25 ต.ค.63- เป็นเวลากว่า 3 ปี 7 เดือนแล้วที่ นายชัยภูมิ ป่าแส ถูกเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณด่านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่วิสามัญฆาตกรรม ซึ่งภายหลังเกิดเหตุขึ้นครอบครัวของนายชัยภูมิ ได้เดินหน้าทวงถามความยุติธรรม ทั้งการทวงถามเรื่องกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์แต่ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากเจ้าหน้าที่ จนนำมาสู่การยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารทั้งสองที่วิสามัญฆาตกรรมชัยภูมิ โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมากระบวนการของศาลในการสืบพยานทั้งโจทก์และจำเลยได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และในวันจันทร์ที่ 26 ต.ค. เวลา 09.00 น. ศาลแพ่ง จะอ่านคำพิพากษาต่อคดีดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน เครือข่ายขบวนการเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ได้ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึกถึงเด็กผู้หญิงและผู้หญิงทุกคนในประเทศไทย โดยระบุว่า ในฐานะเราเป็นผู้หญิงที่ดูแลครอบครัว ที่ดินและสิ่งแวดล้อม เรารู้สึกยอมไม่ได้และมิไว้ใจรัฐบาลที่กำลังใช้ความรุนแรงต่อการชุมนุมโดยสันติของเด็กเยาวชนและประชาชน หากรัฐบาลทำเพื่อประชาชนตามที่พร่ำบอก รัฐบาลต้องหยุดคุกคามประชาชน หยุดใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการสลายการชุมนุม ยุติการจับกุมและข่มขู่คุกคามในรูปแบบต่างๆ โดยเปลี่ยนมาเคารพและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมและการแสดงออก ปล่อยนักโทษทางการเมืองทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข ประยุทธ์ จันทร์โอชาและองคาพยพต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกอย่างสันติ ต้องมีการยุบสภา จัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชนโดยแท้จริง จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และหนึ่งความฝันที่ควรทำเป็นความจริงคือการปฏิรูปให้สถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างสง่างาม
พวกเราเด็กผู้หญิงและผู้หญิงในสังคมไทยทุกรุ่นในปัจจุบัน น่าภาคภูมิใจที่รวมกันต่อสู้ ไม่มีการแบ่งแยก ไม่ว่าเราจะเป็นใคร เกิดที่ไหน เป็นกลุ่มชาติพันธุ์หรือแรงงานข้ามชาติ หรือจะเป็นกลุ่มไหนๆก็ตาม เรารวมตัวกันต่อสู้ เราต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของเรา เพื่อครอบครัว เพื่อชุมชน และเราก็ต่อสู้เพื่อแม่น้ำ ภูเขา ทะเล ที่ดินทำกิน สิ่งแวดล้อม และต่อสู้ร่วมกับม็อบเพื่อปลดแอกประเทศไทย ถึงแม้เวลาของผู้หญิงจะมีไม่มากแค่ที่เราผ่านมาแล้วชูสามนิ้วก่อนไปก็ถือว่าได้ร่วมต่อสู้แล้ว แม้ผู้หญิงบางคนมาร่วมไม่ได้เพราะไม่มีเสรีภาพในการเดินทาง หรือเป็นผู้หญิงพิการ มีลูกเล็กหรืออยู่ในคุกก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต่อสู้เพราะเรารู้ว่าในใจทุกคนร่วมต่อสู้อยู่
สถานการณ์ของเพื่อนเราที่ต่อสู้ ต้องเสี่ยงกับชีวิต การถูกคุกคาม การข่มขู่หรือถูกจับ เราขอส่งความรักความห่วงใยให้น้อง ๆหลานๆ ผู้หญิงคนรุ่นใหม่ๆที่ถูกคุกคามทำร้ายจากผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงแม้กระทั่งในรั้วมหาวิทยาลัยที่ควรจะปลอดภัย เราส่งความรักความห่วงใยให้ผู้หญิงคนรุ่นใหม่ที่ถูกปิดกั้นเสรีภาพโดยกรงขังและแม่ๆของพวกเธอ แม้ประชาชนและผู้หญิงทุกคนจะถูกทำร้ายและคุกคามเพียงใด แต่ไม่ใครยอมแพ้ ไม่มีใครถอย และผู้หญิงด้วยกันก็เข้ามาช่วยหรือเป็นแรงหนุน ช่วยส่งกำลังใจ เราเห็นได้ชัดเจนว่าในวันนี้ไม่มีใครสู้อย่างโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวอีกต่อไป
ภาพของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงในไทยจากมุมมองของคนทั่วโลก เขาประทับใจและได้รับแรงบันดาลใจ เขาเห็นถึงความสามารถ เห็นถึงความเข้มแข็งเพราะไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้หญิงคนรุ่นใหม่ เด็กผู้หญิงมัธยม จนถึงผู้หญิงสูงอายุ ก็ถูกมองเห็นถึงบทบาทที่อยู่ข้างหน้าเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อความยุติธรรมทางสังคมและในขณะที่ต้องทำงานเป็นผู้ดูแลในทุกสถานการณ์ เราขอปรบมือเสียงดังๆให้กับเด็กผู้หญิงและผู้หญิงทุกคนในประเทศไทย ทั้งนี้เครือข่ายขบวนการเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ขอยืนหยัดและปกป้องเด็กนักเรียน ผู้หญิงคนรุ่นใหม่ ผู้หญิงกลุ่มต่างๆและประชาชนผู้ประท้วงอย่างสันติทุกคน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |