26 ต.ค. 63 - ที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าออกอาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 09.15 น. นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เป็นตัวแทนของกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และภาคีเครือข่ายหลายกลุ่ม ยื่นหนังสือคัดค้านการยื่นญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการปฏิรูปสถาบันฯ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร

โดยอดีตพระพุทธอิสระ กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มมายื่นหนังสือคัดค้านการตั้งกรรมาธิการวิสามัญปฏิรูปสถาบัน เพราะไม่ควรนำเรื่องสถาบันมากดดันในรัฐสภา เนื่องจากพระองค์ไม่สามารถแก้ต่างได้ ทั้งนี้อยากให้นักการเมืองที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ว่าประธานสภา​ รองประธานสภา หรือใครก็ได้มารับหนังสือเรื่องนี้ไปดำเนินการ อยากวิงวอนขอร้องลูกหลานชาวไทย ที่มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญฐ ต้องพิทักษ์ธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าเฉยชา คนชั่วจะได้ดีเพราะคนดีเฉยชา ควรลุกขึ้นมาช่วยกันแสดงพลังปกป้องสถาบันอย่างสันติ อหิงสา และปราศจากความรุนแรง กองทัพประชาชนปกป้องสถาบันไม่นิยมความรุนแรง ไม่ไปต่อกร หรือต่อล้อต่อเถียง แต่ทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อปกป้องสถาบัน เพราะเราพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์​

"อยากบอกคนที่คิดจะมาเปลี่ยนแปลงสถาบันว่า ช่วยชี้ให้เห็นหน่อยว่าอะไรที่คุณให้ประโยชน์แก่แผ่นดินนี้ เพราะที่เราเห็นแน่ๆ คือสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ให้ประโยชน์ต่อแผ่นดินมายาวนาน ไม่เคยเห็นว่าจะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ปัญหาอยู่ที่คน ที่เกิดจากพวกพ้องพยายามปลุกปั่นให้คนในชาติรังเกียจสถาบัน เราจึงต้องแสดงพลังออกมาปกป้อง เพราะทราบว่านายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อม ส.ส.ในเครือข่าย พยายามผลักดันให้มีการปฏิรูปสถาบัน โดยพยายามอ้างกฎหมาย แต่กลับทำผิดกฎหมาย และหลักรัฐธรรมนูญ" อดีตพระพุทธะอิสระ ระบุ

ทั้งนี้จะรวบรวมหลักฐานของคณาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังในการตีไข่ใส่สีและใส่ข้อมูลที่เลวร้ายเรื่องสถาบันไปในรั้วมหาวิทยาลัย รวมถึงในองค์กรการศึกษาทั้งหมด ตอนนี้มีรายชื่อเรียบร้อยแล้วกว่าพันรายชื่อ ต่อไปจะดำเนินการตามกฎหมาย ว่าด้วยเรื่องระเบียบวินัยของข้าราชการ รวมถึงกฎหมาย ป.ป.ช. และกฎหมายอาญา จึงขอส่งสัญญาณเตือนไปว่า ตนออกโรงแล้วไม่เคยพลาด เมื่อล็อกเป้าแล้วจบในชีวิตของตน​ ฝากบอก รมว.ศึกษาธิการว่าอย่ากลัวเสียคะแนน อย่ากลัวว่าจะทำอะไรแล้วไม่ถูกใจชาวบ้าน แต่ชาวบ้านที่คุณกลัวคือชาวบ้านส่วนน้อย เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่จงรักภักดีต่อสถาบัน ถ้า รมว.ศึกษาธิการยังหน่อมแน้ม ไม่คิดจะทำอะไรกับกระบวนการการศึกษาของชาติที่สร้างปัญหาอย่างยาวนาน จนเกิดเป็นภาระให้แผ่นดินในเวลานี้ เราคงต้องไปคุยกับรัฐมนตรี ว่าคุณทำงานคุ้มค่ากับภาษีที่ประชาชนจ่ายให้หรือไม่

“ฝากไปถึงนักการเมืองขอให้แสดงอะไรที่ชัดเจนมากกว่าที่ประชาชนแสดงความจงรักภักดี เพราะแทบจะไม่เห็นบทบาทของนักการเมืองที่ปกป้องสถาบัน คนไทยทุกคนที่มีหัวใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะออกมาเป็นพลังปกป้องไม่ให้ถูกด้อยค่าเหยียดหยามอย่างที่มีการกระทำอยู่ ขอให้สภารับรู้ถึงความเดือดเนื้อร้อนใจของประชาชนในแผ่นดิน หากสภาไม่สามารถหาทางออกได้ ก็คงไม่สามารถห้ามใครได้ ความเดือดเนื้อร้อนใจอาจปะทุเหมือนท่อก๊าซระเบิด ซึ่งถ้าถึงตอนนั้นจะเป็นเรื่องที่น่ากลัว”

ด้านสมบูรณ์ กล่าวว่า เป็นตัวแทนประธานสภาฯ มารับหนังสือ จากนั้นจะนำส่งประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยยืนยันรัฐสภาจะเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกให้กับประเทศ เห็นได้จากการเสนอให้รัฐบาลเปิดประชุมวิสามัญก็เป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออก
นอกจากนี้​ อดีตพระพุทธอิสระ ยังกล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) เลือกปฏิบัติ อำนวยความสะดวกให้แค่ม็อบ ศปปส. ว่า เรายืนยันว่าเราชุมนุมถูกต้องตามกฎหมาย มีการขออนุญาตตามขั้นตอน กทม.จึงอำนวยความสะดวกให้ตามปกติ ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่ม็อบอีกกลุ่มไม่ได้ขออนุญาต และไม่ทำตามกฎหมาย เราเข้าตามตรอกออกตามประตูไม่ได้กระโดดข้ามรั้ว อย่างไรก็ตามหลังยื่นหนังสือเสร็จเราจะเดินทางกลับ และจะนัดรวมตัวกันใหม่อีกครั้งเพื่อแสดงพลังในวันที่ 5 ธ.ค. จัดให้เบิ้มๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังยื่นหนังสือเสร็จผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ.