วันนี้ 3 พฤศจิกายน 2020 เป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ
    เราจะรู้ผล (บางส่วน) ก็คงจะเป็นเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายนเวลาบ้านเรา
    แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ และโควิด-19 
    อาจทำให้คนอเมริกันไม่รู้ผลว่าใครชนะ ใครแพ้ ในวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้...หรืออาจจะลากยาวไปเป็นสัปดาห์หากมีการร้องเรียนให้นับคะแนนใหม่กันในหลายๆ เขตเลือกตั้ง
    เพราะทรัมป์ขู่เอาไว้แล้วว่า เขาจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้หากมีข้อสงสัยในเขตเลือกตั้งใดว่ามีการนับคะแนนที่ไม่ตรงกับที่เขาอยากเห็น
    เหตุผลประการสำคัญคือ การลงคะแนนผ่านไปรษณีย์ ซึ่งทรัมป์กล่าวหามาตลอดว่าเป็นหนทางแห่งการโกงคะแนนเพื่อช่วยโจ ไบเดน
    อีกทั้งยังมีปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือคนอเมริกันกว่า 96 ล้านคน ได้ใช้สิทธิ์เลือกประธานาธิบดีของเขาและเธอล่วงหน้าแล้ว
    ในจำนวนคนที่ใช้สิทธิ์ล่วงหน้านั้น ประมาณกันว่า 2 ใน 3 ทำผ่านไปรษณีย์
    นั่นจะทำให้การนับคะแนนล่าช้าไปกว่าปกติไม่น้อย
    เพราะหลายรัฐมีกฎหมายที่ระบุว่าจะเปิดซองนับคะแนนที่มาทางไปรษณีย์ก่อนวันเลือกตั้งไม่ได้
    ทำให้กระบวนการนับคะแนนช้าไปทั่วประเทศ
    นักวิเคราะห์บอกว่าปีนี้จะมีคนใช้ไปรษณีย์ในการลงคะแนนเสียงระหว่าง 50-70%
    เปรียบเทียบกับ 23% ของ 4 ปีก่อนแล้ว ย่อมแปลว่ามีจำนวนซองที่ต้องเปิดเพื่อนับเป็นคะแนนเพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งเท่าตัว
    เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐที่จำนวนคนอเมริกันลงคะแนนเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ใช้สิทธิ์ก่อนวันเลือกตั้งจริงเสียอีก
    จึงเป็นไปได้ว่าในหลายๆ รัฐกว่าผลการหย่อนบัตรจะปรากฏชัดเจนอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์
    หลายรัฐอาจจะต้องรอไปรษณีย์ส่งบัตรเลือกตั้งมา แม้จะเลยวันเลือกตั้งแล้ว เพราะตราบเท่าที่ซองจดหมายนั้นประทับตราว่าได้ส่งภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน ก็ต้องถือว่าเป็นบัตรที่ต้องนับด้วย
    ดังนั้นการทำ exit polls หน้าคูหาเลือกตั้งอย่างที่ทำกันทุกครั้งของการเลือกตั้งก็อาจจะไม่สามารถให้ภาพว่าใครกำลังนำใครในรัฐไหนได้แม่นยำเหมือนที่ผ่านมา
    เพราะคนไปใช้สิทธิ์ในคูหาเลือกตั้งในวันเลือกตั้งจะมีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่จะเลือกผ่านไปรษณีย์แล้ว ไม่อยู่ในข่ายที่จะถูกสัมภาษณ์หน้าคูหาเลือกตั้งหลังใช้สิทธิ์เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
    สื่อทีวีและสำนักข่าวทั้งหลายที่เคยสามารถประกาศว่ารัฐนี้รัฐนั้นน่าจะเป็นของผู้สมัครคนนั้นคนนี้นั้นจะทำไม่ได้อีกต่อไป
    ต้องใช้วิธีการโทรศัพท์ถามตามบ้านที่ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าไปแล้ว
    ซึ่งก็จะทำให้ความแม่นยำของการพยากรณ์คะแนนเสียงครั้งนี้ยุ่งยากซับซ้อนและขาดหายไปอย่างมาก
    คะแนนที่นับจากคูหาเลือกตั้งในช่วงแรกๆ หลังปิดหีบเลือกตั้งจึงไม่สามารถจะเป็นเครื่องวัดอะไรได้เลย และมีแนวโน้มว่า ในบางรัฐนั้น คนที่ไปใช้สิทธิ์หย่อนบัตรด้วยตัวเองในวันเลือกตั้งจะเป็นคนที่แสดงผลจากนับคะแนนก่อน และคะแนนที่นับช่วงแรกๆ นั้นอาจจะเป็นของทรัมป์
    เพราะผู้สนับสนุนทรัมป์มักจะชอบไปใช้สิทธิ์ด้วยตนเอง ไม่นิยมลงคะแนนผ่านระบบไปรษณีย์เท่ากับคนที่ชื่นชมไบเดน
    ในอีกบางรัฐ คะแนนที่มาทางไปรษณีย์ก่อนวันที่ 3 พฤศจิกายน จะถูกนับก่อน และคะแนนกลุ่มนี้อาจจะเป็นของไบเดนในสัดส่วนที่สูง
    เพราะคนที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตมีแนวโน้มจะใช้สิทธิ์ทางไปรษณีย์มากกว่าคนที่เชียร์รีพับลิกัน
    รัฐ “ชี้ขาด” ที่พึงจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่ แอริโซนา, ฟลอริดา, จอร์เจีย, มิชิแกน, มินเนโซตา, นอร์ทแคโรไลนา, โอไฮโอ, เพนซิลวาเนีย, วิสคอนซิน เป็นต้น
    แต่ละรัฐเหล่านี้ก็มีวิธีนับคะแนนทางไปรษณีย์ที่แตกต่างกันออกไป
    ที่จะเป็นประเด็นร้อนกว่านั้นและอาจจะทำให้การนับคะแนนจบลงไม่ได้ง่ายๆ ก็คือการที่ทั้งทรัมป์และไบเดนอาจจะร้องเรียนและขอให้นับคะแนนใหม่ในกรณีที่มีข้อสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
    หากเป็นเช่นนี้ หลายๆ กรณีก็อาจจะต้องไปตัดสินกันที่ศาลสูงของสหรัฐ
    จะเป็นเรื่องที่วุ่นวายซับซ้อนร้อนแรงแน่นอน
    ดังนั้นเราจึงจะต้องคอยผลการเลือกตั้งด้วยความอดทนและติดตามการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็รู้ดำรู้แดงก่อนวันที่ 20 มกราคมปีหน้า
    เพราะเป็นวันที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าผู้ชนะการเลือกตั้งจะต้องสาบานตนเข้ารับตำแหน่งวันนั้น.