บางคนเริ่มจะเรียกเขาว่า "ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46" แล้ว
ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์เดินหน้ายื่นคำร้องต่อศาลให้หยุดการนับคะแนนใน 4 รัฐ คือ จอร์เจีย, เพนซิลเวเนีย, มิชิแกน และวิสคอนซิน
ทรัมป์อ้างว่ามีเหตุทุจริตและมี "คะแนนผี" ในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้
แม้จะยังไม่ได้ประกาศชัยชนะ แต่ไบเดนก็ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเขาชนะเลือกตั้งครั้งนี้ค่อนข้างแน่นอนเมื่อมีการนับคะแนน "จนถึงคะแนนสุดท้าย"
และมีแนวโน้มว่าหากนับคะแนนทั้งหมดที่ประชาชนมาหย่อนบัตร ทั้งด้วยตนเองและทางไปรษณีย์แล้ว (หรือ Popular Votes) ไบเดนอาจเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 66.9%
หรือประมาณ 71 ล้านเสียงจากผู้มีสิทธิ์เกือบ 240 ล้านคน
มั่นใจถึงขนาดที่ทีมงานของเขาได้เปิดเว็บไซต์ เพื่อเตรียมการขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ไว้เรียบร้อยแล้ว
เป็นภาพของไบเดนพร้อมกับคำว่า Biden-Harris Transition
หรือเตรียมทีมงานที่จะรับไม้ต่อจากทีมของทรัมป์
ปัญหาอยู่ที่ว่าทรัมป์จะยอมส่งต่ออำนาจอย่างราบรื่นหรือไม่ ในเมื่อเขายังยืนยันว่ามีการโกงเลือกตั้ง และไบเดนได้ปล้นชัยชนะไปจากเขา
ที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ไบเดนมีความชอบธรรมด้วยเสียงที่ออกมาสนับสนุนเขาอย่างล้นหลามเป็นประวัติการณ์
ย้อนกลับไปดูสถิติจะเห็นว่า ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2008 ประธานาธิบดีบารัก โอบามาได้รับคะแนนเสียงจากชาวอเมริกันมากถึง 69,498,516 เสียง
แต่การเลือกตั้งปีนี้ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ หรือ FEC แจ้งว่า คะแนนเสียงที่ไบเดนได้รับขณะการนับคะแนนแล้วเสร็จไปเพียงประมาณ 86 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 71,542,764 เสียง
ขณะที่คะแนนเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ที่ 68,265,026 เสียง
เมื่อยังนับไม่จบคะแนนของไบเดนกับทรัมป์ก็จะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าการนับคะแนนจะแล้วเสร็จ
เชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ เพราะจำนวนบัตรเลือกตั้งมีสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งผู้มีสิทธิ์ที่มาหย่อนบัตรด้วยตนเองและที่มาทางไปรษณีย์
FEC ยืนยันแล้วว่าตัวเลขผู้ใช้สิทธิ์ครั้งนี้ทะลุสถิติของทุกครั้งที่ผ่านมา
บรรยากาศการเมืองในสหรัฐฯ เริ่มจะมีความตึงเครียด และมีการเผชิญหน้าระหว่างสาวกของทั้งสองฝ่ายกันแล้ว
กลุ่มผู้ประท้วงหลายฝ่ายได้ปรากฏตัวขึ้นตามท้องถนนและจุดนับคะแนนในหลายรัฐ
ที่แอริโซนากลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันของทรัมป์รวมตัวกันนอกศูนย์นับคะแนนแห่งหนึ่ง เรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ยอมให้เข้าไปสังเกตการณ์นับคะแนนอย่างใกล้ชิด
อ้างว่ามีคนส่งเบาะแสว่าจะมีการโกง ด้วยการไม่นับคะแนนที่เลือกทรัมป์
ยิ่งเมื่อทรัมป์ให้ท้ายสาวกของตนเองด้วยทฤษฎีสมคบคิด ว่ามีการแอบเอาบัตรเลือกตั้งปลอมเข้ามาช่วยให้ไบเดนได้คะแนนมากกว่าที่เป็นจริง
ประกอบกับความร่วมมือของเจ้าหน้าที่นับคะแนนในรัฐที่บริหารโดยคนของพรรคเดโมแครต
ทำให้การนับคะแนนช่วงท้ายๆ ที่มาจากไปรษณีย์นั้นมีร่องรอยของการปลอมแปลงให้คะแนนของไบเดนแซงหน้าทรัมป์
อีกทั้งยังมีความพยายามที่จะไม่นับคะแนนที่ลงให้ทรัมป์
ทรัมป์ประกาศดุดันว่าเขาจะไม่ยอมรับผลการนับคะแนนของหลายรัฐ และจะร้องเรียนขอให้ระงับการนับหรือไม่ก็ให้นับใหม่
หากไม่สำเร็จในระดับรัฐ ทรัมป์ขู่ว่าจะส่งเรื่องไปถึงศาลสูงเพื่อตัดสินให้ความชอบธรรม
เพราะทรัมป์เชื่อว่าศาลสูงจะอยู่ข้างตนเอง ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วผู้พิพากษาก็ย่อมจะต้องพิจารณาจากหลักฐานที่มีอยู่ มิใช่เป็นเพราะทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดีเป็นผู้เสนอชื่อหลายท่านไปนั่งเป็นองค์คณะตุลาการศาลสูงสุดแต่อย่างใด
ความสับสนอลหม่านเพิ่งจะเริ่มต้น
เราจะได้เห็นความจ้าละหวั่นทั้งบนท้องถนน และความวุ่นวายในการต่อสู้กันทางกฎหมายต่อไปอีกระยะหนึ่งทีเดียว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |