ชาวสวนยางเฮ!สิ้นปีพุ่ง100บาทแน่ ชี้โควิดสร้างโอกาสเร่งผลิตถุงมือ


เพิ่มเพื่อน    

1 พ.ย.63- นายประยูรสิทธิ์ คณานุรักษ์ ประชาสัมพันธ์ เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์  ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 63 ระยะ 2 วัน ยางได้ราคาร่วงมา 9 บาท / กก. โดยเฉพาะน้ำยางสด ซึ่งตรงกับวันที่ตลาดกลางยาง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หยุดทำการ ทำให้น้ำยางสด จาก 72 บาท / กก. มาเหลือ 63 บาท / กก. โดยประมาณ  ส่งผลต่อจิตวิทยา จึงขอส่งสัญญาณว่าชาวสวนยางไม่ต้องวิตกกังวล  เป็นการทุบราคาเพราะกลุ่มนักเก็งราคาซื้อขายในตลาดล่วงหน้า ต้องการดึงราคาให้ต่ำลงมา เนื่องจากได้ซื้อขายล่วงหน้าไว้ในราคาต่ำ แต่เมื่อถึงกำหนดตามสัญญาส่งมอบยาง ราคาได้ขยับขึ้น ส่งผลให้ต้องหาซื้อยางที่ราคาสูง จึงจะส่งผลกระทบต่อภาวะขาดทุน จึงต้องลากราคาลงมาเพื่อป้องกันมิให้ขาดทุนมาก 

นายประยูรสิทธิ์ กล่าวว่า  ทางออกของชาวสวนยาง ไม่ต้องกังวลกรีดยางแล้วให้เก็บยางสต๊อกไว้ ราคาจะขยับสูงขึ้นอีก เพราะขณะนี้ในภาคใต้เข้าสู่ฝดูฝน ไม่สามารถกรีดยางได้เต็ม แม้จะกรีดได้แต่มีปริมาณยางน้อยมากที่มาจากหลายปัจจัยที่ประสบอยู่ 

ด้าน ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ  คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่  กล่าวว่า จากรายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ในเดือนตุลาคม 2563 ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม (42.60) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน (41.80) แต่หากเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคม พ.ศ.2562 ซึ่งอยู่ที่ 48.30 นับว่ายังน้อยกว่ามาก 

ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมที่เพิ่มขึ้นปัจจัยบวกคือ ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เช่น ปาล์มน้ำมันปรับตัวขึ้นจากราคาน้ำมันปาล์มดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการใช้พลังงานไบโอดีเซลภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น  จึงผลักดันให้ราคาทะลายปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และปัจจัยบวกที่สำคัญที่สุด คือราคายางพารา ได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยล่าสุดราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ที่ ตลาดกลางยางพารา จังหวัดสงขลา พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุด 82.76 บาท/ กก. ขณะที่ราคายางยังคงอยู่ในแนวบวกอย่างต่อเนื่อง และสูงสุดในรอบ 3 ปี 5 เดือน 

ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า โดยคาดกันว่า ราคายางในประเทศจะขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 90 บาทในอีกไม่นาน โดยปัจจัยที่ส่งผลจากหลายปัจจัย ดังนี้  1.การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ มีความต้องการใช้ถุงมือยาง โดยเฉพาะน้ำยางข้นที่จะนำไปใช้ผลิตเป็นถุงมือยาง ส่งผลให้น้ำยางข้นมีราคาสูงขึ้น ในขณะที่การผลิตยางแผ่นดิบ และยางแผ่นรมควัน รวมถึงเศษยางมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงงานผลิตล้อยาง และสินค้าอื่น ๆ เมื่อมีความต้องการสูง แต่สิ่งที่มีอยู่จำนวนน้อยกว่าความต้องการ จึงทำให้ราคายางแผ่นมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำยางข้นเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย 

2. ยางพาราในตลาด มีจำนวนที่น้อยลงมาก เนื่องจากแรงงานเมียนมา ซึ่งเป็นแรงงานส่วนใหญ่ที่รับจ้างกรีดยางได้เดินทางกลับประเทศในช่วงที่ประเทศไทย ประกาศล็อกดาวน์ ทำให้ในปัจจุบันแรงงานอีกจำนวนมาก ยังไม่สามารถกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ 

3. สภาพอากาศในกลุ่มประเทศผู้ผลิตยางพารา เวียดนาม จีนตอนใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย มีฝนตกชุก เกิดน้ำท่วมขัง และมีพายุพัดผ่านหลายลูก ส่งผลให้ผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาดน้อยลง  4. ในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งตรงกับกำหนดส่งมอบยางตามสัญญาซื้อขายที่ทำไว้ล่วงหน้า ทำให้ผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ยาง และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้ง ยังมีการเก็งกำไรเกิดขึ้นในประเทศ จนเกิดความกังวลว่าผลผลิตยางพาราจะไม่เพียงพอสำหรับความต้องการใช้ของตลาดต่างประเทศ 

ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ยังคงอยู่ในระดับ 80 กว่าบาท / กก. และอาจจะดีดตัวไปถึง 100 บาท / กก. ได้ และราคาจะทรงอยู่เช่นนี้อย่างน้อยไปจนถึงกลางปี พ.ศ.2564  แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งช่วงนั้นราคายางจะเริ่มตกลงตามลำดับ เนื่องจากความต้องการถุงมือยางได้ลดน้อยลง 

ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากผลการศึกษา พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นประชาชนภาคใต้ เดือนตุลาคม ดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน รายได้จากการทำงาน และความสุขในการดำเนินชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษตรชาวสวนยาง เนื่องจากราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"