ครม.'สมุย-ภูเก็ต' งัดมาตรการเชิงรุก ท่องเที่ยวปลอดภัย


เพิ่มเพื่อน    


    "บิ๊กตู่" ยกขบวน ครม.ปลุกพื้นที่ท่องเที่ยวไทย "สมุย-ภูเก็ต" ฟื้นตัวจากพิษโควิด-19  พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลั่นงัดมาตรการเชิงรุกท่องเที่ยวปลอดภัย โอดทำผิดเพราะอยู่นานเกินไป ชี้สังคมยุคใหม่ไทยต้องมีแกนหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
    เมื่อวันจันทร์ เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจในการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและภูเก็ต ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2563 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง มายังท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ตำบลบ่อผุด  อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อลงพื้นที่ตรวจความพร้อมมาตรการคัดกรองโควิด-19 รองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ
    นายอนุทินกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มีนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ดังนั้นการคัดกรองและกักกันโรคผู้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยจึงมีความสำคัญ โดยได้เตรียมความพร้อมทั้งสนามบินสมุยและสนามบินภูเก็ต ทั้งการวัดไข้ ระบบตรวจคัดกรอง ระบบห้องปฏิบัติการ ระบบแอปพลิเคชันในการติดตาม โรงแรมที่ใช้ในการกักตัวเป็น ALQ รวมถึงบุคลากร ยา และเวชภัณฑ์ต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยสามารถรับนักท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยและสามารถควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัด
    นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้จำลองว่ามีนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special  Tourist Visa (STV) เดินทางด้วยเครื่องบินถึงเกาะสมุย ใช้รถรางลำเลียงผู้โดยสารเข้ามายังทางเข้าอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ จากนั้นผ่านด่านคัดกรอง โดยทำความสะอาดมือและรองเท้า วัดอุณหภูมิร่างกาย หากระหว่างคัดกรองมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการตามนิยามผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ได้แก่ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จะถูกสอบสวนโรคที่ห้องแยกกัก พร้อมรายงานข้อมูลตามระบบและส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเกาะสมุย
    "หากผ่านการวัดอุณหภูมิจะตรวจเอกสารทางราชการ ได้แก่ หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ  (Fit to Fly) ผลตรวจปลอดเชื้อโควิด 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ใบจองโรงแรม ALQ หนังสือเดินทาง  ประกันสุขภาพ 1 แสนเหรียญ ใบ ตม. แอปพลิเคชัน Samui Health Pass และแอปพลิเคชัน COSTE  จากนั้นคัดกรองสุขภาพ พิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และพิธีการศุลกากร จากนั้นเจ้าหน้าที่โรงแรมรับนักท่องเที่ยว ทำการเช็กอินออนไลน์ ทำลายเชื้อบนกระเป๋าเดินทาง และไปยังโรงแรมที่เป็นสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด (Alternative Local Quarantine : ALQ) เพื่อกักตัว 14 วัน ตรวจหาเชื้อขณะกักตัวอย่างน้อย 3 ครั้ง โดยส่งตรวจโรงพยาบาลเกาะสมุย เมื่อพบการติดเชื้อจะส่งรักษาโรงพยาบาลเกาะสมุย โดยผู้เดินทางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างกักกันและการรักษาโดยสมัครใจ หากไม่พบเชื้อเมื่อกักตัวครบ 14 วันก็สามารถไปท่องเที่ยวต่อได้ ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่เชื้อ เป็นการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย" รมว.สาธารณสุขกล่าว
