นายสากล ม่วงศิริ ผู้ช่วย รมต.กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ (ที่ 5 จากซ้าย ) ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จ.ขอนแก่น / นายสากล ม่วงศิริ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น ขณะที่เครือข่ายชุมชนท้องถิ่นอีสานจัดการตนเองร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ชุมชนท้องถิ่นขับเคลื่อนงานพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเพื่อ “ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมทางสังคม ให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง”
องค์การที่อยู่อาศัยแห่งสหประชาชาติ (UN – HABITAT) กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’ เริ่มตั้งแต่ปี 2528 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ในโลกให้ความสำคัญกับสถานการณ์การอยู่อาศัยและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ตลอดจนตระหนักถึงสิทธิพื้นฐานของการมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมของประชากรทุกคนบนโลก
ในปีนี้วันที่อยู่อาศัยโลกตรงกับวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย UN – HABITAT มีคำขวัญว่า “Housing for all A better urban future” หรือ “ที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน เพื่ออนาคตเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม” ขบวนองค์กรชุมชนทั่วประเทศร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ จัดมหกรรม ‘บ้านมั่นคง : ที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน เพื่ออนาคตเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม’ ตลอดช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ ทั่วภูมิภาค คือ ภาคกลางและตะวันตกที่จังหวัดสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกที่ จ.ปราจีนบุรี กรุงเทพฯ ภาคเหนือที่ จ.น่าน ภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น และภาคใต้ที่ จ.ชุมพร
ขบวนรณรงค์วันที่อยู่อาศัยโลกที่ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ผช.รมต.กระทรวงการพัฒนาสังคมร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่ขอนแก่น
ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน ขบวนองค์กรชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ จัดงาน ‘วันที่อยู่อาศัยโลกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2563’ ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยมีประเด็นสำคัญในการจัดงาน คือ “การพัฒนาที่อยู่อาศัย สู่แผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยจังหวัด ขอนแก่นโมเดล”
โดยในวันนี้ (4 พฤศจิกายน) เป็นการจัดงานวันสุดท้าย มีนายสากล ม่วงศิริ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นผู้แทนนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.เข้าร่วมงาน พร้อมด้วยนายอนันต์ ดนตรี ผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น นายปฏิภาณ จุมผา รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์ชุมชนฯ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์จังหวัดขอนแก่น (พมจ.ขอนแก่น) ผู้แทนขบวนองค์กรชุมชนภาคอีสาน ภาคกลาง-ตะวันตก กรุงเทพฯ ภาคใต้ ฯลฯ เข้าร่วมงานประมาณ 500 คน
ขอนแก่นแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคงแล้ว 10 เมือง 5,700 ครัวเรือน
นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าว รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยแห่งชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ซึ่งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ขับเคลื่อนการทำงานด้านที่อยู่อาศัยทั้งเมืองและชนบท จึงได้กำหนดจัดงานเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2563 ทั้งในส่วนกลางและในทุกภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลือกจัดงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ในหัวข้อ “การพัฒนาที่อยู่อาศัย สู่แผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยจังหวัด” เพื่อนำเสนอรูปธรรมการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนร่วมกับท้องถิ่น การผลักดันนโยบายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินในรูปแบบการแก้ไขปัญหาระดับเมือง/ตำบล และยังถือโอกาสในการทบทวน สรุปบทเรียน จัดการความรู้ สรุปผลการดำเนินงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ซึ่งก่อตั้งและดำเนินงานมาครบรอบปีที่ 20
ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่นนั้น จังหวัดขอนแก่นร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่นผ่านโครงการบ้านมั่นคงใน 10 เมือง รวม 59 ชุมชน จำนวนกว่า 5,700 ครัวเรือน การแก้ปัญหาที่ดินทำกินใน 36 ตำบล และดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้ครัวเรือนยากจน และกลุ่มคนเปราะบางที่มีปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยในชุมชนผ่านโครงการบ้านพอเพียงชนบทมากกว่า 400 ครัวเรือน ในพื้นที่ 60 ตำบล พร้อมทั้งเกิดการประสานความร่วมมือกับภาคีพัฒนามากกว่า 10 องค์กร
บ้านมั่นคงเทศบาลเมืองชุมแพรูปแบบการแก้ไขปัญหาทั้งเมือง สร้างบ้านไปแล้วใน 13 ชุมชน (โครงการ) รวม 1,052 ครัวเรือน
