ห้ามสส.-สว.หาเสียงอบจ. ‘ทอน’พกความโกรธไปกา


เพิ่มเพื่อน    

 

กกต.ประกาศชัด! ห้ามข้าราชการการเมือง-ส.ส.-ส.ว.-จนท.รัฐ-ผู้บริหารท้องถิ่น ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. "ธนาธร" โหนการเมืองใหญ่ ปลุกมวลชนเทคะแนนให้ผู้สมัครคณะก้าวหน้า สมัครนายก-สมาชิกสภา อบจ.วันที่สองไม่คึกคักเท่าวันแรก
    เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวกรณีพรรคการเมืองได้มีข้อสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองต่อ กกต. กรณีมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 โดยระบุว่า วันนี้ (3 พ.ย.) กกต.ได้พิจารณาข้อสอบถามของพรรคการเมืองดังกล่าวข้างต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่สามารถหาเสียงเลือกตั้งช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งได้
    อนึ่ง ในส่วนรายละเอียดของการตอบข้อสอบถามของพรรคการเมือง กกต.จักได้มีหนังสือตอบข้อสอบถามแจ้งให้พรรคการเมืองทราบ และเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 โดยเร็วต่อไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม กกต. มีการยกกรณีตัวอย่างที่ผู้สมัครสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นไม่สามารถปฏิบัติได้จากการที่ กกต.มีความเห็นดังกล่าวว่า ข้อห้ามดังกล่าวไม่มีการยกเว้น แม้จะอ้างว่าเป็นการไปช่วยหาเสียงในวันหยุดราชการ หรือเป็นการกระทำในทางส่วนตัวก็ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งผู้สมัครท้องถิ่นจะนำภาพบุคคลที่เป็นข้าราชการการเมือง ส.ส. ไปขึ้นรูปคู่ในป้ายหาเสียง หรือเป็นผู้ช่วยหาเสียงจะทำไม่ได้เช่นกัน ขณะเดียวกันผู้ช่วยดำเนินงานของ ส.ส.ก็ไม่สามารถช่วยผู้สมัครท้องถิ่นหาเสียงได้ เพราะถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
    สำหรับมาตรา 34 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ระบุว่า "ในกรณีปรากฏข้อเท็จจริงว่า ข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐกระทำการใดๆ โดยมิชอบด้วยหน้าที่และอำนาจอันเป็นการกลั่นแกล้งผู้สมัครใด หรือดำเนินการใดๆ ที่เป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด ให้ กกต.หรือผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือ กกต.ประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ กกต.มอบหมายมีอำนาจสั่งยุติหรือระงับการกระทำนั้นได้" อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้บัญญติโทษอื่นไว้ชัดเจนสำหรับผู้กระทำ หรือตัวผู้สมัครว่าจะต้องรับโทษอย่างไร
โหนเลือกผู้สมัครก้าวหน้า
    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "อย่าหมดหวังกับการเมือง : สนามต่อไปคือการเลือกตั้งท้องถิ่น 20 ธันวาคม" โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า ขอเชิญชวนทุกคนให้ไปใช้สิทธิพลเมืองของเราเพื่อเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 20 ธ.ค. เลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี คณะก้าวหน้าส่งทีมบริหารท้องถิ่นเข้าแข่งขันในเกือบ 40 จังหวัด เราเชื่อว่าการเมืองท้องถิ่นที่ดีสามารถเปลี่ยนประเทศได้ หมดเวลาการเมืองท้องถิ่นแบบเก่า การเมืองท้องถิ่นต้องไม่เป็นฐานธุรกิจการเมืองให้กับตระกูลใด หมดเวลาการเมืองท้องถิ่นแบบเก่าที่ตระกูลการเมืองท้องถิ่น หรือ “บ้านใหญ่” ผูกขาดอำนาจมานานด้วยระบบอุปถัมภ์และอิทธิพล หมดเวลาการเมืองท้องถิ่นแบบเก่าที่สนับสนุนเผด็จการ และเป็นแข้งขาให้กับเผด็จการในการกดหัวประชาชน
