นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุมขับเคลื่อน 4.0 ตั้งอนุ กก.โละกฎหมายอุปสรรคจัดการธุรกิจ  เดือน ส.ค.ยกเลิกสำเนาบัตรประชาชน-ทะเบียนบ้านในการติดต่อหน่วยงานรัฐ พร้อมเปิดแอปพลิเคชันบริการข้อมูล "วิษณุ" เผยต่อไปไม่ต้องโชร์บัตรเพียงบอกหมายเลข 13 หลักเท่านั้น 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยที่ประชุมได้ข้อสรุป 2 ประเด็นหลัก คือ 1.เรื่องการปฏิรูประบบราชการ ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ อาทิ การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ลดคำขอค้างทั้งด้านยาและอาหารที่ยื่นก่อนวันที่ 7 ส.ค.60 กว่า 8,000 คำขอได้หมดภายใน 6 เดือน และการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีการลดคำขอค้างสะสมสิทธิบัตรอย่างต่อเนื่อง
    2.การพัฒนาและการรังสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ อาทิ การแก้ไขพื้นที่ป่าและการใช้ประโยชน์พื้นที่ จ.น่าน โดยจะขอคืนพื้นที่ป่าร้อยละ 18 จากพื้นที่ป่าทั้งหมด และอีกร้อยละ 10 ที่เหลือให้ประชาชนสามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้เต็มที่ คาดว่าภายใน 3 ปีจะลดการบุกรุกพื้นที่ป่า และ 3.การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยในเดือน พ.ค.ปีนี้ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) จะให้บริการประชาชนประมาณ 40,000 จุดบริการ ตามคู่มือสำหรับประชาชนใน Info.go.h 
    ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมจะให้หน่วยงานผู้บริการยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเปิดใช้แอปพลิเคชนบอกข้อมูลบริการ จากนั้นเดือนตุลาคมจะเริ่มยกเลิกสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล และในเดือนมกราคม 2562 จะเปิดใช้ระบบ Citizen Feedback ที่ให้ประชาชนประเมินความพึงพอใจการใช้บริการ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นและข้อร้องเรียน 
    นอกจากนี้ ด้านการปฏิรูปกฎหมายได้ตั้งอนุกรรมการเพื่อดำเนินการเร่งรัดปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจของประชาชน จำนวน 10 คณะ โดยพิจารณาไปแล้ว 27 เรื่อง เช่น กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพคนขับรถรับจ้างสาธารณะ และผู้ค้าหาบเร่แผงลอย อย่างไรก็ตาม สำหรับงานใหม่ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ 3  เรื่อง คือ 1.ธุรกิจพาณิชย์นาวี ในการให้บริการแบบวันสต็อปเซอร์วิสด้านแรงงานทางทะเล 2.ใบอนุญาตด้านการเกษตร โดยจะสร้างแอปพลิเคชันตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียน และแจ้งเตือนการต่ออายุใบอนุญาตครอบครองสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และ 3.การบริหารจัดการคิวโรงพยาบาล อาทิ  ระบบแจ้งเตือนก่อนวันนัดและแจ้งขั้นตอนการรับบริการตั้งแต่ต้นจนจบ โดยจะขยายผลต่อไป 50 โรงพยาบาล
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเลิกใช้สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านมานานแล้ว ตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปฯ  เมื่อเดือน พ.ย.60 ซึ่งได้ทดลองใช้มาตลอด วันนี้เป็นเพียงแค่ติดตามความคืบหน้า จากนี้ประชาชนเพียงแค่โชว์บัตรประชาชน เพราะข้อมูลต่างๆ มีการเชื่อมโยงกันหมดแล้ว ต่อไปจะพัฒนาไปถึงขั้นไม่จำเป็นต้องโชว์บัตร เพียงแค่บอกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักเท่านั้น
    "เรื่องนี้กฎหมายไม่ได้บังคับแต่เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ และการตอบรับถือว่าดี อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้อีก 3 เดือนข้างหน้าทุกส่วนราชการจะไม่เรียกสำเนาบัตรประชาชน และประชาชนที่ไปติดต่อราชการให้นำบัตรประชาชนไปอย่างเดียว และเมื่อพ้นไปอีกระยะหนึ่งบัตรประชาชนก็ไม่ต้องควักออกมาใช้ พร้อมกันนี้มองว่าการยกเลิกจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการถ่ายสำเนาเอกสารด้วย" นายวิษณุกล่าว.