“ไทย” พบผู้ติดเชื้อเพิ่มรายใหม่อีก 12 ราย จาก 7 ประเทศ “บิ๊กตู่” เตือนลอยกระทงก็อย่าการ์ดตก “สธ.” ยันหั่นลดเวลากักตัวเหลือ 10 วัน มีผลวิชาการยืนยันจากฝรั่ง “หมอยง” เชื่อยอดคนตายโควิดของไทยยังน้อยกว่าฆ่าตัวตาย!
เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12 รายจาก 7 ประเทศ โดยทั้งหมดอยู่ในสถานกักกันโรค ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,775 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,585 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 131 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 59 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 เดินทางมาจากประเทศฟิลิปปินส์ เพศชาย สัญชาติบราซิล อายุ 32 ปี อาชีพวิศวกร, รายที่ 2 มาจากสหรัฐอเมริกา เพศชาย สัญชาติไทย อายุ 34 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว, รายที่ 3, 4 มาจากอินเดีย โดยเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 31 ปี พนักงานนวด/สปา และเพศชาย สัญชาติอินเดีย เป็นพนักงานบริษัท รักษาในโรงพยาบาลเอกชน กทม.
รายที่ 5-8 มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สัญชาติไทยทั้งหมด เป็นเพศหญิง อายุ 26 ปี พนักงานนวด เพศหญิงอายุ 30 ปี, เพศชาย อายุ 42 ปี พนักงานร้านอาหาร และเพศชาย อายุ 52 ปี พนักงานบริษัท, รายที่ 9 มาจากจอร์แดน เป็นนักศึกษา เพศชาย สัญชาติไทย อายุ 25 ปี, รายที่ 10 มาจากเอธิโอเปีย เพศชายสัญชาติเอธิโอเปีย อายุ 43 ปี เป็นผู้ป่วยมารักษาโรคอื่น
ส่วนรายที่ 11 และ 12 เป็นผู้ที่เคยมีประวัติติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน โดยรายที่ 11 เดินทางมาจากอินเดีย เป็นเพศหญิง สัญชาติอินเดีย อายุ 45 ปี อาชีพแม่บ้าน และรายที่ 12 มาจากเมียนมา เพศหญิง สัญชาติเมียนมา อายุ 30 ปี เป็นผู้ป่วยมารักษาด้วยโรคอื่น ตรวจมีประวัติเคยติดเชื้อเมื่อ 23 ก.ย.2563
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 31 ต.ค.ว่า เป็นเรื่องที่ดีในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทย แต่ไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่เราป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะจัดเทศกาล ขอให้รักษามาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เราทำได้ดีมาโดยตลอด ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อยากให้ทุกคนตระหนักในการป้องกันโควิด-19 ไปท่องเที่ยวอย่างไม่ประมาท ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังคงแพร่ระบาดอย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดยประเทศที่มีผู้ป่วยรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ซึ่งไทยยังคงควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ดี สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือการรักษามาตรการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญขอให้ประชาชนการ์ดไม่ตก สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด และหลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสบริเวณใบหน้า
“นโยบายลดระยะเวลากักตัวของผู้เดินทางมาจากต่างประเทศจาก 14 วัน เหลือ 10 วันนั้น จากการศึกษาของคณะกรรมการวิชาการภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติพบว่า การกักตัว 14 วันและ 10 วัน มีอัตราการติดเชื้อหลัง 14 วันต่ำมาก และไม่แตกต่างกัน โดยหลังวันที่ 10 ต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และสามารถติดตามตัวได้รู้ว่ามีอาการป่วยหรือไม่” นพ.โสภณกล่าว
นพ.โสภณยืนยันว่า หลายประเทศได้ลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน ได้แก่ ฮังการี สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ สโลวีเนีย และลัตเวีย ซึ่งมาตรการลดวันกักตัว ได้อาศัยข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการของแต่ละประเทศที่เปลี่ยนตามสถานการณ์ความเสี่ยง ร่วมกับการประเมินสถานการณ์รายประเทศ และความจำเป็นในการดูแลผู้เดินทางมาจากต่างประเทศให้อยู่ในสถานที่ป้องกันการแพร่เชื้อได้ดี ก่อนกำหนดเป็นนโยบายใหม่
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้พบอัตราการติดเชื้อโควิดพุ่งทั่วโลก 45 ล้านคนแล้ว คาดว่าสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ 80-100 ล้านคน การพบจำนวนผู้ป่วยมากสะท้อนว่าอัตราการเสียชีวิตของโรคไม่ได้รุนแรง คาดว่าอัตราตายของโควิดอยู่ที่ 2% แต่สิ่งสำคัญคือการบริหารทรัพยากรเพื่อรับมือกับโรคนี้ โดยไทยพบผู้ป่วยมากที่สุด 188 คนต่อวัน ในช่วงที่มีการระบาดระลอกแรก ซึ่งหากการระบาดระลอก 2 ไทยมีผู้ป่วย 5 คนต่อประชากรล้านคน เชื่อว่าสามารถรับมือได้
“ขณะนี้ห่วงเรื่องการติดเชื้อจากประเทศเพื่อนบ้านที่อาจเข้าไทยได้ โดยหากหมดหน้ามรสุมภายใน 1-2 เดือนนี้ เชื่อว่าจะมีการอพยพของแรงงานข้ามชาติเข้าไทยหรือมาเลเซียได้ง่ายขึ้น พื้นที่น่าจับตาคือ จ.ระนอง และพรมแดนธรรมชาติอื่นๆ ต้องเฝ้าระวังให้ดี ซึ่งขณะนี้การรับมือของไทยถือว่าทำได้ดี อัตราตายคงที่ 59 คน ซึ่งเชื่อว่าคนเสียชีวิตจากโควิดยังน้อยกว่าอัตราการฆ่าตัวตายในปีนี้”ศ.นพ.ยงระบุ
วันเดียวกัน มีกระแสข่าวว่าตำรวจ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง จับแรงงานต่างด้าว 9 คน และมีการตรวจพบเชื้อโควิด 1 คน ซึ่งแรงงานต่างด้าวบอกว่าพักอยู่ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ประมาณ 2 เดือนนั้น ทำให้นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ สสจ.สงขลา และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เร่งตรวจสอบ โดยนายจารุวัฒน์ได้สั่งให้ฝ่ายปกครอง อ.รัตภูมิ ลงสอบสวนแบบปูพรมทุกหมู่บ้านของ อ.รัตภูมิ แต่ยังไม่พบข้อมูลต่างด้าวพักอาศัย
นายจารุวัฒน์ยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันโรคติดต่อ จ.สงขลา ลงไปสอบสวนต่างด้าวที่ถูกจับกุมที่ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุงแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปข้อมูลได้มากนัก เนื่องจากต่างด้าวแต่ละคนพูดจาวกไปวนมาและไม่ตรงกัน แต่ต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะได้ความจริงให้เร็วที่สุด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |