หมอบอนด์เข้าให้ปากคำตำรวจ อ้างมีเจตนาแค่ไลฟ์สินค้าคลีโอช่วยเมียขายของ ทั้งไม่รู้ว่าสวมเสื้อกาวน์แนะนำสินค้าเป็นความผิด ต้นคิดคือหญิงย้วย ยันไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือทำสัญญาจ้างกันแต่อย่างใด ด้าน "น้ำผึ้ง" ออกตัวเป็นผู้เสียหายคนหนึ่ง สูญเงินไปแล้วหลายแสน "วิระชัย" เผยออกหมายเรียกอีก 7 รายแกนนำเครือข่ายเมจิก สกิน นายกฯ สั่ง 3 หน่วยงาน อย.-สมอ.-สคบ.เร่งปราบปลอมอาหารเสริมก่ออันตราย
    เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษณ์ หรือหมอบอนด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม พร้อม น.ส.ปวีณา นามสงคราม หรือน้ำผึ้ง เทคมีเอาท์ ภรรยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม หลังเจ้าหน้าที่พบมีคลิปวิดีโอ นพ.ปิยะพงษ์-ภรรยา และนายกสิทย์ วรชิงตัน หรือหญิงย้วย ร่วมกินรีวิวโฆษณาสินค้าคลีโอ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของเครือเมจิก สกิน โดยมี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ร่วมสอบปากคำ
    นพ.ปิยะพงษ์ หรือหมอบอนด์ ชี้แจงว่า ตนไม่ได้ขายและไม่ได้สมัครเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพียงแต่ภรรยาเข้าไปสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหญิงย้วย หลังจากนั้นเขาให้ภรรยาไปไลฟ์ ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ตนไปงานรับปริญญาน้องสาวภรรยา ทางหญิงย้วยแนะนำภรรยาให้นำตนเข้าไปด้วย แต่ไม่ได้บอกไปรีวิวอะไร ซึ่งตนก็หวังแค่ไปช่วยภรรยาขายสินค้า ทั้งนี้ ก่อนที่ภรรยาจะไปสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้ตรวจสอบเลขที่ อย.แล้ว พบว่ามีอยู่จริง ตนและภรรยาทดลองกินก็ปลอดภัย
    "เขาชวนให้ไปไลฟ์เฉยๆ ให้พูดเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งผมได้ตรวจสอบมาแล้ว เพราะก่อนที่ภรรยาจะมาเป็นตัวแทนได้ตรวจสอบเลข อย.แล้ว ถ้าเป็นไปตามส่วนประกอบด้านหลังและภรรยาผมทานแล้วมันก็ปลอดภัย พูดได้ประมาณหนึ่ง ไม่ได้ต้องการไปรีวิวให้กับทางบริษัท แค่ต้องการช่วยภรรยาเท่านั้น และก็ไม่คิดด้วยว่าคลิปนั้นเป็นการรีวิว"
    หมอบอนด์กล่าวว่า ที่ทางแพทยสภาบอกห้ามใส่เสื้อกาวน์โฆษณาขายสินค้า ตนก็เพิ่งทราบเหมือนกัน ส่วนที่ใส่เสื้อกาวน์ หญิงย้วยบอกภรรยาตนให้นำเสื้อกาวน์ไปด้วย ซึ่งปกติก็อยู่ในรถอยู่แล้ว เมื่อเขาบอกให้ใส่ก็ใส่ เพราะตอนนั้นยังไม่ทราบกฎระเบียบห้ามใส่เสื้อกาวน์โฆษณาสินค้า คิดเรื่องเดียวแค่ช่วยภรรยาขายของเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าเอาอาชีพหมอมารีวิวสินค้า แต่ก็ไม่ทราบเจตนาของหญิงย้วยต้องการอะไร ไม่ได้เป็นการรับจ้างหรือมีสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น สามารถตรวจสอบได้
    ด้าน น.ส.ปวีณากล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยกินยาลดความอ้วนแล้วเกิดใจสั่นและก็วูบ แต่เมื่อมาลองกินผลิตภัณฑ์ของเมจิก สกิน ประมาณ 1 สัปดาห์ น้ำหนักลดลง 1 กิโลกรัม โดยไม่มีอาการข้างเคียง อยากชี้แจงว่าตัวเองเพิ่งไปขายสินค้าคลีโอก่อนที่จะมีปัญหา 1 สัปดาห์ เพราะตนเพิ่งมาสมัครเป็นตัวแทนขาย โดยให้รีวิวร่วมกันกับหญิงย้วย เพราะหญิงย้วยมีคนติดตามเยอะ พร้อมช่วยโปรโมตให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนการสมัครจำหน่ายผลิตภัณ์ของเครือเมจิก สกิน เขาจะต้องขอดูเฟซบุ๊กว่ามีคนติดตามมากน้อยเพียงใด เขาจึงรู้ว่าเราเป็นมาอย่างไร แต่หลังจากเกิดเรื่อง ตนก็ไม่สามารถติดต่อหญิงย้วยได้เลย 
    น.ส.ปวีณากล่าวว่า ที่เชิญสามีเข้าไปไลฟ์ด้วย เป็นเพราะหญิงย้วยบอกว่าเข้ามาคุยกันสนุกๆ เท่านั้น ไม่ได้เอาอาชีพหมอมาการันตีความน่าเชื่อถือ แต่ช่วงเวลานั้นเขาบอกให้รีบๆ เพราะช่วงเวลานั้นคนดูเยอะ จึงทำตามที่เขาบอก โดยหลังจากรีวิว มีคนมาสมัครเป็นตัวแทนเปิดบิล 1,000 บาทเพียง 1 คน อยากบอกว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากบริษัท เมจิก สกิน เหมือนกัน ตนเสียหาย 3-4 แสนบาท จากการที่ไปซื้อผลิตภัณฑ์แล้วจำหน่ายไม่ได้ สินค้าถูกตีกลับ นอกจากนี้ตัวแทนของตนก็ได้รับความเสียหายกว่า 10 คน ที่ตนเข้ามาเป็นตัวแทนเพราะเพิ่งแต่งงาน อยากมีรายได้เสริม เมื่อเห็นเขาขายง่ายจึงอยากขายบ้างเลยไปสมัคร แต่หลังเกิดเรื่องขึ้นมาก็ได้รับผลกระทบมาก ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีบริษัท เมจิก สกิน หรือไม่ ต้องพูดคุยกับตำรวจก่อน
    ขณะที่ พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า นอกจากศิลปิน ดาราที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกไปแล้วก่อนหน้านั้น วันอังคารได้ออกหมายเรียกมาให้การกับเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 7 ราย หลังสืบสวนพบว่าเป็นแกนนำสำคัญบริษัท เมจิก สกิน ประกอบไปด้วย 1.ว่าที่ ร.ต.ปวีร์ ปานดำรงสถิต หรือกลางประพันธ์ อายุ 50 ปี ผู้บริหารระดับสูงโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ของเครือเมจิก สกิน 2.น.ส.ทิพวรรณ ตันไชย อายุ 26 ปี เกี่ยวพันกับ ร.ต.ปวีร์ มีการรีวิวสินค้าหลายตัว 3.น.ส.สุนีย์ กรมสูงเนิน อายุ 25 ปี 4.นายอภิวัส พงศ์พัฒนานุกูล อายุ 32 ปี เจ้าของโรงงานและกรรมการผู้จัดการโรงงานที่กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 5.นายณัฐนันท์ อ่วมแก้ว อายุ 25 ปี 6.นายกฤษณผล พินจอหอ อายุ 30 ปี 7.น.ส.สิริญาณี ฤทธิ์ดีสิริธร อายุ 39 ปี โดยทั้งหมดได้ออกหมายเรียกมาสอบในฐานะพยาน เพราะเป็นแกนนำสำคัญ มีความเชื่อมโยงกันหลายๆ อย่าง จึงมีความจำเป็นเชิญตัวมาให้ปากคำ พร้อมกันนี้ก็ฝากประชาชนช่วยดู ถ้ามีสินค้าตัวไหนมีผลข้างเคียงต่อร่างกายให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้
    "คดีนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชีวิตของประชาชน เป็นเรื่องสำคัญ นอกจากเมจิก สกิน และยาลดความอ้วนลีนแล้ว ได้ตรวจสอบทุกยี่ห้อที่คุกคามร่างกายประชาชน เราต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา อย่างเฉียบขาด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร เป็นนักธุรกิจใหญ่ เป็นผู้กว้างขวาง ดาราดัง ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด"
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวด้วยว่า ในส่วนของหมอบอนด์ หลังจากได้ข้อเท็จจริงมาแล้ว จะทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งแพทยสภา หน่วยงานสาธารณสุข หลังจากสอบปากคำเสร็จจะนำสืบได้ว่าเล็งเห็นผลหรือไม่ ในฐานะที่เป็นนายแพทย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญและเรื่องด้านวิชาชีพ ปกติแล้วคำว่า "นายแพทย์” จะนำมาโฆษณาสินค้าไม่ได้ และจะนำวิชาชีพแพทย์มาโฆษณาสินค้าไม่ได้เช่นเดียวกัน    
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาการหลอกลวงขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอม ไร้คุณภาพ อันตราย ไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า วันนี้ได้สั่งย้ำเตือนไปแล้ว โดยขณะนี้ อย. สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีมาตรการเพิ่มเติมออกมา ซึ่งเดิมอาจจะทำงานตามเฉพาะข้อเรียกร้อง หรือการร้องเรียนแจ้งกลับ ให้ตรวจสอบเป็นหมื่นๆ กิจกรรมก็ทำงานลำบาก วันนี้ได้ให้ไปดูว่าจะต้องปรับบุคลากรต่างๆ ให้มากขึ้นเพียงพอหรือไม่ ตนต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสุ่มตรวจหรือการตรวจเมื่อมีการจดขึ้นทะเบียนต่างๆ
    นายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีการจดทะเบียน จัดตั้ง มีการขายอะไรต่างๆ เดือนหนึ่งเป็นหมื่นๆ ราย ปีหนึ่งๆ เป็นล้านๆ ราย ดังนั้นต้องมาพิจารณาว่าเราจะเข้าถึงปัญหาเหล่านี้ให้ทั่วถึงได้อย่างไร สิ่งสำคัญที่สุด ประชาชนผู้บริโภคจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบด้วย ช่วยกันดู เพราะทุกคนเป็นคนที่เข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะซื้อของ ซื้อยา ต้องตรวจสอบ สอบถามมาก็ได้ว่า อย.ใช่หรือไม่ใช่ เพราะการทุจริต การคดโกง ผู้ที่หลอกลวงคน ทั้งรู้และไม่รู้ก็ยังคงมีอยู่ในระบบ ก็อย่าให้มันเป็นประเด็นความขัดแย้งอีกเลย เราก็ต้องเอาปัญหามาแก้ไขทั้งหมด.