เสนอสร้างคอนโดฯ รองรับคนจนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟ
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า ในจังหวัดขอนแก่นมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ประมาณ 3,000 ครัวเรือน เฉพาะในเขตเทศบาลนครขอนแก่นได้รับผลกระทบประมาณ 1,000 ครัวเรือน ทางเทศบาลฯ จึงมีแนวคิดในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟฯ
“แต่เนื่องจากที่ดินในเมืองขอนแก่นมีราคาแพง บางแปลงขายกันในราคาไร่ละ 80 ล้านบาท ดังนั้นจึงต้องสร้างอาคารสูงรองรับ ในลักษณะของคอนโดมิเนียมของผู้มีรายได้น้อย และจะต้องมีราคาถูกกว่าค่าเช่าของการเคะแห่งชาติที่มีราคาเดือนละ 999 บาท เพราะประชาชนที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นคนจน ผมจึงขอฝากเรื่องให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด เช่น การเคหะฯ รับไปดำเนินการเพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเทศบาลนครขอนแก่นพร้อมที่จะเช่าอาคารจากการเคหะฯ แล้วนำมาให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยเช่าอยู่อาศัย โดยจ่ายค่าเช่าเป็นรายวันในราคาถูก” นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นกล่าว
ชาวชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนารถไฟที่ จ.ขอนแก่น
กระทรวง พม.ขับเคลื่อนแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย 20 ปี
นายสากล ม่วงศิริ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวง พม.กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ได้ร่วมผลักดันให้มีการดําเนินงานในการคลี่คลายปัญหาข้อติดขัด ระเบียบกฎหมายให้เอื้อต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย การอนุญาตให้ใช้ ให้เช่าที่ดินของรัฐ โดยชุมชนร่วมรับผิดชอบ ในรูปแบบกลุ่มหรือสหกรณ์ ถือเป็นองค์ประกอบสําคัญที่จะทําให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทยบรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทการพัฒนาที่ได้ตั้งไว้ นําไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้
นายสากล ม่วงศิริ (ซ้าย) มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่องค์กรชุมชน 26 องค์กร
“แต่ทั้งนี้พวกเราจะต้องร่วมกันพัฒนาชุมชนและสังคมในมิติอื่น ๆ ไปพร้อมกันด้วย เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การรักษาสุขภาพ และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสําคัญในการพัฒนาศักยภาพขององค์กรชุมชนและพี่น้องในชุมชน ให้มีความสามารถในการพึ่งพาและดูแลตนเองได้ เปลี่ยนจากผู้รอรับการช่วยเหลือ เป็นกลุ่มที่มีความสําคัญ เป็นหลักในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น การสร้างให้เกิดความมั่นคงในที่อยู่อาศัย อาจจะมีปัญหาให้ต้องคิดและแก้ไขตลอดเวลา เช่น ปัญหาด้านที่ดิน ปัญหาการจัดระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ จะทําให้พี่น้องเกิดการเรียนรู้ และเพิ่มความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยมีกลไกคณะทํางานที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะทํางาน คอยกํากับดูแล และคลี่คลายปัญหาข้อติดขัดที่จะเกิดขึ้น รวมถึงบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดในมิติด้านอื่น ๆ ต่อไปด้วย” นายสากลกล่าว
ทั้งนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนที่มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ประมาณ 3 ล้านครัวเรือน โดยมีวิสัยทัศน์ว่า “คนไทยทุกคนจะมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579”
โดยการเคหะแห่งชาติจัดทำแผนงานรองรับที่อยู่อาศัยประชาชนในลักษณะเช่า/ซื้อ ประมาณ 2 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบท รวมทั้งกลุ่มคนไร้บ้าน ตามโครงการบ้านมั่นคงเมือง การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร บ้านมั่นคงชนบท บ้านพอเพียงชนบท (ซ่อมสร้างบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน สภาพทรุดโทรม) ฯลฯ รวม 1,050,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ
การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย 20 ปี
นอกจากนี้นายสากลได้เป็นผู้แทน รมว.พม.มอบงบประมาณสนับสนุนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านพอเพียงชนบทให้แก่ผู้แทนโครงบ้านพอเพียงชนบท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่องค์กรชุมชน 26 องค์กร และมอบเมล็ดพันธุ์ผักให้กับผู้แทนศูนย์ฟื้นฟูและพัฒนาบุคคล ‘บ้านโฮมแสนสุข’ ซึ่งเป็นที่พักพิงของกลุ่มคนไร้บ้านจังหวัดขอนแก่น
เครือข่ายองค์กรชุมชนท้องถิ่นอีสานจัดการตนเองประกาศเจตนารมณ์
ทั้งนี้ในช่วงท้ายของจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี 2563 ที่จังหวัดขอนแก่น ผู้แทนขบวนองค์กรชุมชนภาคอีสานได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ มีเนื้อหาส่วนหนึ่งว่า