    "ใช้โอกาสนี้ส่งเสียงแห่งความโกรธต่อระบอบเผด็จการเพื่ออภิสิทธิ์ชนของคุณ ใช้โอกาสส่งเสียงแห่งความคับแค้นในชีวิตที่อัตคัตขัดสน ที่ภาษีและทรัพยากรไม่เคยถูกนำมาใช้เพื่อพวกเรา ใช้โอกาสนี้ส่งเสียงของประชาชนที่เขาไม่เห็นหัวว่าเราต้องการการเปลี่ยนแปลง ใช้โอกาสนี้หย่อนบัตรเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานของเรา คณะก้าวหน้าพร้อม เราต้องการทำให้เห็นว่าถ้าการเมืองดี คุณภาพของคนไทยดีขึ้นได้ หากเราได้รับความเชื่อใจจากประชาชน เราจะทำการเมืองท้องถิ่นโดยไม่มีการทุจริต คอร์รัปชัน ภาษี และอำนาจที่เราบริหารจะถูกนำไปรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ อย่าหมดหวังกับการเมือง โอกาสต่อไปที่จะใช้สิทธิพลเมืองของเราคือการเลือกตั้งท้องถิ่น วันที่ 20 ธ.ค.2563 ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หนึ่งเสียงของคุณเปลี่ยนแปลงสังคมได้" นายธนาธรระบุ
    ทางด้านบรรยากาศการเปิดรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เป็นวันที่สอง ภาพรวมไม่คึกคักเท่าวันแรก อย่างที่ห้องประชุมชั้น 3 ของ อบจ.ชุมพร นายพพร อุสิทธิ์ หรือ “ประธานโต้ง” ในนามทีมพลังชุมพร เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ชุมพร พร้อมทีมงานผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้ง 30 เขตเลือกตั้ง โดยมีบรรดากองเชียร์นับพันคนมาส่งเสียงให้กำลังใจอย่างเนืองแน่น ซึ่งได้หมายเลข 3 ไปโดยปริยาย เนื่องจากวันแรกมีผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.แล้ว 2 ราย คือ นายลิขิต ศรีชาติ หรือ “ทนายลิขิต” จับสลากได้หมายเลข 1 และนายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย หรือ “พร มาลัย” ได้หมายเลข 2
    สำหรับนายพพร เป็นน้องเขยของนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองคนดังถึง 2 คน คือ “ลูกหมี” นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ และ “ลูกช้าง” นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต 2 พรรครวมพลังประชาชาติไทย
    ที่ อบจ.พิจิตร นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ อายุ 74 ปี หัวหน้าทีมศิษย์หลวงพ่อเพชร ซึ่งเป็นเจ้าของห้างชัยพงษ์ พลาซ่า อดีตผู้สมัครนายก อบจ.พิจิตร ที่เป็นคู่แข่งกับนายชาติชาย  เจียมศรีพงษ์  อดีต นายก อบจ.พิจิตร และแพ้ไปแบบฉิวเฉียด ได้เดินทางมาสมัครอีกครั้ง พร้อมทีมผู้สมัคร ส.อบจ.ในเขตต่างๆ 12 คน ซึ่งน่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด
    ที่ อบจ.กาญจนบุรี นายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี 2 สมัย หัวหน้าทีมพลังใหม่ ได้เดินทางสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. พร้อมนำลูกทีมสมัครสมาชิกสภา อบจ.ทั้ง 30  เขตเลือกตั้ง โดยได้หมายเลข 2 จากนั้นเดินขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีที่เดินทางมารอเพื่อให้กำลังใจและมอบดอกไม้และพวงมาลัยให้กับนายรังสรรค์ ก่อนเดินทางไปกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน
    ที่ จ.ตาก นายชัยณรงค์ มะเดชะ หรือ " ดร.อาร์ท"  อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตาก เขต 3 พรรคเพื่อไทย และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลแม่ระมาด ได้ประกาศตัวจะลงสมัครนายก อบจ.ตาก ในนามพรรคเพื่อไทย โดยคาดว่าจะเดินทางไปสมัครวันสุดท้ายวันที่ 6 พ.ย.
    ที่หอประชุม อบจ.ขอนแก่น ยังคงมีว่าที่ผู้สมัครทยอยเดินทางมาสมัครรับการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่มาลงสมัครรับการเลือกตั้งในส่วนของสมาชิกสภาเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันยังคงพบว่ามีผู้ให้การสนับสนุนของว่าที่ผู้สมัคร มาติดต่อสอบถามและขอรับเอกสารประชาสัมพันธ์เพื่อนำกลับไปศึกษาและตัดสินใจ เนื่องจากการรับสมัครนั้นจะมีไปจนถึงวันที่ 6 พ.ย.    
สมัครอบจ.วันที่2ไม่คึกคัก
    ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา การรับสมัครเป็นไปค่อนข้างเงียบเหงา โดยมีผู้สนใจทยอยเดินทางมาสมัครสมาชิกสภา อบจ.ในช่วงเช้า 7 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สมัครจากคณะก้าวหน้านครราชสีมา นำโดย ดร.สาธิต ปติวรา ผู้สมัครนายก อบจ. ที่ส่งผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.ทั้งหมด 39 คน จาก 48 คน ส่วนพรรคชาติพัฒนา ทีมโคราชชาติพัฒนาส่งผู้สมัครเฉพาะเขต อ.เมืองฯ ครบ 8 คน 8 เขต  
    ขณะที่กลุ่มสร้างโคราชโฉมใหม่ นำโดย ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล หมายเลข 2 ภริยานายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ส่งลงสนามนี้ ซึ่งมีการนำ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยและผู้สมัคร ส.อบจ.ที่เป็นอดีต ส.จ. และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เช่น นายอดุลย์ อยู่ยืน รวมทั้งอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เช่น นายทักษิณ เขื่อนโคกสูง เดินทางไปกราบอธิษฐานสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถวายเครื่องเซ่นไหว้บนบานบวงสรวงและผูกผ้าแพร 5 สี ขอให้ประสบชัยชนะ ซึ่งเป็นการรวมคนดังๆ หรือรวมดาวสภา อบจ. กว่า 20 คน ที่สมัครใจมาร่วมสนับสนุน  
    ที่สำนักงาน อบจ.บุรีรัมย์ ไม่มีผู้สนใจเดินทางมาสมัครเพิ่มแต่อย่างใด โดย น.ส.ปิยนาฏ กลางพนม ผอ.กกต.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า หลังรับสมัครเสร็จสิ้นจะตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครว่ามีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด และจะประกาศรายชื่อภายใน 7 วัน หรือภายในวันที่ 13 พ.ย. ทั้งนี้ ขอให้ผู้สมัครปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายโดยเคร่งครัด ซึ่งรายละเอียดในการหาเสียงทาง กกต.จังหวัดจะมีการจัดประชุมผู้สมัครและก็ผู้ช่วยหาเสียงทุกคนในวันที่ 8 พ.ย. ที่ศาลาประชาคมจังหวัดบุรีรัมย์ จึงขอให้ผู้สมัคร และผู้ช่วยหาเสียงทุกคนไปประชุมเพื่อทำความเข้าใจในการหาเสียงอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาการร้องเรียนตามมาในภายหลัง นอกจากนั้นการปฏิบัติตนตามประเพณีต่างๆ ยังสามารถกระทำได้ ซึ่งไม่ปรากฏตัวในลักษณะการหาเสียง ห้ามให้เงินและทรัพย์สินอื่นใดในงานประเพณีต่างๆ ในช่วงที่มีการสมัครนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"