วันที่ 3 พ.ย. - นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่ อย่างเป็นทางการ ที่ จ.ภูเก็ต ว่า ตนได้รายงาน
การตรวจราชการงานวัฒนธรรม ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ โดย วธ.จะมุ่งขับเคลื่อนโครงการแนวทางการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมเศรษฐกิจบนฐานวิถีชีวิตใหม่ :ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ด้วยการส่งเสริมการดำเนินงานชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร วัดมงคลวนาราม (วัดในยาง) ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นำเป็นต้นแบบความสำเร็จไปขยายผลสู้การพัฒนาชุมชนอื่นๆ โดยเน้นการปฏิบัติตามหลักธรรมทางศาสนา ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สืบสานวิถีวัฒนธรมที่ดีงาม ตลอดจนเทิดทูนสถาบันหลักขอชาติ และเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยว
นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ประชาชนท้องถิ่น โดยให้มีการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงพหุวัฒนธรรม และกิจกรรมท่องเที่ยวที่เข้าถึงวิถีชีวิตชาวบ้าน พัฒนาเมืองศิลปะ รวมทั้งยกระดับเทศกาลงานประเพณีท้องถิ่นสู่ระดับชาติและนานาชาติในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ ทั้งนี้ ตนมอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรม กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย บูรณาการขับเคลื่อนทุกภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในมิติการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ให้ สำนักงานวัฒนธรรม 6จังหวัดฝั่งอันดามัน ค้นหา และนำเสนอนำอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อต่อยอดรูปแบผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมให้เป็นที่ยอมรับของตลาดและต่อยอดจากการที่ จ.ภูเก็ตได้รับการประกาศยกย่องเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจากยูเนสโก
" ขณะเดียวกันให้มีการพัฒนาศักยภาพพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โดยจะต้องมุ่งส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักในพื้นที่จ.ภูเก็ต และกลุ่มเป้าหมายรองคือ คนในพื้นที่ 5จังหวัดฝั่งอันดามัน โดยให้มีการเข้าถึง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง และได้เรียนรู้ ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการถาวรนำเสนอเนื้อหาเรื่องราวทางด้านประวัติศสตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา และศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน และจากการพบปะและประชุมหารือร่วมกับผู้นำทางศาสนา ได้มีความร่วมมือที่จะบูรณาการการดำเนินงานตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยมอบกรมการศาสนา ร่วมกับองค์การศาสนาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชนและประชาชนปฏิบัติตามหน้าที่ของศาสนิกชน และนำหลักธรรมทางศาสนาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ในลักษณะพหุวัฒนธรรม พร้อมกันนี้ ให้ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนาร่วมสร้างความเข้าใจ ความสามัคคีของคนในชุมชน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดระหว่างกัน" นายอิทธิพล กล่าว