30 ต.ค.63 - พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
เรื่องที่คนไทยต้องรู้ไว้
วันนี้ผมฟังคุณสันติสุข พูดถึงกรณีคณะราษฎร 2563 ยื่นเรื่องให้ปฎิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อแล้ว ดีใจที่สื่อไทย ยังมีคนรักชาติเห็นว่าอะไร คือภัยของชาติ ผมจึงขอเพิ่มเติ่มในส่วนที่คุณสันติสุขไม่มีเวลาพูด ดังต่อไปนี้ (มี 10 ข้อ ผมขอพูดถึง 4 ข้อก่อน เดี๋ยวยาวมากไปครับ)
1️.ยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ที่ว่าผู้ใดจะกล่าวหาฟ้องร้องพระมหากษัตริย์มิได้ แล้วเพิ่มบทบัญญัติให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถพิจารณาความผิดของพระมหากษัตริย์ได้ เช่นเดียวกับที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับคณะราษฎร
เรื่องนี้พูดไม่จบครับ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในหลวง ร.7 ได้เขียนไว้ว่าเป็นฉบับชั่วคราว หลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนต่อมา ก็มีการร่าง"รัฐธรรมนูญฉบับใหม่" ห้ามฟ้องร้องต่อองค์พระมหากษัตริย์ เหมือนกับรัฐธรรมนูญของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ 27 ประเทศ และประเทศในเครือจักรภพอังกฤษอีก 43 ประเทศ รวมเป็น 70 ประเทศ โดยที่คณะราษฎรสนับสนุนเองด้วยแล้วพวก(มึ..)จะให้ประเทศไทยแก้ประเทศเดียวหรือไง
2️.ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
กรณีนี้ต้องเข้าใจว่า ในหลวงเป็นประมุขของประเทศ ทุกประเทศต้องมีกฏหมายคุ้มครองประมุขอยู่แล้ว ไม่ว่าเป็นระบบพระมหากษัตริย์ หรือระบบประธานาธิบดี
บางประเทศใช้กฏหมายความมั่นคงแทน เช่น มาเลเซีย สหรัฐฯ และประเทศที่เป็นมุสลิมทุกประเทศ ฯลฯ (ดังนั้นลองไปด่าพระมหากษัตริย์ หรือประมุข รอบประเทศไทยดูบ้างซิ รับรองจบแน่ๆ ไม่นับที่ทะลึ่งมาหาว่าคนไทยไปอุ้มฆ่าถึงนอกประเทศอีกด้วย อาจจะเป็นเพราะไปทำเรื่องแบบนี้ในประเทศที่รู้จักพระมหากษัตริย์ดีก็ได้) )
นอกจากนี้ ทูตต่างประเทศที่เข้ามาประจำอยู่ในไทย ก็ได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายในแบบ มาตรานี้เช่นกัน เพราะถือว่าเป็นตัวแทนประมุขของแต่ละประเทศ
บ้ากันหรือเปล่า ที่ยื่นข้อเรียกร้องนี้ออกมาโดยไม่ได้อ่าน ไม่ได้คิดอะไรให้ดีเสียก่อน
3️.ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2561 และให้แบ่งทรัพย์สินออกเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง และทรัพย์สินส่วนพระองค์ที่เป็นของส่วนพระองค์พระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน
เงินของสำนักงานทรัพย์สินฯนั้น มีคณะกรรมการที่มี รมว.คลังร่วมอยู่ด้วย
และเงินที่ได้จากการลงทุนในภาคเอกชน ก็เสียภาษีทุกแห่ง กำไรที่ได้ ก็ใช้ประโยชน์ในการทำนุบำรุงวัดวาอาราม สถานที่สำคัญ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่สร้างรายได้หลักของประเทศ อีกส่วนใช้เป็นทุนในการสร้างโรงพยาบาล โรงเรียนนับพันแห่งทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
สาเหตุที่ไม่ให้เอกชนดำเนินงานแทน เพราะในสมัยคณะราษฎร(2475)มีการโกงเอาที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ที่คณะราษฎรยึดมาแบ่งกันไว้ แล้วเอาไปซื้อขายกันเองในราคาต่ำมาก ไม่นับที่โกงกินกันเอง ฯลฯจนมีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลพระยาพหลฯต้องลาออก และคืนที่ดินที่ซื้อขายมา ฯลฯ มีบันทึกไว้ชัดเจนในประวัติศาสตร์
4️.ตัดลดงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรให้กับสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
ปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว แม้จะดูมากแต่จริงๆแล้ว
เงินเหล่านั้นล้วนแต่สนับสนุนโครงการต่างๆที่ช่วยเหลือประชาชน มาอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าเทียบกับงบประมาณที่รัฐบาลจะต้องจ่ายเงินใช้หนี้เงินที่ถูกโกงกินจากโครงการจำนำข้าว โครงการรถคันแรก รวมทั้งเงินที่รัฐบาลขณะนั้นไม่ได้นำมาจ่ายให้กับกองทุนประกันสังคม ฯลฯ
แล้วเงินที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ ต้องจ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินกู้ แทนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นจำนวนนับหมื่น นับแสนล้าน โดยไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรขึ้นมาแก่ประเทศชาติและประชาชนเลย อะไรจะมากกว่ากัน
วันนี้ขอเพิ่มเติ่มคุณสันติสุขแค่4 เรื่องก่อน วันพรุ่งนี้จะต่อ
ให้ครบ 10 เรื่องเลยครับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |