เอ็กซิมแบงก์โอดศก.-ไวรัสฉุด9เดือนขาดทุนอ่วม1.2พันล้าน


เพิ่มเพื่อน    

 

26 ต.ค.2563 นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ก.ย.2563) ว่า ธนาคารมีสินเชื่อคงค้าง 129,771 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,027 ล้านบาท หรือ 18.25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 34,836 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 94,935 ล้านบาท ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อของเอ็กซิมแบงก์ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) จำนวน116,353 ล้านบาท เป็นปริมาณธุรกิจของเอสเอ็มอี40,284 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 34.62%

ทั้งนี้ จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ถดถอยและกระทบต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการ ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2563 เอ็กซิมแบงก์มีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) 6.26% โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 8,120 ล้านบาท นอกจากนี้ ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ (TFRS 9) ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.ย.2563 เอ็กซิมแบงก์มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 13,565 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) 167.05% โดยธนาคารมีกำไรก่อนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และสำรองอื่น ๆ เท่ากับ 1,758 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจภายนอกที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้เอ็กซิมแบงก์มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 1,271 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและการลงทุนเท่ากับ 125,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28,420 ล้านบาทหรือ 29.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการให้บริการประกันการส่งออกและการลงทุนเพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ผู้นำเข้าในต่างประเทศมีโอกาสที่จะชำระเงินล่าช้าหรือประสบปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจ

นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เอ็กซิมแบงก์ได้สนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศซึ่งมีวงเงินสนับสนุนสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 94,835 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อคงค้างจำนวน 55,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,717 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เอ็กซิมแบงก์มุ่งเน้นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายการส่งออกและลงทุนไปยังตลาดใหม่ (New Frontiers) ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2563 มีสินเชื่อคงค้างจำนวน 39,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,308 ล้านบาทหรือ 15.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและเป้าหมายการดำเนินงานของเอ็กซิมแบงก์ภายใต้ทีมไทยแลนด์ ภายหลังการเปิดสำนักงานผู้แทนของธนาคารในย่างกุ้ง เวียงจันทน์ และพนมเปญเมื่อปี 2560-2562 และปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการเปิดสำนักงานผู้แทนเอ็กซิมแบงก์ในเวียดนามเป็นลำดับต่อไป

“เอ็กซิมแบงก์ได้สนับสนุนผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยติดต่อไปยังลูกค้าทุกราย เพื่อสอบถามความต้องการของกิจการ และออกมาตรการช่วยเหลือ/เยียวยาลูกค้า อาทิ การพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน การขยายเงื่อนไขบริการประกันการส่งออก การสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อนำไปใช้หมุนเวียนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและลงทุนที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากโควิด-19 เป็นต้น” นายพิศิษฐ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน เอ็กซิมแบงก์ยังสนับสนุนด้านข้อมูลและความรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ โดยเร่งชี้โอกาสเพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัวและเล็งเห็นช่องทางการค้าในตลาดใหม่ ๆ ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ด้านอี-คอมเมิร์ซผ่านการให้คำปรึกษา จัดอบรม และสัมมนาออนไลน์แก่ผู้ประกอบการไทย ณ สิ้นเดือน ก.ย.2563 เอ็กซิมแบงก์ได้ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการจำนวนประมาณ 6,000 ราย วงเงินรวม 54,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ลูกค้าของธนาคารที่ยังประสบปัญหาในการดำเนินกิจการส่งออกหรือลงทุนระหว่างประเทศในปัจจุบันสามารถเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูผู้ประกอบการหลังสถานการณ์โควิด-19 ได้ เพื่อขอขยายระยะเวลา เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระเงินกู้ตามความต้องการของกิจการ โดยสามารถขอรับวงเงินสินเชื่อเพิ่มได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2564


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"