ประธานเนชั่นฯโต้ข่าว'คุณหญิงคนดัง'จ่อใช้นอมินีเข้าถือหุ้นบริษัทหวังคุมสื่ออัดคนปล่อยข่าวเลวมาก


เพิ่มเพื่อน    

6 พ.ย.63 - ความเคลื่อนไหวในแวดวงสื่อสารมวลชน กรณีผู้ประกาศข่าวชื่อดังหลายคนของเนชั่นทีวีและกองบรรณาธิการข่าว-ผู้บริหารเครือเนชั่น ส่วนหนึ่ง ลาออกจากบริษัทพร้อมกันหลายคนในเวลาไล่เลี่ยกัน เช่น ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก กับ สันติสุข มะโรงศรี-สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม โดยส่วนใหญ่ย้ายไปอยู่กับ ช่องนิวทีวี 18

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน ) ได้นัดพูดคุยกับสื่อบางส่วนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจสื่อที่โยงถึงสถานการณ์การเมืองในเวลานี้ แม้แต่กระแสข่าว"คุณหญิงคนดังแห่งวงการการเมืองที่เคยมีภาพตกเป็นผู้ที่พูดถึงอย่างกว้างขวางก่อนหน้านี้" ว่ากำลังจะเข้ามาถือหุ้นในเครือเนชั่นฯ

นายฉาย  กล่าวว่า การที่คนของบริษัท ผู้ประกาศข่าว จะเข้า-ออก เป็นเรื่องการปรับเปลี่ยน ที่เป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ ปีนี้เป็นปีที่ 49 ขององค์กรนับแต่ก่อตั้งเครือเนชั่น ปีหน้า 2563 บริษัทก็จะเข้าสู่ปีที่ 50 ของการดำเนินการ ก็เหมือนต้นไม้ใหญ่ต้องผ่านอะไรมากมาย องค์กรขายความน่าเชื่อถือ ไม่ได้ขายดาราหน้ากล้อง เราขายคอนเทนต์ ขายความรับผิดชอบต่อสังคม ขายข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือต่อสังคม

เขาบอกว่า การที่ นางสาวอัญชะลี ไพรีรักกับ  นายสันติสุข สองผู้ดำเนินรายการข่าวของสถานี  ลาออกไปโดยมีผลสิ้นเดือนนี้ เราไม่ได้ขัดแย้งกัน เพราะยังรักพี่ปอง-สันติสุขเหมือนเดิม ทั้งสองคนก็ยังอยู่จนถึง 30 พ.ย. ส่วนคนอื่นๆ ก็มี เช่น สถาพร เกื้อสกุล พิธีกรรายการเนชั่นเจาะข่าวเย็น ที่ลาออกด้วยเช่นกัน ขณะที่  นายกนก รัตน์วงศ์สกุล นายธีระ ธัญไพบูลย์ ยังไม่มี ทั้งสองคน ก็ยังเป็นพนักงานขององค์กรอยู่ ไม่รู้เรื่องข่าวลือ ข่าวลือมันเยอะจากผู้ไม่ประสงค์ดี เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ก็เป็นวันเกิดนายกนก ก็ไลน์ไปสุขสันต์วันเกิด ก็ยังเป็นพนักงานอยู่ ยังไม่มีเอกสารยื่นใบลาออก ทุกคนยังทำงานตามปกติ ขณะที่นายสนธิญาณ ก็เป็นบุคคลที่ผมรักและเคารพเสมอ

เมื่อถามว่า หลัง อัญชลี ไพรีรัก ยื่นใบลาออกได้มีการพูดคุยถามกันเป็นการส่วนตัวหรือไม่ ประธานเนชั่นฯ บอกว่า ก็มีการนั่งคุยกัน  ไม่มีอะไร เราก็มีความเคารพ มีความรักใคร่กันเป็นส่วนตัว ตอนคุยก็ไม่ได้ถามอะไรกันเยอะ เราก็เข้าใจกัน  การจากไป ก็อาจกลับมา เพราะตอนนี้ อัญชลี  อยู่เนชั่นรอบนี้เป็นรอบที่สอง เพราะเขาเคยทำงานที่เครือเนชั่นมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็เป็นเรื่องปกติจริงๆ เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลง แต่องค์กรเราไม่ได้ล่มสลายไปกับการเปลี่ยนแปลง เรามีพนักงานอยู่เกือบพันชีวิต เราก็ทำหน้าที่ของเราเหมือนเดิม ก็เหมือนอย่างดาราช่อง 3 ย้ายไปช่อง 7 ก็เป็นเรื่องปกติ  

"เราเป็นเหมือนสโมรสรฟุตบอล เรามีนักเตะย้ายออกไป แต่เราก็มี academy ที่จะพัฒนาคนของเรา แต่เราก็ไม่ปิดโอกาสในการจะพูดคุยกับผู้ประกาศ หรือผู้จัดรายการข้างนอก องค์กรเราไม่ได้น่าเป็นห่วง จะห่วงอะไร เพราะมีพนักงานเข้ามา ก็มีพนักงานออกไป ก็เป็นเรื่องปกติ แปลว่าอะไร วันหนึ่งมีผู้ประกาศดังช่องหนึ่ง เสียชีวิต แล้วองค์กรนั้นต้องเจ๊งเลยหรือ ผมว่าไร้สาระ การปล่อยข่าวลือต่างๆ ช่วงนี้เป็นเจตนาร้าย เป็นการไม่หวังดี เป็นการกลั่นแกล้งกันทางธุรกิจ คำพูดผมอาจไม่เพียงพอ แต่ทุกอย่างจะปรากฎอยู่หน้าจอที่จะต้องเห็นต่อไปในอนาคต"

