หลังจากที่ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุชัดเจนว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1/2561 มีการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น จากหลายปัจจัยหนุนสำคัญ อาทิ ภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้นตามภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และการท่องเที่ยวที่ยังคงเป็นพระเอกสำหรับเศรษฐกิจไทยตลอดกาล ซึ่งนั่นถือเป็นภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อมาพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับเศรษฐกิจภูมิภาค ซึ่ง “กระทรวงการคลัง” ระบุว่า มีการขยายตัวอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค นำโดยภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน สอดคล้องกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
สำหรับเศรษฐกิจของ “ภาคกลาง” นั้น มีสัญญาณการขยายตัวที่ดี โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการบริโภคภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เป็นสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนภาคการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคก็ยังขยายตัวได้ดีเช่นกัน ตรงนี้เข้าใจว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากละคร “บุพเพสันนิวาส” นั่นเอง
ขณะที่ “ภาคตะวันออก” ก็เป็นอีกภูมิภาคที่เศรษฐกิจขยายตัวได้เป็นอย่างดี จากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะการบริโภคสินค้าคงทนในจังหวัดฉะเชิงเทรา และชลบุรีเป็นสำคัญ สอดคล้องกับการลงทุนของภาคเอกชนในจังหวัดระยองและปราจีนบุรี ส่วนภาคการท่องเที่ยวก็ยังคงเป็นอีกปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
สำหรับ “ภาคใต้” นั้น เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว จากการบริโภคภาคเอกชนตามการขยายตัวของการบริโภคในจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานีและสงขลา เป็นต้น นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานีและระนองนั่นเอง
ส่วนภาคตะวันตกนั้น เศรษฐกิจมีทิศทางการฟื้นตัวอยู่ จากแรงหนุนเรื่องการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนตามการขยายตัวในจังหวัดกาญจนบุรีและสมุทรสงคราม เป็นต้น ส่วนการลงทุนภาคเอกชนและการท่องเที่ยวยังเติบโตได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายกันที่เศรษฐกิจของ กทม.และปริมณฑลนั้น ยังขยายตัวได้ จากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะในจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนและการท่องเที่ยวก็ยังคงขยายตัวได้ดี
สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (RSI) ประจำเดือน เม.ย.2561 ซึ่งเป็นตัวชี้แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นทุกภูมิภาค นำโดยภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 92.1 จากแนวโน้มที่ดีขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้าของภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากอานิสงส์ยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของภาคการส่งออก ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 89.6 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุนในภูมิภาค จากแรงหนุนของนโยบายส่งเสริมการลงทุนตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และยังได้รับปัจจัยเสริมจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง “อาลีบาบา” ที่สนใจเข้ามาสร้างศูนย์สมาร์ท ดิจิทัล ฮับในเขตอีอีซีอีกด้วย
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 84.4 จากแนวโน้มที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม ตามทิศทางที่ดีขึ้นของภาคการส่งออกที่ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายรัฐ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 81.3 ส่วนภาคใต้ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 80 และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 78.2 ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากแรงสนับสนุนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ดีของภาคบริการ โดยเฉพาะในสาขาการท่องเที่ยวที่จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของราชบุรีและเพชรบุรี ปิดท้ายกันที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม.และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 77.6 โดยปัจจัยหนุนจากภาคการลงทุนนั่นเอง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |