รองผู้ว่าฯ จ.ขอนแก่น (ที่ 4 จากขวา) ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จ.ขอนแก่น / เครือข่ายชุมชนทั่วประเทศร่วมงาน ‘วันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2563 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ’ ที่จังหวัดขอนแก่น ชูประเด็น“การพัฒนาที่อยู่อาศัย สู่แผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยจังหวัด ขอนแก่นโมเดล” โดย พอช.สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั้งจังหวัด เริ่มนำร่องที่ขอนแก่นในปี 2564 และจะขยายไปทั่วภาคอีสาน 20 จังหวัด เน้นให้ประชาชนลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาตนเองร่วมกับหน่วยงานภาคี โดยใช้เรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นเครื่องมือไปสู่การพัฒนาทุกมิติ
องค์การที่อยู่อาศัยแห่งสหประชาชาติ (UN – HABITAT) กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’ เริ่มตั้งแต่ปี 2528 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ในโลกให้ความสำคัญกับสถานการณ์การอยู่อาศัยและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ตลอดจนตระหนักถึงสิทธิพื้นฐานของการมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมของประชากรทุกคนบนโลก
ในปีนี้วันที่อยู่อาศัยโลกตรงกับวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย UN – HABITAT มีคำขวัญว่า “Housing for all A better urban future” หรือ “ที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน เพื่ออนาคตเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม” ขบวนองค์กรชุมชนทั่วประเทศร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ จัดมหกรรม ‘บ้านมั่นคง : ที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน เพื่ออนาคตเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม’ ตลอดช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ ทั่วภูมิภาค คือ ภาคกลางและตะวันตกที่จังหวัดสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกที่ จ.ปราจีนบุรี กรุงเทพฯ ภาคเหนือที่ จ.น่าน ภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น และภาคใต้ที่ จ.ชุมพร
ขบวนรณรงค์วันที่อยู่อาศัยโลกที่หน้าอาคารสำนักงานสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
วันที่อยู่อาศัยโลกภาคอีสานจังหวัดขอนแก่น
ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน ขบวนองค์กรชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ จัดงาน ‘วันที่อยู่อาศัยโลกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2563’ ที่จังหวัดขอนแก่น โดยมีประเด็นสำคัญในการจัดงาน คือ “การพัฒนาที่อยู่อาศัย สู่แผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยจังหวัด ขอนแก่นโมเดล”
ภายในงานมีการจัดนิทรรศการแสดงพื้นที่รูปธรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เวทีเสวนา การแสดงศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ โดยมีนายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น ผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์ชุมชนฯ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น (พมจ.ขอนแก่น) ผู้แทนขบวนองค์กรชุมชนภาคอีสาน ภาคกลาง-ตะวันตก กรุงเทพฯ ภาคใต้ ฯลฯ เข้าร่วมงานประมาณ 500 คน
นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลก
นางณัฐนิชา อรรคฮาดจันทร์ ผู้แทนองค์กรชุมชนจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกในครั้งนี้ว่า เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกให้สังคมได้ตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหาที่ดิน-ที่อยู่อาศัย และยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดพื้นที่เรียนรู้ระหว่างขบวนองค์กรชุมชน เครือข่ายชุมชนเมือง ท้องที่ ท้องถิ่น หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ให้รับรู้และเข้าใจแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยที่ต้องสร้างความมั่นคง ตั้งแต่เรื่องที่ดิน ที่อยู่อาศัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน ตลอดจนการพัฒนาระดับเมือง
“นอกจากนี้เรายังมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงขบวนองค์กรชุมชน เครือข่ายชุมชนเมือง ให้ลุกขึ้นมาเป็นแกนหลักร่วมกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างมีส่วนร่วม นำเสนอรูปธรรมทั้งเมืองและชนบท และนวัตกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยด้านต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อเสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับจังหวัด ‘ขอนแก่นโมเดล’ ด้วย” นางณัฐนิชากล่าว
ทั้งนี้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้สนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยในเมืองและชนบททั่วประเทศ ตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีเป้าหมายทั้งหมดประมาณ 1,050,000 ครัวเรือน เช่น โครงการบ้านมั่นคงเมือง โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร คนไร้บ้าน บ้านมั่นคงชนบท โครงการบ้านพอเพียงชนบท (ซ่อมสร้างบ้านเรือนในชนบทที่มีสภาพทรุดโทรม มีฐานนะยากจน)
ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน พอช.สนับสนุนการแก้ปัญหาให้ประชาชนผู้ยากไร้มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยทุกประเภทไปแล้วกว่า 3,000 ชุมชนเมืองและชนบททั่วประเทศ ประมาณ 249,000 ครัวเรือน
ส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้สนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย รวม 19 จังหวัด (จังหวัดบึงกาฬยังไม่เริ่มโครงการ) 84 เมือง 537 ชุมชน จำนวน 28,912 ครัวเรือน เกิดรูปธรรมการดำเนินงานในหลากหลายพื้นที่ และมีรูปแบบการพัฒนาที่หลากหลาย เช่น โครงการบ้านมั่นคงเมือง บ้านมั่นคงชนบท บ้านพอเพียงชนบท ฯลฯ
การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยทั้งเมือง : สู่แผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยจังหวัด ‘ขอนแก่นโมเดล’
นางสนอง รวยสูงเนิน ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยว่า ที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยจะทำทีละโครงการ หรือทำทีละชุมชน แต่ที่เทศบาลเมืองชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราทำกันทั้งเมือง ทั้งเทศบาล รวม 13 ชุมชน กว่า 1,052 ครัวเรือน และนอกจากจะแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยแล้ว เรายังขยายไปทำเรื่องกองทุนต่างๆ นำเงินกองทุนมาทำธุรกิจชุมชน ทำเรื่องการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร มีแปลงนารวม เนื้อที่ 38 ไร่ มีข้าว ผัก ปลา มีโรงงานผลิตน้ำดื่มชุมชน ฯลฯ แต่ก็ยังเป็นการทำในระดับเมือง ยังไม่ได้ทำทั้งจังหวัด
บ้านมั่นคงที่เทศบาลเมืองชุมแพ ต้นแบบการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยทั้งเมือง
“ดังนั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง การพัฒนาที่อยู่อาศัยจะต้องได้รับการผลักดันให้เป็นแผนยุทธศาสตร์ทั้งระดับจังหวัดและระดับชาติ เพื่อสานต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยการนำรูปธรรมที่ดำเนินการในพื้นที่ มาแปรเป็นแผนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยระดับจังหวัด โดยจะเริ่มจากจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดนำร่อง หรือ ‘ขอนแก่นโมเดล’ และจะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัดต่อไป” นางสนองกล่าว
สำหรับแผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยจังหวัด หรือ ‘ขอนแก่นโมเดล’ นั้น นางสนองกล่าวว่า จะเริ่มดำเนินงานในปี 2564 เช่น ที่อำเภอบ้านไผ่ จะมีแผนงานการพัฒนาที่อยู่อาศัย การป้องกันภัยพิบัติ (น้ำท่วม) ในเขตอำเภอเมืองจะมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ทำให้ต้องย้ายบ้านเรือนออกจากที่ดิน 2 ข้างทางรถไฟ โดยจะมีแผนการจัดหาที่ดินใหม่ เพื่อสร้างบ้านสร้างชุมชนใหม่ ฯลฯ
ทั้งนี้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่นผ่านโครงการบ้านมั่นคงใน 10 เมือง รวม 59 ชุมชน จำนวนกว่า 5,700 ครัวเรือน การแก้ปัญหาที่ดินทำกินใน 36 ตำบล และดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้ครัวเรือนยากจน กลุ่มคนเปราะบางที่มีปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยในชุมชนผ่านโครงการบ้านพอเพียงชนบทมากกว่า 400 ครัวเรือน ในพื้นที่ 60 ตำบล พร้อมทั้งเกิดการประสานความร่วมมือกับภาคีพัฒนามากกว่า 10 องค์กร
เวทีเสวนา : ใช้การแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเครื่องมือพัฒนา
การจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่ จ.ขอนแก่น วันนี้ (3 พฤจิกายน) มีเวทีเสวนาเรื่อง “บทบาทหน่วยงานในการ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยตามยุทธศาสตร์ 20 ปี” ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วยผู้แทนหน่วย งานต่างๆ ผู้แทนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ผู้แทนชุมชนพื้นที่รูปธรรม
นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา ประธานอนุกรรมการโครงการบ้านมั่นคง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ ‘พอช.’กล่าวว่า พอช. จะใช้จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองนำร่อง ทำทั้งในเมืองและชนบท ทำทุกพื้นที่ และจะขยายไปทำทั้ง 20 จังหวัดในภาคอีสาน และ พอช.ไม่ได้มองเรื่องการพัฒนาการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยแบบแยกส่วน แต่ทำทุกเรื่อง ทั้งเรื่องที่ดิน ทำกิน การส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ การพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง เมืองเข้มแข็ง ชีวิตที่เข้มแข็ง โดย พอช.สนับสนุนให้คนจนรวมตัวกันแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่น โดยใช้โครงการบ้านมั่นคงเป็นเครื่องมือ ทำให้คน จนมีสิทธิ มีศักดิ์ศรี มีสถานะ
นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา
“โครงการบ้านมั่นคงได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนจนในหลายๆ มิติ และทำให้คนจนมีทรัพย์สิน เพราะเรื่อง บ้านก็เป็นทรัพย์สิน บ้านหลังหนึ่งมีมูลค่าอย่างน้อยๆ ก็ประมาณ 1 ล้านบาท ที่สำคัญคือทำให้คนจนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง” นางสาวสมสุขกล่าว
นางสาวสมสุขกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยจังหวัด ‘ขอนแก่นโมเดล’ ว่า แผนยุทธศาสตร์ฯ ‘ขอนแก่นโมเดล’ จะเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานรวมทั้งหมด 20 จังหวัดลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาของตัวเอง โดยเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง เริ่มจากการสำรวจข้อมูล เพื่อนำมาจัดทำเป็นแผนของชุมชน ท้องถิ่น อำเภอ สู่แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยจังหวัด เพื่อนำไปสู่การสร้างชุมชนเข้มแข็ง เมืองเข้มแข็ง จังหวัดเข้มแข็ง โดย พอช.พร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณไปถึงชุมชน โดยตรง
“ตอนนี้ชาวบ้านจะต้องตื่นขึ้นมาเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เป็นผู้รอรับ หรือเป็นผู้ถูกวางแผน แต่ต้องตื่นขึ้นมาวางแผนแก้ไข ปัญหาเอง และให้หน่วยงานต่างๆ มาร่วมแก้ปัญหา โดยชาวบ้านต้องจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาโดยชาวบ้านมีส่วนร่วม เป็นผู้จัดการ ถือเป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนจะต้องเดินหน้าอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม โดยใช้เรื่องการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยเป็นตัวขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนาเรื่องอื่นๆ เช่น ที่ดินทำกิน สวัสดิการชุมชน สร้างกองทุนต่างๆ ขึ้นมา” นางสาวสมสุขกล่าวย้ำ
ต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและจัดการปัญหาที่ดิน
นายอภิชาติ ศิริสุนทร ประธานคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่ดินเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน โดยเป็นผลกระทบจากการพัฒนา ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ทำให้คนจนถูกเบียดตกขอบ แต่ที่ผ่านมารัฐไม่มีแผนรองรับ
นายอภิชาติ ศิริสุนทร
“คนจนควรจะมีที่ดินทำกิน มีที่อยู่อาศัย เพราะเป็นต้นทุนชีวิต เป็นต้นทุนที่มาจากปู่ย่าตายาย เช่น คนจนที่อยู่ ในเขตป่าสงวนฯ เขตอุทยานฯ ถูกขับไล่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่คนส่วนน้อยมีที่ดินมาก เป็นที่ดินเก็งกำไร เป็นสินค้า เป็นปัญหา ความเหลื่อมล้ำของสังคม ส่วนที่ดินในเมืองส่วนใหญ่เป็นที่ดินของรัฐไม่น้อยกว่า 8 กระทรวง 19 กรม คืออำนาจอยู่ในมือ ของราชการทั้งหมด คนจนเข้าไม่ถึง การขอใช้ประโยชน์ที่ดินมีความยุ่งยาก มีขั้นตอนเยอะ เช่น ที่ดินการรถไฟฯ ควรจะให้คนจนเช่าได้ ไม่ใช่ให้เฉพาะนายทุน” ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าว
ประธานฯ กล่าวด้วยว่า จากปัญหาดังกล่าว รัฐจึงควรแก้ไขกฎหมาย หรือผ่อนปรนระเบียบข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้คนจนเข้าถึงทรัพยากรที่ดิน โดยการกระจายอำนาจ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจอนุมัติการใช้ที่ดิน เพราะท้องถิ่น จะรู้ข้อมูลและปัญหาดีกว่าส่วนกลาง และต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและจัดการปัญหาที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยด้วยชุมชนเอง และหากประชาชนในพื้นที่ใดมีปัญหา ขอให้ส่งเรื่องเข้ามาที่คณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมาธิการฯ จะเป็นเวทีกลางและเชิญหน่วยงานต่างๆ มาร่วมแก้ไข ปัญหา
เสนอสร้างอาคารสูงรองรับคนจนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟ จ.ขอนแก่น
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า เมืองขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่จึงมีประชาชน จากพื้นที่ต่างๆ อพยพเข้ามาทำมาหากิน จึงมีประชากรแฝงเยอะ ทำให้มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย คนที่มีรายได้น้อยต้องไป บุกรุกที่ดินของการรถไฟฯ และเมื่อมีโครงการรถไฟรางคู่ผ่านจังหวัดขอนแก่นทำให้คนจนได้รับผลกระทบ เช่น ตายายครอบ ครัวหนึ่งโดนบริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทานรางรถไฟสั่งให้รื้อบ้านที่อยู่ในเขตสัมปทานออกครึ่งหลัง และให้ค่าชดเชย 7,000 บาท และบ้านครึ่งหลังที่เหลือไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องอพยพออกไปหาที่สร้างบ้านใหม่ หาสังกะสี หาไม้ ทำเพิงพัก อยู่ไปตามยถากรรม
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์
“พอมีโครงการรถไฟความเร็วสูงมาที่ขอนแก่นอีก คราวนี้มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบอีกพันกว่าหลัง ชาวบ้านที่พอจะ มีเงินบ้างก็สามารถเข้าร่วมโครงการกับ พอช.ได้ แต่คนที่ไม่มีเงินเลยก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนมารองรับ เทศบาลนครขอนแก่น จึงมีแนวคิดที่จะเสนอให้ พอช.สร้างอาคารสูงเพื่อให้เป็นที่พักอาศัยของประชาชนกลุ่มนี้ โดยเทศบาลฯ จะขอเช่าอาคารจาก พอช. เพื่อนำมาให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเช่าในราคาถูก ถือเป็นบริการสาธารณะสำหรับคนที่ไม่มีเงินและกำลังจะกลาย เป็นคนไร้บ้าน” นายธีระศักดิ์กล่าวถึงแนวคิดของเทศบาลนครขอนแก่นในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากการ พัฒนาเส้นทางรถไฟ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |