ยังอยู่ที่มอสโกค่ะ แถมอากาศหนาวเย็นยะเยือกสุดๆ ด้วยอุณหภูมิลบ 1 ไปจนถึงลบ 16 องศาเซลเซียส ประมาณว่าไม่มีการเงยหน้าเงยตาขึ้นมาเป็นบวกเลยจ้า
ทำให้มนุษย์ป้าที่มีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิที่เคยหนาวที่สุดบ้านเราคือ 18 องศาเซลเซียสนั้น กลายพันธุ์เป็นคนดัดจริตไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว คือ อาทิเช่น พอรู้ว่าพรุ่งนี้อากาศจะเป็นลบ 4 องศา ..แหม! กรี๊ดดีใจเลยทีเดียวว่าอากาศอุ่นขึ้นแล้ว!!
บ้าบอ!! หรือความหนาวทำให้สมองกลายเป็นอัลไซเมอร์ชั่วขณะกระมัง ที่ดีใจจัง.. ลบ 4 องศาคืออุ่น!!
ก็ต้องบอกว่า คุณไปอยู่รัสเซียช่วงหน้าหนาวแล้วจะรู้สึกแบบเดียวกับมนุษย์ป้า ขนาดที่เรียกว่า มีวันหนึ่งที่ต้องเดิน เดิน เดิน ฝ่าลมหนาวจากฟากถนนหนึ่งไปอีกถนนหนึ่งแค่ 500 เมตรเอง ก็เกิดความรู้สึกฉับพลันขึ้นมาว่า ...อ้อ!! คนหนาวตายเขารู้สึกอย่างนี้นี่เอง นั่นคือ มันเจ็บไปทั้งขา ปวดไปถึงกระดูก นิ้วแข็ง มือชาไร้ความรู้สึก ทั้งๆ ที่สวมถุงมือ ถุงเท้า รองเท้าบูตเต็มอัตรา ขนาดถ้าไม่แข็งใจเดินก็จะก้าวเท้าแทบไม่ออก ยกขาแทบไม่ขึ้นเลยทีเดียว
ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้ เรามีแอคเซสเซอรีที่แสนทันสมัย อำนวยความสะดวกแบบพกพาไม่หนักหนาสาหัส ด้วยเสื้อผ้าที่เบา แต่หนานุ่ม อีกทั้งมีแผ่นร้อนที่เรียกว่า Hot Pad ให้ความอบอุ่นได้ตลอดเวลา คนเมืองร้อนอย่างเรายังไม่อยากแวะดูอะไรเลย นอกจากวิ่งเข้าไปนั่งรอในร้านกาแฟสตาร์บัคส์ให้เร็วที่สุด
แต่ในวันที่อากาศสดใส ตอนกลางวันมีแดดออก กับอุณหภูมิลบ 1-4 องศา มนุษย์ป้าก็สามารถลั้ลลาได้เหมือนอยู่บนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ จ้า
เมื่ออากาศดีเป็นใจ ก็ต้องแอคท่าถ่ายภาพเป็นที่ระทึกครึกโครมกันเป็นของธรรมดา เพราะแค่คิดว่าจะมีโอกาสไปเยือนมอสโกในช่วงหน้าหนาวอีกไหม...ก็รู้สึกบรื๋ออออ แหยงขึ้นมาทีเดียว ดังนั้น เราต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด ด้วยการเก็บภาพประทับใจให้เยอะไว้ก่อนนะคะ
แล้วก็เป็นเรื่องเป็นราวจนได้ค่ะ เพราะกำลังนั่งแอคท่าเอกเขนกถ่ายรูปบนเก้าอี้ยาวกลางถนนสาธารณะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็ให้มีแก๊งฝาหรั่งในชุดย้อนยุคพระเจ้าซาร์ เข้ามาจับไม้จับมือมนุษย์ป้าและขอถ่ายรูปด้วย
ตามประสาคนไทยมีน้ำใจ ดินแดนของรอยยิ้ม ก็พาซื่อเฮฮาปาร์ตี้มารวมหมู่ถ่ายภาพกันยกใหญ่ จากเดี่ยวก็เป็นคู่ แล้วตามด้วยกลุ่ม เสร็จสรรพฝรั่งก็ทักทาย ขอบคุณครับๆ มนุษย์ป้าก็โบกมือบ๋ายบาย...
แต่ขอโทษที อพิโถ อพิถัง อกอีป้าจะระเบิด หนุ่มรัสเซียยื่นมือมาพร้อมกับพูดว่า มันนี่ ...มันนี่
เอ๊ะ! ยังไงกัน ชั้นแอคท่าถ่ายรูปของชั้นอยู่ดีๆ เธอมาขอแจมถ่ายด้วย ชั้นมิได้เชื้อเชิญ หรือเรียกร้องเลย เรื่องอะไรจะต้องจ่ายสตางค์ล่ะ
คำเดียวคือ โน และ Just say No ไม่ว่าเขาจะเดินตามข่มขู่ และบอกว่ามีปัญหาแน่ถ้าไม่จ่ายตังค์
จากมนุษย์ป้าที่เสียงแข็งว่า ไม่ๆ หนุ่มหนวดเฟิ้มก็หันไปหามนุษย์ลุงและมนุษย์ป้าคนอื่นๆ ซึ่งก็ยืนกระต่ายขาเดียวแบบเดียวกัน สุดท้ายเขาก็ท้าทายทำนองว่า ...ทำแบบนี้ไปหาตำรวจ
เข้าทางเราสิคะ เพราะกลัวพวกแก๊งย้อนยุคทำมิดีมิร้ายมากกว่าตำรวจเสียอีก เลยรับคำท้าว่า ไปกัน ตำรวจยืนอยู่ตรงโน้นไง!!
ได้ผลค่ะ กระจัดกระจายไปคนละทาง และเลิกตอแยเราคนไทยใจดีสู้เสือค่ะ
บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกลัวที่จะไปพบตำรวจนะคะ แต่สำคัญเหนืออื่นใดค่ะ อย่าไปไหนเดี่ยวๆ ทะเล่อทะล่าให้ใครชักภาพให้โดยไม่รู้จักมักจี่นะคะ จะเป็นเรื่องค่ะ ยิ่งมีเรื่องในต่างแดน มันไม่สนุกแน่นอน
เกือบไปแล้วไหมล่ะ!! นึกว่าตัวเองสวยจนมีหนุ่มมาขอชักภาพด้วย..เฮ้อ!!.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |