โควิด-19 คร่าชีวิตคนไทยเพิ่มอีก 1 ราย แพทย์ชี้มีโรคประจำตัวแทรกซ้อน เบาหวาน-ความดันโลหิตสูง รวมยอดเสียชีวิตสะสม 60 ราย ขณะที่ ศบค.เผยผู้ติดเชื้อใหม่ 8 รายจากต่างประเทศ ชี้ปมติดเชื้อระหว่างกักตัว 3 คนที่สมุทรปราการ ต้องเน้นย้ำเรื่องความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและระบบระบายอากาศ
    เมื่อวันศุกร์ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากชายแดน และในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,818 ราย หายป่วยเพิ่ม 16 ราย ยอดรวมผู้รักษาหายป่วย 3,639 ราย รักษาในโรงพยาบาล 119 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย รวมเสียชีวิต 60 ราย
     สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 มาจากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเพศชาย สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 68 ปี อาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 พ.ย. เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนใน กทม., รายที่ 2 มาจากอินเดีย เป็นเพศชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 36 ปี ทำงานร้านตัดสูท ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 พ.ย.รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม.
    รายที่ 3 มาจากซาอุดีอาระเบีย เพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 56 ปี ว่างงาน ตรวจพบเชื้อวันที่ 3 พ.ย. รักษาที่สถาบันทรวงอก, รายที่ 4 มาจากยูเครน เพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 41 ปี อาชีพพนักงานนวด ตรวจพบเชื้อ 4 พ.ย. รักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี, รายที่ 5 มาจากเนเธอร์แลนด์ เพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 36 ปี ว่างงาน ตรวจพบเชื้อ 4 พ.ย. มีอาการไอ เข้ารักษาที่สถาบันทรวงอก
    และรายที่ 6-8 เป็นชาวเมียนมา เดินทางเข้ามาทางด่านชายแดนไทย-เมียนมา เมื่อวันที่ 26 ต.ค. อายุ 28, 29 และ 41 ปี อาชีพขับรถรับจ้าง ตรวจพบเชื้อวันที่ 26 ต.ค. ก่อนถูกส่งกลับไปรักษาที่เมียนมา ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ราย ซึ่งเป็นรายที่ 60 ของไทย เป็นเพศชาย อายุ 66 ปี สัญชาติไทย เกษียณอายุราชการ มีโรคประจำตัวคือ เบาหวานประเภท 2 และความดันโลหิตสูง เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 19 ต.ค. และเข้ารับการกักตัวที่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ใน จ.ชลบุรี จากนั้นวันที่ 20 ต.ค. พบว่ามีอาการหอบเหนื่อย จึงนำส่งโรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และตรวจพบเชื้อ โดยเป็นผู้ติดเชื้อในลำดับที่ 3719 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 พ.ย.63  
    สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 49,016,480 ราย รักษาหายป่วย 34,979,953 ราย เสียชีวิตรวม 1,239,375 ราย ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศวันที่ 6 พ.ย. รวม 712 คน จาก 13 เที่ยวบิน และวันที่ 7 พ.ย. รวม 400 คน จาก 10 เที่ยวบิน  
    วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย โดยระบุว่า เป็นชาย อายุ 66 ปี สัญชาติไทย อาชีพเกษียณอายุราชการ เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2563 และเข้ารับการกักตัวที่สถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี วันที่ 20 ต.ค.2563 ตรวจพบเชื้อ และแถลงข่าวเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ลำดับที่ 3719
    นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า วันที่ 22 ต.ค.2563 รักษาตัวที่ รพ.บางละมุง สำหรับผู้ป่วยอาการค่อนข้างหนัก จึงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ยาฟาวิพิราเวียร์และเรมดิซิเวียร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ทำให้เลือดเป็นกรด ระบบหายใจล้มเหลว ช็อก และเสียชีวิตในวันที่ 5 พ.ย.2563 นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 60 ของไทย ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
         ขณะที่ พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยากรมควบคุมโรค กล่าวถึงผลการสอบสวนหญิงชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่กักตัวทางเลือกที่จังหวัดสมุทรปราการว่า จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งสายของผู้ติดเชื้อที่เข้าพักในสถานที่กักตัวทางเลือกเดียวกันอีก 3 คน และอยู่ห้องพักติดกัน คือห้อง 607, 609 และ 631 ในช่วงวันที่ 12-15 ต.ค.2563 พบว่า เป็นสายพันธุ์เดียวกันและมีลักษณะส่วนใหญ่เหมือนกัน ส่วนเชื้อที่พบในฟิตเนสนั้นเป็นซากเชื้อที่ไม่สามารถแพร่โรคได้ ถือว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
         "จากการสอบสวนโดยมีวิศวกรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และนักระบาดวิทยาเข้าไปสอบสวนในเชิงโครงสร้างระบบระบายอากาศ พบว่าแอร์ในห้องเป็นระบบหมุนเวียนเฉพาะภายในห้อง ไม่มีการหลุดออกมานอกห้อง ขณะที่ระบบพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำก็ไม่หลุดออกไปที่ห้องอื่นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นจุดแพร่เชื้อ" พญ.วลัยรัตน์กล่าว
       เธอระบุด้วยว่า จากการสันนิษฐาน ย้ำว่าเป็นเพียงการสันนิษฐาน จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าเวลาผู้ติดเชื้อจากห้องแรกคือห้อง 631 ซึ่งเชื้อจะหมุนเวียนอยู่ในห้องของเขา และเมื่อมีการเปิดประตูห้องออกมา ซึ่งจะมีลมพัด ทำให้พัดเอาเชื้อลอยออกมา ซึ่งห้องผู้ติดเชื้ออีก 2 คน อยู่ฝั่งตรงข้าม ระยะทางจากกันเพียง 1.8 เมตร หน้าห้องมีโต๊ะอาหารวางอยู่ ซึ่งเดิมโถงทางเดินจะมีลมปล่อยผ่าน แต่ช่วงโควิด-19 ได้ปิดเอาไว้ ทำให้อากาศหยุดนิ่ง ซึ่งอากาศเช่นนี้ทำให้เชื้อลอยอยู่ได้นาน 3 ชั่วโมง และตกลงพื้นผิวต่างๆ แต่จากการสอบสวนหญิงฝรั่งเศส ให้ข้อมูลว่าสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกมานอกห้อง จึงสันนิษฐานว่าจะเกิดการติดเชื้อในช่วงออกมาใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ออกมารับอาหาร เรื่องนี้ยังต้องสอบสวนต่อไป
    ด้าน นพ.โอภาสกล่าวอีกครั้งว่า จากผลสอบสวนดังกล่าวแปลว่าทั้ง 3 คนมีความเชื่อมโยงกัน และมีข้อสันนิษฐานว่าเกิดจากการถ่ายเทอากาศไม่ดี ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม และจากข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่ต้องเน้นย้ำไปยังสถานที่กักตัวทั้งหลาย เน้นย้ำเรื่องการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและระบบระบายอากาศ.