ไทยพบป่วยโควิดเพิ่ม 4 ราย มาจากต่างประเทศ แพทย์เผยดีเอ็นเอแหม่มฝรั่งเศสไม่ตรงกับ 2 รายที่ติดเชื้อในสถานกักโรคเดียวกัน ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบนโยบายกักกันโรคฯ รองรับเปิดประเทศ จ่อชง ศบค.ลดกักตัวจาก 14 เหลือ 10 วัน 
     เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,763 ราย หายป่วยสะสม 3,570 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 134 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 59 ราย  
    สำหรับผู้ป่วยใหม่รายที่ 1 เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 24 ปี อาชีพนักศึกษา ประวัติเคยมีอาการไข้สูง เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 21 ต.ค. ตรวจครั้งแรก วันที่ 24 ต.ค. ผลตรวจพบเชื้อ มีอาการไอ มีเสมหะ เข้าพักในสถานที่กักกันของรัฐใน กทม. รักษาตัวที่สถาบันประสาทวิทยา ส่วนผู้ป่วยใหม่รายที่ 2 เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 40 ปี อาชีพพนักงานนวด-สปา เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 23 ต.ค. เคยมีประวัติมีอาการไข้ ไอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ตรวจครั้งแรกวันที่ 26 ต.ค. ผลตรวจพบเชื้อ มีอาการไอ ปวดศีรษะ เข้าพักในสถานที่กักกันของรัฐ กทม. รักษาตัวที่โรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี 
     ผู้ป่วยใหม่รายที่ 3 เดินทางมาจากประเทศคูเวต เป็นหญิง  สัญชาติคูเวต อายุ 67 ปี อาชีพแม่บ้าน เป็นผู้ป่วยมารักษาด้วยโรคอื่น เคยมีประวัติมีอาการไข้สูง เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 25 ต.ค. ตรวจครั้งแรก วันที่ 25 ต.ค. ผลตรวจพบเชื้อ มีอาการไอ มีเสมหะ เข้าพักในสถานที่กักกันของรัฐ กทม. รักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม. ขณะที่ผู้ป่วยใหม่รายที่ 4 เดินทางมาจากประเทศคูเวต เป็นชาย สัญชาติคูเวต อายุ 19 ปี อาชีพนักศึกษา เคยมีประวัติมีอาการไม่รับรู้ กลิ่น รส ผู้ติดตามผู้ป่วย เมื่อวันที่ 24 ต.ค. เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 25 ต.ค. ตรวจครั้งแรก วันที่ 24 ต.ค. ผลตรวจพบเชื้อ มีอาการไอ มีเสมหะ เข้าพักในสถานที่กักกันของรัฐใน กทม. รักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน นนทบุรี 
    นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงผลการถอดรหัสสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ เชื้อโควิด-19 ของหญิงชาวฝรั่งเศส ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และผู้ป่วยต่างชาติอีก 2 ราย ที่กรมควบคุมโรครายงานก่อนหน้านี้ว่า เบื้องต้นผลตรวจออกแล้ว โดยผลถอดรหัสสารพันธุกรรมของหญิงชาวฝรั่งเศส ไม่เหมือนกับของอีก 2 ราย ถือเป็นเชื้อคนละกลุ่มกัน 
    นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลดังกล่าวเป็นผลเบื้องต้น ซึ่งทำให้ทราบว่า หญิงฝรั่งเศส ไม่ได้ติดเชื้อมาจากผู้ป่วย 2 คนที่อยู่ในสถานกักกันเดียวกัน เนื่องจากเชื้อคนละสายพันธุ์ แต่จากการสอบสวนโรคที่ผ่านมา ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าติดภายในโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือก เพราะหญิงฝรั่งเศสเดินทางมาถึงและอยู่ในสถานกักกันตัวทางเลือกถึง 17 วัน จึงมีอาการ ทั้งๆ ที่โดยปกติเมื่อรับเชื้อคนจะแสดงอาการและป่วยประมาณ 7-10 วัน ซึ่งเมื่อมาพบเชื้อวันหลังๆ และพบในปริมาณมาก ก็แสดงว่าเพิ่งได้รับเชื้อ จึงคาดว่าติดจากในสถานกักกัน ส่วนจะติดจากใคร หรือต้นตอมาจากที่ไหน ขณะนี้กำลังสอบสวนโรคต่อไปอีก แต่ที่แน่ๆ คือต้องมีการจัดการพื้นที่ในสถานกักกันให้ดี เพื่อป้องกันเชื้อปนเปื้อน  
    วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2563 ว่า โจทย์สำคัญในวันนี้คือการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจบนพื้นฐานความปลอดภัยประชาชน ช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไทยยังต้องพึ่งพาต่างชาติ การเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว หรือการค้าการลงทุน จะช่วยให้เศรษฐกิจของเรากลับมาเดินหน้าอีกครั้ง เรื่องเศรษฐกิจสุขภาพเป็นนโยบายสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยยังคงความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคมด้วย 
    นายอนุทินกล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างนโยบายการกักกันโรคในประเทศ (National Quarantine Policy) รองรับการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว ประกอบด้วย 3 หลักการ คือ 1.จัดให้มีระบบการกักกันโรค 2.พัฒนากลไกการบริหารจัดการระบบการกักกันโรคและสถานที่กักกันโรคให้เป็นเอกภาพ 3.เร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการ นอกจากนี้ ต้องมีการกำหนดระบบการจัดการในสถานที่กักกันโรค 10 ข้อ อาทิ ด้านการจัดการสถานที่พัก พื้นที่ส่วนกลางและสถานที่เฉพาะ มีผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอนครบตามจำนวนวันที่กำหนด การคัดกรองการเจ็บป่วย หรือสงสัยติดเชื้อโควิด-19 
    “นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเห็นด้วยกับหลักการเรื่องการลดเวลาการกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน และให้ข้อเสนอแนะให้เน้นเรื่องความปลอดภัย การติดตามตัวได้ มีอาการป่วยหรือไม่ เข้มข้นการปฏิบัติตัวแบบ New Normal โดยจะเสนอ ศบค.พิจารณาต่อไป” นายอนุทินระบุ.