'วาระแห่งชาติ' ภาคประชาชน


เพิ่มเพื่อน    

      "สังคมแห่งชาติ" ตอนนี้ หน้าดำ-คร่ำเครียด กันอยู่ ๓ เรื่อง

      ๑.เรื่องเสือดำ

      -ว่าด้วยคุณเปรมชัย

      ๒.เรื่องดูด

      -ว่าด้วยพรรค-นักเลือกตั้ง

      ๓.เรื่องดอยสุเทพ

      -ว่าด้วยบ้านพักตุลาการ

      เรื่องแรก กระแสกราดเกรี้ยวคงลดระดับลง เมื่อ "อธิบดีอัยการภาค ๗" แถลงปิดบัญชี เมื่อวาน (๓๐ เม.ย.๖๑)

      สรุปฟ้อง ๔ คน นายเปรมชัย กรรณสูต, นายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ รวม ๖ ข้อหา

      -พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน

      -ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

      -ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ)

      -ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซากพวกสัตว์ป่าคุ้มครอง

      -ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นเพื่อพาไปเสียซึ่งซากของสัตว์ป่า และ

      -ร่วมกันเก็บหาของป่า

      และดูเหมือน "นายเปรมชัย" จะมีของแถมอีกหนึ่งคดี

      คือคดี "ติดสินบนเจ้าหน้าที่"!

      ขั้นตอนต่อจากนี้ อัยการก็จะนำคดีพร้อมผู้ต้องหาส่งฟ้อง "ศาลจังหวัดทองผาภูมิ" กาญจนบุรี

      เรียกว่าคดีเข้าสู่ "ระบบศาล" แล้ว

      จึงบอกให้ "ลูกขุนโซเชียลมีเดีย" ทั้งหลาย ได้ทราบ

      ที่กระหน่ำโพสต์-กระหน่ำแชร์ ด้วยถ้อยคำบริภาษและสารพัดวิพากษ์นั้น จะได้เพลาๆ ลงหน่อย

      ไม่ใช่อะไรหรอก..........

      ทะลุด-ทะลาดแบบไม่มีหูรูด เผลอๆ "ละเมิดอำนาจศาล" เข้า มันจะยุ่ง!

      ส่วนเรื่อง "ดูด" ที่ประดิษฐ์คำใช้กับรัฐบาล คสช.ขณะนี้ ว่าใช้อิทธิพลบ้าง หว่านล้อมบ้าง บีบบังคับบ้าง ใช้เงินล่อบ้าง

      เพื่อให้ "อดีตนักเลือกตั้ง" ผละจากพรรคเดิม ไปสวามิภักดิ์ซีกรัฐบาล คสช.

      เลือกตั้งแล้ว ได้เป็น ส.ส.แล้ว ก็หนุนให้ "พลเอกประยุทธ์" เป็นนายกฯ ต่อ นั้น

      เรื่องนี้ ฟังแล้วขำแบบสมเพช............

      เห็นอาการพล่านของบางพรรค-บางคน ด้วยเกรงจะพลาดอำนาจ "หลังเลือกตั้ง" แล้ว

      หลับตาเห็นภาพ "หมางับหางตัวเอง" แล้วหงายท้อง ลุกขึ้นเห่าขรม!

      เอาที่ผมจำความได้

      ก็เห็นเรื่อยมา ทุกยุค-ทุกรัฐบาลเลือกตั้ง ตั้งแต่รัฐบาล "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" เมื่อปี ๒๕๐๐ จนถึงรัฐบาลประชาธิปัตย์-เพื่อไทย ปี ๒๕๕๔

      จะเรียกถอยหลังเข้าคลอง หรือเดินหน้าไปโลกพระอังคาร ก็สุดแต่จะว่า

      แต่ตลาด "นักเลือกตั้ง" ในสังคมประชาธิปไตยเลือกตั้ง มันออกแบบมาให้เป็นอย่างนี้

      อย่าว่าแต่ตลาดเลือกตั้งเลย ตลาดงาน, ตลาดธุรกิจการค้าในทุกสาขาอาชีพ กระทั่งตลาดการกีฬา

      การซื้อตัว, ย้ายค่าย, เปลี่ยนสังกัด เป็นเรื่องเกิดขึ้นปกติ อย่างนักฟุตบอล เห็นมั้ย ซื้อตัว-ย้ายค่าย ทีละเป็นหมื่นล้าน-เป็นพันล้าน

      นี่...ด้านธุรกิจ

      คนละหลักการกับการเมือง จะถือเป็นตรรกะบนฐานเดียวกันทางตัวอย่างยึดถือไม่ได้ เพียงเทียบให้เห็นแนวมนุษย์เท่านั้น

      และดูกันให้ชัด..........