“ในห้วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ขบวนองค์กรชุมชนภาคอีสาน มีประวัติศาสตร์และพัฒนาการ การรวมตัวของคน/กลุ่มคนในชุมชน /หมู่บ้าน /ตำบล และคนจนเมือง โดยส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญ เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนด้านต่างๆ ผ่านเครื่องมือและประเด็นงานที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาระบบการออม/กองทุนชุมชน การพัฒนาสวัสดิการชุมชน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาเกษตรยั่งยืน การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและทุนชุมชน การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยที่ดินทำกินแนวใหม่ โครงการบ้านมั่นคงเมือง เป็นต้น
ในสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเป็นยุคทองของการพัฒนา โดยภาคประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานการพัฒนาภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมต่างๆ ขับเคลื่อนการทำงานและบูรณาการแผนงานภาคประชาชน ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคีต่างๆ ร่วมกัน
พวกเรามาวันนี้ก็เพื่อความมุ่งหวังที่อยากจะเห็นการพัฒนาประเทศและชุมชนท้องถิ่นขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องและเพื่อ “ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมทางสังคม ให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง” โดยเครือข่ายองค์กรชุมชนเมืองและชนบทอีสานจัดการตนเองได้จัดทำยุทธศาสตร์ภาคประชาชน และนำเสนอเพื่อผลักดันให้เป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนี้
ประการแรก เหตุผลสำคัญที่ต้องให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ได้แก่ การรวมศูนย์อำนาจทำให้ชุมชนท้องถิ่นได้รับผลกระทบและเกิดความอ่อนแอ การกระจายอำนาจและการจัดการจากส่วนกลางยังไม่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนท้องถิ่น ชุมชน/คนท้องถิ่นต้องการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและกำหนดอนาคตตนเอง เตรียมความพร้อมของชุมชนท้องถิ่นเพื่อรองรับแผนพัฒนาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และชุมชนท้องถิ่นขอมีสิทธิจัดการตนเองด้านการพัฒนาที่ดินและที่อยู่อาศัย
ประการที่สอง ปัญหาที่สำคัญ ได้แก่ การรวมศูนย์อำนาจการพัฒนา และการพัฒนาที่ขาดการมีส่วนร่วมจากชุมชนฐานราก ระเบียบราชการเป็นอุปสรรคพี่น้องประชาชนเข้าไม่ถึงการแก้ปัญหา การพัฒนาที่ผ่านมาทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น คนจนอพยพเข้าเมืองกลายเป็นชุมชนแออัดกว่า 3,600 แห่ง /คนชนบทเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยกว่า 3.9 ล้านคน สังคมเหลื่อมล้ำ คนส่วนน้อยครอบครองที่ดิน คนส่วนมากไม่มีที่ทำกิน เป็นต้น
ประการที่สาม แนวคิด/หลักการการทำงานขบวนองค์กรชุมชน ยึดหลักการสำคัญ ได้แก่ ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง องค์กรชุมชนเป็นแกนหลักในการดำเนินการ ให้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกฝ่าย องค์กรชุมชนบริหารจัดการงบประมาณด้วยตนเอง ประชาชนเจ้าของปัญหาลุกขึ้นมาทำงานแก้ปัญหาของตนเองแบบมีส่วนร่วม และชุมชนท้องถิ่นทำงานพัฒนาแบบองค์รวมทุกเรื่อง ทุกประเด็น
ประการที่สี่ ประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคประชาชน มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองในระดับตำบล เมือง และจังหวัด โดยมีประเด็นงาน คือ ยกระดับสวัสดิการชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชีวิตสู่การปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนเมือง (บ้านมั่นคงเมือง) การแก้ปัญหาที่ดินแนวใหม่ (บ้านมั่นคงชนบท) ใช้สภาองค์กรชุมชนเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนงานพัฒนาสู่ “ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง” การพัฒนาเศรษฐกิจ ฐานรากและทุนชุมชนเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจฐานราก การจัดการทรัพยากร/เกษตร/ภัยพิบัติ/ลุ่มน้ำ/ป่าไม้/สิ่งแวดล้อม/พลังงาน เป็นต้น”
คำประกาศข้อเสนอต่อรัฐบาล 4 ข้อ
1.สนับสนุนงบประมาณและแผนปฏิบัติการชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ขอนแก่นโมเดลของขบวนองค์กรชุมชน
2.พัฒนากลไกและสนับสนุนการทำงาน บูรณการทุกภาคส่วน และติดตามร่วมกันในระดับชาติ
3.ให้ลดผลกระทบและทบทวนโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อชุมชนต้องผ่านเวทีประชาพิจารณ์ของชุมชนท้องถิ่น เช่น รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน เพราะอาจทำให้มีคนไร้บ้านจำนวนมาก และควรมีมาตรการชดเชยและเยียวยาที่สมเหตุสมผล
4.ปัญหาเฉพาะหน้าให้มีการเปลี่ยนแปลงปรับแก้กฎหมายและนโยบายที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาหรือซ้ำซ้อน ซึ่งเป็นอุปสรรค ขัดขวางการแก้ปัญหาให้กับชุมชนท้องถิ่น
“เครือข่ายพี่น้องประชาชนชาวขอนแก่น ภาคอีสาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลจะเปิดมิติใหม่ รับฟังพี่น้องประชาชน เพื่อลดปัญหาและความเหลื่อมล้ำ อันจะนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งออกไปจากสังคมไทย และเข้าสู่การปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง และพวกเราก็พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปตามยุทธศาสตร์ชาติไทย 20 ปีข้างหน้า เพื่อความผาสุก มั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน สืบไป” คำประกาศเจตนารมณ์ของเครือข่ายภาคประชาชนภาคอีสาน และเครือข่ายองค์กรชุมชนด้านที่อยู่อาศัยทั่วประเทศกล่าวย้ำในตอนท้าย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |