ถูกกดทับ...
    วาทกรรมนี้เริ่มได้ยินกันบ่อยขึ้น 
    จากนอกสู่ในสภาโดยคนกลุ่มเดิม คณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล 
    ม็อบ ๓ นิ้ว เกิดจากการถูกกดทับจากอำนาจนิยม
    ตั้งแต่ในบ้าน โรงเรียน ยันรัฐบาล 
    พ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์ รัฐบาล ล้วนกดทับเด็กๆ จนต้องออกมาชุมนุม 
    ฟังดูเหมือนพวกเอาแต่โทษสังคม 
    เด็กเลว เพราะสังคมไม่ดี 
    ไม่เคยโทษตัวเอง    
    พ่อแม่คนเดิม ครูคนเดิม นักการเมืองก็เดิมๆ แล้วทำไมเพิ่งมารู้สึกถูกกดทับเอาเมื่อ ๖ ปีที่ผ่านมา 
    มากดทับเอาเฉพาะในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  
    ยุคทักษิณ สมัคร สมชาย อภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ ไม่ถูกกดทับอย่างนั้นหรือ
    ถ้าเปรียบเทียบการถูกรัฐบาลกดทับ เด็กๆ ยุคหลังปี ๒๕๐๐ ภายใต้รัฐบาลเผด็จการทหารถนอม น่าจะถูกกดทับมากกว่าเด็กๆ ในยุคปัจจุบันชนิดเทียบกันไม่ได้    
    ยุคนี้กลายเป็นว่าผู้ใหญ่ยุยงส่งเสริมให้เด็กๆ เปราะบาง ถูกกระแทกกระทั้นนิดหน่อย ก็บอกอำนาจนิยมกดทับ 
    ลามไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ 
    แต่ ส.ส.เพื่อไทย ก้าวไกล ไม่ตอบสักคำว่ารู้สึกอย่างไรกับม็อบ ๓ นิ้วแสดงพฤติกรรมหยาบคายไปถึง ร.๕ -ร.๙ 
    เอาแต่อ้างว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรม เพราะสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ถ้าไม่ออกความสงบไม่เกิด
    ลงทุนใช้มีดปอกผลไม้เชือดแขนตัวเอง อยากให้นายกฯ ได้เห็น
    เฮงซวย!
    มีอะไรไปกดทับ? 
    การนำเสนอวิธีการแก้ปัญหา มีเยอะแยะ ถ้ารอยหยักในสมองน้อยแบบนี้ก็ไม่ควรมาเป็น ส.ส.    
    นี่คือการส่งเสริมให้แก้ปัญหาด้วยวิธีที่รุนแรง 
    อยากจะล้างกันด้วยเลือดหรืออย่างไร
    นอกสภาแรงด้วยคำพูด และการกระทำยังไม่พออย่างนั้นหรือ 
    อยากจะเป็นแบบอย่างให้เด็กๆ กรีดเลือดตามใช่หรือไม่ 
    นี่ไม่ใช่วิถีของฮีโร่
    แต่เป็นแนวทางของคนโง่ 
    พกมีดเข้าห้องประชุมสภา ผิดเต็มๆ 
    เกิดคลุ้มคลั่งไปจิ้มใครเข้าจะทำไง 
    ฟังการอภิปรายของ ส.ส.-ส.ว. สองวันเต็ม สิ่งที่ได้คือ เปลืองค่าน้ำค่าไฟ  
    เปลืองภาษีประชาชน.