20 ต.ค. 63 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จัดสัมมนาเรื่องการจัดทำ (ร่าง) ธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิฟ ชอฟเฟอริน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญของ (ร่าง) ธรรมนูญว่าด้วยการผังเมืองแก่ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมความพร้อมในการจัดสัมมนารับฟัง ความคิดเห็น จำนวน 9 ครั้ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้ผังเมืองเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเมือง สู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศสู่ความ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า ผังเมืองถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาเชิงพื้นที่ รวมถึงลักษณะการใช้พื้นที่ตามศักยภาพและความเหมาะสม ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาเมือง ให้มีการเติบโตที่ยั่งยืน และสร้างประโยซน์แก่ทุกคนอย่างทั่วถึง ประกอบกับรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ความสำคัญกับการจัดระบบเมืองที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน โดยต้องมีการจัดทำนโยบายการตั้งถิ่นฐานและผังเมือง ด้วยการให้มีหน่วยงานระดับชาติกำกับดูแล และทำงานควบคู่ไปกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงให้มีกฎหมายเฉพาะเหมือนเป็นธรรมนูญผังเมือง ในการกำกับกฎหมายอื่นๆไม่ให้หน่วยงานต่างๆ ละเมิด หรือปล่อยให้มีการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ไม่เป็นไปตามหลักการ นอกจากนี้พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2562 ในมาตรา 7 ธรรมนูญว่าด้วยการผังเมืองที่คณะกรรมการนโยบายผังเมืองแห่งชาติจัดทำตามมาตรา 75 (8) เมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว มีผลผูกพันทุกหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการต่อไปตามหน้าที่และอำนาจของตน ในการนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำ (ร่าง) ธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง ภายใต้หลักการ 3 ด้าน
ได้แก่ หลักการเชิงนโยบาย หลักการพื้นฐาน และหลักการเชิงพื้นที่ เพื่อให้ผังเมืองเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ที่ครอบคลุมในทุกระดับ โดยกำหนดให้มีการจัดสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นประกอบการจัดทำ (ร่าง) ธรรมนูญว่าด้วยการผังเมืองจากหน่วยงานราชการในระดับพื้นที่แสะระดับจังหวัด จำนวน 9 ครั้ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมฯ ประกอบด้วย ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากนั้นจะได้มีการจัดสัมมนาสรุปผลการประชุมอีก 1 ครั้ง เพื่อระดมสมอง รับฟังความคิดเห็น และนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไข (ร่าง) ธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง ให้มีข้อมูล ที่ครบถ้วน สมบูรณ์ ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตอบโจทย์การเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามศักยภาพและความเหมาะสม มุ่งสู่การจัดระบบเมืองที่มีคุณภาพปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างการเติบโตของเมืองที่ยั่งยืน โดยประชาชนทุกคน และทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างทั่วถึง และเป็นธรรม
"การจัดสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนการจัดทำธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง ซึ่งจะเป็น กลไกสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ครอบคลุมในทุกระดับ นำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนาเมือง แบบบูรณาการภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อสร้างประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"