    นายอนุทินกล่าวว่า ขณะที่สนามบินภูเก็ตมีระบบการดำเนินการคัดกรองผู้เดินทางเช่นเดียวกัน  โดยส่งตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11/1 จังหวัดภูเก็ต และโรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์สามารถออกผลตรวจได้ภายใน 1 วัน  มีการใช้ระบบแอปพลิเคชันติดตามตัว และมีมาตรการเชิงรุก เตรียมแผนเฝ้าระวังค้นหาในสถานพยาบาล ชุมชนพื้นที่เสี่ยง ประชากรกลุ่มเสี่ยง  และเฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มอาการและโรคทางเดินหายใจ โรคปอดอักเสบ รวมถึงมีความพร้อมด้านสถานที่กักกันระดับจังหวัด (Local Quarantine) และสถานที่กักกันทางเลือก (Alternative Local Quarantine)  ซึ่งผู้กักกันต้องชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดเช่นกัน
    ขณะที่ในเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี​และ รมว.กลาโหม​ เดินทางไปพบปะประชาชนที่วัดพระเจดีย์แหลมสอ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้มาเกาะสมุย​ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายกฯ ไปที่ไหนก็นึกแต่ประชาชนของเรา เพราะเราคือคนไทยด้วยกันทั้งประเทศ จึงขอส่งความห่วงใยไปยังจังหวัดอื่นๆ ด้วย  วันนี้มารับฟังความเห็นและปัญหาเพื่อนำไปขับเคลื่อนไปด้วยกัน โดยที่ผ่านมาเราพยายามดำเนินการหลายอย่างมาก่อนมีโควิด-19 ที่รัฐบาลทำหลายอย่างเพื่อวางพื้นฐานทุกจังหวัด
    "แต่วันนี้ไม่สบายใจ​ เพราะเห็นครั้งที่แล้วที่เคยมากับวันนี้เปลี่ยนไปเยอะ ความเงียบเหงาธุรกิจร้านค้าต่างๆ ทำให้นายกฯ เจ็บปวดหัวใจ และเป็นสิ่งที่เราต้องมาพัฒนาเพื่อทำให้การท่องเที่ยวภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง วันนี้จึงมาประชุม ครม.ในพื้นที่ภาคใต้ และได้ให้ ครม.ไปเยี่ยมเยียนพื้นที่ต่างๆ พร้อมกระจายตรวจติดตามปัญหาในนามพรรคร่วมรัฐบาล" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า นายกฯ และ ครม.มีความห่วงใยทุกเรื่องทั้งสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ที่ระยะแรกจำเป็นต้องล็อกดาวน์อะไรบ้าง ซึ่งทำให้การแก้โควิด-19 ของเราเป็นอันดับแรกๆ ของโลก และเราต้องภูมิใจความเป็นไทยของเราที่แม้ทำให้ทุกอย่างมีความขัดแย้งอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้การแก้ปัญหาของเราทำได้ดีที่สุดระดับโลก​ 
    "วันนี้หลายประเทศก็รอว่าเมื่อไหร่เราจะเปิดประเทศ แต่ถ้าเปิดอิสรเสรีคนมากันตรึม ซึ่งเรามีการตกลงจะผ่อนคลายได้อย่างไร พื้นที่ไหนมีความเสี่ยงต่ำ เรากำลังเริ่มผ่อนคลาย ยืนยันว่าวันนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับควบคุมได้ มีการติดเชื้อที่ตรวจสอบได้ในพื้นที่กักกัน ทั้งหมดเป็นผลจากการทำงานของรัฐบาล ร่วมมือกันกับส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ  
    นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็เจอทุกปัญหา แต่เชื่อว่าทุกปัญหาแก้ได้ ดังนั้น​อะไรที่ทำให้เดือดร้อน นายกฯ ต้องขอโทษด้วย​ ทุกอย่างไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อทุกคน เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับไปล็อกดาวน์อีก อย่างไรก็ตาม​ประเทศไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังให้ดีที่สุด ซึ่งมาตรการคัดกรองมีหมดแล้ว ส่วนสถานการณ์อื่นๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจรัฐบาลต้องบริหารภาพรวมของประเทศ โดยวันนี้ภาพใหญ่เริ่มดีขึ้น รัฐบาลพยายามดูให้ครบทุกกลุ่มที่เป็นห่วงโซ่ ทุกอย่างเชื่อมโยงกันทั้งหมด  
    นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า วันนี้ขอให้ลองทบทวนที่ผ่านมา 4-6 ปีมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง มองภาพรวมเหมือนต่างประเทศที่ให้มองไกลตัวด้วย แต่ส่วนใหญ่มักมองใกล้ตัว โดยต้องเตรียมการตั้งแต่วันนี้เพื่อลูกหลานของเราวันหน้า ทั้งนี้​ทุกคนมีความคิดที่แตกต่าง ดังนั้น​การปรับเปลี่ยนต่างๆ ไม่ง่ายเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ แต่ถ้าเรารวมใจไทยสร้างชาติ ไม่ว่าใครทำอะไรถ้าดีสนับสนุน โดยต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อผู้ใดผู้หนึ่ง
    "บางคนบอกนายกฯ มีปัญหานู่นนี่ ร่ำรวย ทุจริต เขาวัดกันด้วยอะไร เขาวัดกันด้วยการดำเนินคดี การตัดสินของศาล และผมก็ยังไม่เห็นผมทำอะไรผิดสักอย่าง บางคนบอกผมผิดเพราะผมอยู่นานเกินไป  เบื่อขี้หน้า ผมไม่รู้เหมือนกันอยู่ในกติกาข้อไหนของการเมืองไทย แต่ผมก็ไม่ว่า หลายคนบอกผมผิดโน่นผิดนี่ ผมไม่ว่าอะไร ผมฟังเฉพาะศาล" พล.อ.ประยุทธ์​กล่าว
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันนี้อยู่ในโลกดิจิทัล​ ตนไม่ได้ห้ามอ่านถึงห้ามฟัง แต่ถ้าจะเชื่อทุกอย่างก็เป็นเรื่องของพวกท่าน มันควรจะเชื่อทุกอย่างหรือไม่ที่เขียนลงไป บางทีไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เรื่องที่เป็นสาระกลับไม่สนใจ แต่วันนี้ห้ามไม่ได้ เป็นเรื่องของสังคมโลกยุคใหม่ ประเทศไทยมีแกนหลัก​ ชาติ​  ศาสนา ​พระมหากษัตริย์ เราเกิดบนแผ่นดินไทย อย่าให้ใครทำลาย รัฐบาลข้าราชการทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์​ และประชาชน เราเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยสักอัน นั่งๆ กันอยู่ก็เลือกตั้งมาทั้งนั้น คนที่เลือกคือประชาชน ทุกอย่างเคยมีประวัติศาสตร์ ถ้าจะปรับแก้อะไรก็ต้องดูประวัติศาสตร์ จะได้ไม่เกิดขึ้นอีกแค่นั้น หากวันหน้าทุกอย่างเรียบร้อยก็จะเป็นไปตามที่ต้องการ แต่จะต้องมีกติกา หลักเกณฑ์ สังคม สำคัญที่สุดครอบครัว 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้ร้องเพลง "คนดีไม่มีวันตาย" ร่วมกับประชาชน  จากนั้น​ได้ร่วมกิจกรรมกวนขนมกาละแมที่คนในพื้นที่จัดเอาไว้ โดยประชาชนได้ขอให้นายกฯ อยู่รักษาบ้านเมืองไปนานๆ ดูแลประชาชนด้วย ขณะที่นายกฯ ตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า "Yes sir" โดยประชาชนได้ตอบกลับว่าจะดูแลนายกฯ ด้วยเช่นกัน
    หลังจากนั้นในเวลา 15.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยทันทีที่มาถึงก็ได้ตรวจมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนายกฯ ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพการตรวจทางห้องปฏิบัติการสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
    พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวว่า สิ่งสำคัญตอนนี้จะต้องคิดว่าจะเอาคนต่างชาติเข้ามาได้อย่างไร ซึ่งต้องมีการกักตัว 14วัน จึงมีปัญหาว่าจะต้องมีห้องพักมีโรงแรมที่เพียงพอ ไม่ใช่ว่าเข้ามาวันนี้แล้วจะไปต่อได้  ปัญหาคือห้องพักมีโรงแรมจำกัด จึงอาจจะไม่สามารถรับคนใหม่ได้อีกเลยเพราะต้องพักถึง 14 วัน จึงได้ให้ไปดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะลดเวลาเหลือ 10 วัน โดยได้ให้ไปหาวิธีการว่าลดอะไรลงมาได้หรือไม่อย่างไร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"