง 2 รายตรวจพบเชื้อวันที่ 4 พ.ย. เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี, รายที่ 7 มาจากเม็กซิโก เป็นเพศชาย สัญชาติเม็กซิโก ตรวจพบเชื้อวันที่ 5 พ.ย. รักษาในโรงพยาบาลเอกชน กทม., รายที่ 8 มาจากสวิตเซอร์แลนด์ เพศหญิงสัญชาติไทย ตรวจพบเชื้อวันที่ 3 พ.ย. รักษาที่สถาบันทรวงอก, รายที่ 9 มาจากเนเธอร์แลนด์ เพศชาย สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ตรวจพบเชื้อ 5 พ.ย. รักษาในโรงพยาบาลเอกชน จ.ภูเก็ต
    รายที่ 10, 11 มาจากเมียนมา วันที่ 26 ต.ค. ผ่านชายแดนไทย-เมียนมา เป็นเพศชายอายุ 29 ปี และเพศหญิงอายุ 45 ปี พนักงานขับรถ ตรวจพบเชื้อในวันเดียวกัน และส่งกลับไปรักษาที่เมียนมา และรายที่ 12 เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ เป็นเพศชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานร้านอาหาร อาศัยอยู่ในประเทศไทย จ.กระบี่ เข้ามาตรวจเพื่อขอ work permit 4 พ.ย. ผลตรวจพบเชื้อ อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ขณะนี้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบี่
    สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 49,655,454 ราย รักษาหายป่วย 35,251,727 ราย เสียชีวิต 1,248,566 ราย ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยตกค้างกลับประเทศ วันที่ 7 พ.ย. รวม 385 คน จาก 10 เที่ยวบิน และวันที่ 8 พ.ย. รวม 9 คน จาก 9 เที่ยวบิน
      ด้านคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ได้มีการประชุมและสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จังหวัดกระบี่ว่า พบผู้ติดเชื้อรายที่ 21 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลกระบี่ โดยเป็นนักธุรกิจชาวอินเดีย 1 ราย อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ และได้มีการกักตัวทันทีเมื่อพบอาการเข้าข่าย โดยชายคนดังกล่าวเข้ารับการตรวจเมื่อวันที่ 4 พ.ย.63 แต่การตรวจครั้งแรก ผลการตรวจไม่ยืนยันอย่างชัดเจน จึงนำตัวอย่างเข้าแล็บตรวจซ้ำอีก 2 ต้องนำเข้าเข้าแล็บอีก 2 ครั้ง พบผลเป็นบวกซึ่งกรณีดังกล่าวยังไม่ยืนยันว่าเป็นเชื้อที่สามารถแพร่ระบาดได้ หรือเป็นซากเชื้อที่ไม่สามารถแพร่ระบาดได้ ที่ต้องรอผลการตรวจสารพันธุกรรมยืนยัน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวเข้ามาอยู่ในพื้นที่ระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่เก็บตัวอย่างบุคคลในครอบครัว 4 คน ตรวจเชื้อพบผลเป็นลบ และนำผู้สัมผัสทุกรายที่ได้จากการสอบสวนโรคเข้าตรวจเชื้อและกักตัวไว้
    พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นไปตามที่จังหวัดกระบี่ได้ประเมินสถานการณ์ของการแพร่ระบาด แม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2563 ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม จังหวัดกระบี่ได้มีมาตรการเข้มการเฝ้าระวัง โดย อสม.ในทุกพื้นที่ และมีการสุ่มตรวจในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในการพบเชื้อครั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่นำผู้สัมผัสทั้งหมดรวมประมาณ 20 คน มาตรวจหาเชื้อและต้องกักตัวไว้ รอการตรวจซ้ำครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 จนมั่นใจ จึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนัก จังหวัดกระบี่มีความพร้อมในการควบคุม ป้องกันและการรักษา ที่มีประสิทธิภาพ  พร้อมขอความร่วมมือประชาชนได้มั่นใจในศักยภาพของหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดกระบี่ ว่าจะสามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดได้  
    เขากล่าวว่า ประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องต่อไป ทั้งการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเข้าไปยังแหล่งชุมชน ผู้คนหนาแน่น หากจะเข้าไปต้องป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด คือมีการคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิ การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ และอย่าลืมโหลดแอปหมอชนะ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อสามารถเตือนเมื่อเข้าใกล้ผู้ติดเชื้อ หรือตรวจสอบข้อมูลการเคลื่อนที่ของตนเอง เพราะหากเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง จะได้รับการดูแลและตรวจสอบความเสี่ยงจากสาธารณสุข และที่สำคัญคือการปฏิบัติตนเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ได้ถือปฏิบัติ
    นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นชาย อายุ 37 ปี สัญชาติอินเดีย พักอยู่ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลในจังหวัดกระบี่เพื่อต่อใบอนุญาตทำงานในไทยโดยไม่มีอาการป่วยใดๆ และในวันที่ 5 พฤศจิกายน ทางโรงพยาบาลได้รายงานผลการตรวจ RT-PCR ซึ่งผลยังไม่แน่ชัด ต่อมาวันที่ 6 พฤศจิกายน ได้รับผลการตรวจยืนยันพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกระบี่ และได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งและเลือดเพื่อตรวจภูมิคุ้มกันที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
    จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าผู้ป่วยรายนี้อาศัยที่จังหวัดกระบี่มาระยะหนึ่งแล้ว ประกอบอาชีพทำร้านอาหาร สอบถามประวัติการเดินทาง พบมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาล 7 ราย ผู้สัมผัสร่วมบ้าน 3 ราย และได้เร่งประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดเพื่อสอบสวนสถานที่ต่างๆ จึงพบผู้สัมผัสเพิ่มอีก 10 ราย รวมเป็น 20 ราย และได้ทำการค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในสถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไปในระยะ 14 วันที่ผ่านมา เพื่อทำการเฝ้าระวังต่อไป
    นพ.โอภาสกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชน การ์ดอย่าตก คงมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ขอให้รับฟังข่าวสารทางการจากกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.