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป  กล่าวยืนยันเรื่องโทนการเสนอข่าวของเครือเนชั่นต่อจากนี้ ที่ถูกมองว่าอาจเปลี่ยนแปลงไป ว่า อุดมการณ์ยังเหมือนเดิม การทำหน้าที่เรายังเหมือนเดิม แต่เราจะระมัดระวังในการทำหน้าที่เพิ่มขึ้น แน่นอน อาจมีคนออกไป ก็ต้องมีคนเข้ามาบ้าง เราก็ดูอยู่ว่าใครที่เหมาะสม ซึ่งสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมกรรมการบริษัท ก็จะมีการสรุปอีกครั้ง

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ฯ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ด้วยว่า ไม่รู้ว่าคนที่พูดหวังผลอะไร โดยที่บริษัทเราอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เราไม่มีปัญหาหนี้สิน เรามีเงินสดเข้าทุกวัน แน่นอนเราอาจกระทบบ้างจากภาวะเศรษฐกิจ การแบนโฆษณา แต่ไม่ได้ทำให้องค์กรกระทบ ยืนยันว่าเราไม่มีนโยบายจะเลิกจ้างพนักงานในเครือ เรามองไปถึงการจ่ายโบนัสพนักงานในปีนี้ด้วยซ้ำ คนปล่อยข่าวเป็นผู้ไม่หวังดี ข่าวลือก็คือข่าวลือ คนก็ถามผมเยอะ เรื่องข่าวลือต่างๆ เช่น การเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งวันนี้ผมก็เห็นว่ามันมากเกินไป

เมื่อถามถึงข่าวลืออาจจะมีพวกนักการเมืองเข้ามาถือหุ้นในบริษัท นายฉาย ตอบว่า จะเป็นไปได้อย่างไร อย่างเนชั่นทีวี ก็ถือหุ้นใหญ่โดยเนชั่นมัลติมีเดียฯ ถือไว้ 70 เปอร์เซนต์ แล้วหุ้นบริษัทเนชั่นฯ ตอนนี้ยังไม่มีการซื้อขาย แล้วมันจะเปลี่ยนมือได้อย่างไร ผมก็ยังอยู่ ผู้ถือหุ้นให้ผมเข้ามาบริหารจัดการ ก็ไม่เคยได้รับแจ้ง ยังไม่มีการเปลี่ยนมือ ก็ได้ยินว่าข่าวลือ ก็มาจากผู้มีชื่อเสียงในสภาฯ เขาก็ควรระมัดระวังคำพูดมากกว่านี้ ใครจะปล่อยข่าวอะไรก็ต้องระมัดระวัง เพราะเป็นการทำลายกัน

ถามต่อไปถึงกระแสข่าวที่ว่ามีคุณหญิง คนดัง จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท นายฉาย แจงว่า มันเป็นไปไม่ได้ไม่ทราบเรื่องผู้ถือหุ้น แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และโครงสร้างผู้ถือหุ้น ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็มีเปลี่ยนแปลง แต่เปลี่ยนแปลงน้อยมาก ไม่ใช่สัดส่วนใหญ่ของบริษัท เป็นเรื่องของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่ใช่หุ้นใหญ่เปลี่ยนมือ

ถามย้ำว่า เป็นไปได้ไหม จะมีนอมินีเข้ามา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ตอบว่า"ไม่มี  "และกล่าวอีกว่า"ใครที่บอกว่าเนชั่น เราจะเจ๊ง ขอให้กลับไปดูตัวเองเสียก่อน เลวมากพวกปล่อยข่าวลือทั้งหลาย "
สำหรับเสียงวิจารณ์เรื่องการเสนอข่าวของสื่อในเครือเนชั่น ไม่มีความเป็นกลาง จนก่อนหน้านี้มีการมาชุมนุมกันที่ด้านหน้าฝั่งออฟฟิศตึกเนชั่นฯนั้น นายฉายกล่าวว่า หากสื่อในเครือนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ประชาชนสามารถใช้กฎหมายดำเนินการฟ้องร้องได้ ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมก็ไม่เคยฟ้องร้องอะไรเรามีแต่วาทกรรมต่อว่าเราอย่างเดียว ว่าเราบิดเบือน แต่ถามว่าบิดเบือนยังไง ก็ว่ามา มีแต่วาทกรรม ยืนยันว่านโยบายของเราคือไม่ต้องการให้สังคมอยู่ในภาวะเผชิญหน้าหรือมีความเกลียดชังกันจากคณะกรรมการบริษัท แต่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง เราก็จะระมัดระวังให้มากขึ้น เราก็มีการประเมินตัวเราเองตลอด ก็มีการพูดคุยกันตลอดกับกองบรรณาธิการในเชิงของนโยบาย

"ก็มีการเตือนกันตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ว่าเพราะกองบรรณาธิการทำอะไรผิด แต่เราก็มีการพูดคุยกันตลอดเวลา เพราะเราต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม เราต้องดูว่าสิ่งที่นำเสนอไปเหมาะสมหรือไม่ เป็นคุณเป็นโทษหรือไม่ กับสถานการณ์ต่างๆ ก็มีการรับฟังเสียงสะท้อนต่างๆ ก็ขอบคุณที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าบริษัทโดยสงบ เรารับฟังทุกความเห็น ก็รับฟังแล้วเราก็มาดู ไม่ใช่ว่าเราเมินเฉย เราไม่ได้มองว่าผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่เราไม่สนับสนุนการจาบจ้วงสถาบันฯ"นายฉาย กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"