      การย้ายสังกัด, การดูด จะเกิดจาก "ฝ่ายเดียว" ไม่ได้

      มันเกิดจาก "ความพอใจ" และตกลงกัน ของ "คน ๒ ฝ่าย"

      เห็นได้ "ทั้งโลก"........

      ประเทศไหน "ประชาธิปไตยเลือกตั้ง" หนีไม่พ้นการซื้อตัว-ดึงตัว แต่จะซ่อน "ความละอาย-อดสู" ในพฤติกรรมตัวเองไว้ใต้คำว่า

      "อุดมการณ์ตรงกัน-นโยบายพรรคตรงกัน" จึงไปรวมอยู่ด้วยกัน!

      ระบอบ "ประชาธิปไตย" นั่นน่ะ ไปดูเหอะ กติกาที่ทั้งโลกยึดถือ

      มีประเทศไหนบ้าง ให้ "ยึดคุณภาพ-คุณธรรม" เป็นใหญ่

      เห็นมีแต่ให้ "ยึดปริมาณ" เป็นใหญ่-เป็นความถูกต้อง!?

      ก็ประชาธิปไตยเลือกตั้งทุกวันนี้ หลักการมันเป็นอย่างนี้ ไม่ว่าใคร-พรรคไหน ถ้าเข้ามาในระบบนี้ มันก็ต้องเดินไปตามนี้

      ดังนั้น จะเห็นเลยว่า เลือกตั้งทีไร............

      ไม่ปรากฏ "ใคร-พรรคไหน" ที่ไม่ดึง, ไม่ดูด, ไม่ชักชวน, ไม่ซื้อตัว "นักเลือกตั้ง" ของอีกฝ่าย ให้มาอยู่ฝ่ายตน?

      ในเมื่อประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ออกแบบให้ยึด "ปริมาณเป็นใหญ่"

      แล้วนักหากินในคราบประชาธิปไตย จะ "ถ่มน้ำลายรดฟ้า" ให้มันหล่นใส่หน้าตัวเองทำไม?

      ถามตรงๆ..........

      แต่ละพรรคที่ออกมาสบถว่ารัฐบาล คสช.ดูดนั้น

      "เพื่อไทย" ไม่เคยดูดพรรคหรือก๊วนไหน เอาปริมาณไปตั้งเป็นรัฐบาลเลยใช่มั้ย?

      ประชาธิปัตย์ ก็ไม่เคยไปดูดพรรคหรือก๊วนไหนเอา "ปริมาณ" ไปหนุนตัวเองเป็นรัฐบาลเลยใช่มั้ย?

      ผมเข้าใจ..........

      ถึงแม้ "ประชาธิปไตยเลือกตั้ง" ออกแบบ "คล้ายบังคับ" ให้ต้องทำอย่างนั้น แต่ทุกคนก็รู้ ว่ามันไม่เหมาะนัก

      ก็ทำไงได้ ด้วยกติกา "เสียงข้างมากเป็นใหญ่" ทุกพรรค เมื่อจะเข้าระบบรัฐสภา เห็นอย่างนี้ทั้งนั้น

      จ้องแก้รัฐธรรมนูญกันทุกรัฐบาล แต่ทำไมไม่คิดแก้กติกาเอา "คุณภาพ-คุณธรรม เป็นใหญ่" บ้างล่ะ?

      ระบบ "ดูด" จะได้หมดไปซะที!

      ที่พูดมานี้ ไม่ใช่ปกป้องรัฐบาล คสช. คนอื่นทำว่าเลว แต่พอ คสช.ทำ ว่าเป็นเรื่องปกติ

      แต่อยากชี้ให้เห็น "ความเป็นจริง" ที่ปฏิบัติกันเองอย่างนั้นตลอดมา แล้วตอนนี้ ถูกคนอื่นทำเข้าบ้าง

      ตัวเองก็ "ดัดจริต"..........

      ทำเป็น "คุณธรรมสูง"!

      ที่พูดมาทั้งหมดนี้ อยากให้สังเกต...........

      คำว่า "ดูด" ผมหมายเฉพาะกับ "นักเลือกตั้ง" เพราะมันจะเกิดขึ้นได้เฉพาะกับ "นักเลือกตั้ง" เท่านั้น

      จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยกับ "นักการเมือง"!

      "นักการเมือง" กับ "นักเลือกตั้ง" ต่างกันตรงนี้แหละ

      คือ "นักการเมือง" เขามีอุดมการณ์และหลักการ เงิน-ตำแหน่งซื้อไม่ได้

      ส่วน "นักเลือกตั้ง" ส่วนมาก จะภิกขาจารเปลี่ยนเส้นทางไปเรื่อยๆ

      สุดแต่ว่า ใครจะตั้ง "ขันข้าว-ซองปัจจัย" เป็นเครื่องดูด-เครื่องล่อ ให้จรไปทางนั้น!

      ถ้าถามว่า แบบนี้ ประเทศไทยยังมี "นักการเมือง" อยู่หรือ?

      ตอบได้ว่า...มี

      เช่น อดีตนายกฯ ชวน คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน กระทั่งคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีต ส.ส.อีกหลายคน

      ถือเป็น "นักการเมือง"..........

      อุดมการณ์-หลักการ "มั่นคง-หนักแน่น" เกิดที่ไหน อยู่ที่นั่น ใครจะดูด-จะดึง ต่อให้เอาปืนจ่อหัว

      ลั่นไกไปเลย..........

      ไม่มีทาง ที่จะให้ท่านเหล่านั้น ลั่นวาจาว่า "ย้ายพรรค"!

      มาถึงเรื่องที่ ๓

      คือเรื่อง "ดอยสุเทพ" ว่าด้วย "บ้านพักตุลาการ"

      เห็นชาวเชียงใหม่ออกมา "รักดอย-รักป่า" กันหลายพันเมื่อวันอาทิตย์ก็ปลื้มใจ

      เห็นยื่นคำขาดว่า "รื้อออกไป" สถานเดียว!

      ยื่นกับใครล่ะ ถ้าเรื่องดี เจ้าภาพเยอะ แต่เรื่องนี้ ไม่ค่อยจะดีนัก หาเจ้าภาพยาก

      ลงที่ไหนไม่ได้ "รัฐบาล" นั่นแหละ ต้องทำหน้าที่ "กระโถนประเทศ"!

      คนเชียงใหม่ คนรักป่า-รักดอยเท่าชีวิต ยื่นคำขาด "รื้อ"

      แต่รัฐบาล ดูจากท่าทีนายกฯ ประยุทธ์ "ไม่อยากให้รื้อ"

      แล้วตกลง จะเอายังไง?

      ผมดูทุกฝ่ายแล้ว คือทั้งภาคประชาชนและภาครัฐ เห็นตรงกันว่า กรณีบ้านพักตุลาการเชิงดอยนั้น

      ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดใจประชาชน และขัดหลักธรรมาภิบาล

      และภาครัฐภาคประชาชน ก็ยังเห็นตรงกันอีกว่า...........

      ต้อง "เอาป่า" คืนมา

      ทำที่ "แหว่ง" แดงโล้นตรงนั้น ให้คืน "เขียว" คลุมครึ้ม!

      ที่ภาครัฐ-ภาคประชาชน ใจยังไม่ตรงกันอยู่ประเด็นเดียว คือประเด็น "บ้านพักตุลาการ" ในด้านว่า "รื้อ-ไม่รื้อ"?

      ตอนนี้ เจตนาดีจากประชาชนและพี่น้องเชียงใหม่เหมือน "ไฟที่เต็มฟืน"

      รัฐบาลอย่าใจน้อยและมองเป็นอื่น..........

      เปิดโอกาสให้ภาคประชาชน แสดงออกซึ่งความรัก ความหวงแหนป่า-ดอยสุเทพให้เต็มที่เถิด

      นี่คือเมล็ดพันธุ์เพื่อการพิทักษ์-หวงแหนถิ่นและธรรมชาติที่สวยงาม ควรส่งเสริม

      สักพัก เย็นลงแล้ว ค่อยรวมสติ-รวมเจตนา ภาครัฐ-ภาคประชาชน ค่อยพูดจาเป็นมติร่วมกัน

      อย่าลืม "หลักการแรก" คือ เอาป่าคืนมาให้ตรงที่แหว่ง!

      ส่วน "รื้อ-ไม่รื้อ" มันง่าย......

      นาทีนี้ หรือเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เพียงทุกฝ่าย "เปิดใจบวก" ร่วมหารือกันในทุกทางออกก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ตอนนั้นก็ยังไม่สาย

      ผมซี...ทำหนังสือเขาสายซะแล้ว

      พรุงนี้ค่อยคุยต่อ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"