ไทยมีผู้ป่วยใหม่ 5 ราย เป็นหญิงล้วนในสถานกักกัน  “หมอโอภาส” ชี้ยังต้องใช้เวลาสแกนเชื้อในฟิตเนสศูนย์กักโรคปากน้ำตรงกับสาวใหญ่ฝรั่งเศสหรือมาจากใคร เตือนพื้นที่สมุยอาจเสี่ยงกว่าศูนย์กักกัน
     เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 5 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ โดยผู้ป่วยรายใหม่มาจากประเทศบาห์เรน 2 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 36 ปี อาชีพพนักงานร้านสะดวกซื้อ และเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 39 ปี อาชีพพนักงานนวด, สหราชอาณาจักร 1 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้าน, ฝรั่งเศส 1 ราย เป็นเพศหญิงสัญชาติฝรั่งเศส อายุ 60 ปี เป็นนักท่องเที่ยว และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 40 ปี อาชีพแม่บ้าน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,736 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 1 ราย หายป่วยแล้ว 3,530 ราย รักษาตัวอยู่ 147 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ไม่พบการติดเชื้อในประเทศ
     ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนสาเหตุการติดเชื้อโควิด-19 ในหญิงชาวฝรั่งเศสวัย 57 ปี หลังพ้นการกักตัวใน Alternative State Quarantine (ASQ) 14 วัน โดยเฉพาะในสถานที่กักกันโรคที่จังหวัดสมุทรปราการ ว่าผู้ป่วยเข้าพักระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-วันที่ 15 ต.ค. โดยการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม จำนวน 7 ตัวอย่าง พบเชื้อโควิด-19 ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส จำนวน 1 ตัวอย่าง ขณะนี้กำลังรอผลการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสที่ตรวจพบในผู้ติดเชื้อและที่ตรวจพบจากผิวสัมผัสบนอุปกรณ์ในห้องฟิตเนส ซึ่งเป็นขั้นตอนของห้องปฏิบัติการ (แล็บ) มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการตรวจ เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำ ทั้งนี้ จะต้องถอดรหัสพันธุกรรมออกมาว่าตรงกับผู้ติดเชื้อรายที่เป็นชาวฝรั่งเศสหรือไม่ หรือเป็นเชื้อที่มาจากใคร
     “การตรวจเชื้อโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่ภายในสถานกักกันโรค สอบสวนครบแล้วให้ผลเป็นลบทั้งหมด ซึ่งไม่มีความกังวลว่าเจ้าหน้าที่จะนำเชื้อออกจากสถานกักกันไปสู่ชุมชนรอบข้าง ส่วนการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคงเป็นในพื้นที่เกาะสมุยมากกว่าพื้นที่ในสถานกักกันของ จ.สมุทรปราการ โดยกรมควบคุมโรคได้ส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ไปแล้ว แต่ต้องรอการรายงานผลอย่างเป็นทางการออกมา เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน” นพ.โอภาสกล่าว
     วันเดียวกัน พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.กาญจนบุรี พร้อมคณะ ได้จับกุมขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณหมู่บ้านหลังเขา อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ โดยพบชายหญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเดินจากฝั่งขึ้นเรือ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด 5 คน เป็นหญิง 4 คน เป็นชาย 1 คน ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ และไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงตนใดๆ ตรวจค้นในตัว และกระเป๋าเดินทางไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย  
     สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า แรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด ลักลอบเข้ามาทางด้านชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และเดินหลบด่านตรวจต่างๆ ทางเส้นทางธรรมชาติ จนถึงจุดนัดพบริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ โดยมีนายนาคร ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อยู่บ้านเลขที่ 8/ช หมู่1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี คนขับเรือรับค่าจ้างนำพาคนต่างด้าวทั้ง 5 คน ไปส่งที่บ้านท่าแพ อ.ทองผาภูมิ จากนั้นจะมีรถมารับชาวเมียนมาทั้งหมด เข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นในต่อไป 
     ด้าน พ.ต.ท.ฐิติกร วันเพ็ญพันธ์ รอง ผกก.ปป.สังขละบุรี เผยว่า จากกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้าน มีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน จึงทำให้คนต่างด้าวพยายามหนีภัย ลักลอบเข้ามาบ้านเรา ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น มีการหมุนเวียนตั้งด่านทุกจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง.