1 ศตวรรษเรือด่วนเจ้าพระยาจากรุ่นสู่รุ่น


เพิ่มเพื่อน    

      ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เป็นเวลา 100 ปีมาแล้ว ที่กลุ่มบริษัทสุภัทรา ภายใต้การบริหารงานของผู้หญิง 3 รุ่น ที่แผ่ขยายอาณาจักรจากธุรกิจเรือแจวสู่ธุรกิจเรือโดยสาร และอสังหาริมทรัพย์ พร้อมเดินหน้าส่งต่อธุรกิจสู่ผู้บริหารหญิงรุ่นที่ 4 ก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 อย่างมั่นคง โดยมี “ครูเล็ก” - ภัทราวดี มีชูธน ทายาทรุ่นที่ 3 น้องสาวคนเดียวของคุณสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม เป็นผู้จัดการแสดงอย่างยิ่งใหญ่

      เรียกได้ว่าครบรอบ 100 ปีที่ให้บริการประชาชนมา “ครูเล็ก” ได้เล่าให้ฟังถึงการจัดการแสดง ที่มีขบวนพาเหรดเรือเล่าเรื่องราวของจุดเริ่มต้นกลุ่มบริษัทสุภัทรามาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเล่นเปียโน จะเข้ และการแสดงประกอบ บ่งบอกถึงความเป็นศิลปินที่อยู่ในสายเลือด ซึ่งคุณค่าเหล่านี้ได้ถูกหล่อหลอมและสะท้อนออกมาในการดำเนินธุรกิจเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มบริษัทสุภัทรา และส่งต่อเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น

      ครูเล็ก เล่าว่า ย้อนไปเมื่อ 100 ปีที่แล้ว คุณหญิงบุญปั่น สิงหลกะ เริ่มบุกเบิกธุรกิจเรือข้ามฟาก หลังเดินทางมาจากเชียงใหม่ในฐานะนางพระกำนัลตามเสด็จเจ้าดารารัศมี เข้าสู่วังหลวงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 คุณหญิงบุญปั่นได้สมรสกับพระยาราชมนตรี (สง่า สิงหลกะ) พำนักอยู่ในเรือนแพบริเวณท่าวังหลัง เริ่มเดินเรือแจวข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่าง ท่าเรือพรานนกและวัดมหาธาตุ เมื่อปี พ.ศ.2463 ด้วยค่าโดยสาร 1 สตางค์

      สำหรับกิจการได้สืบทอดมาถึงคุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ ทายาทรุ่นที่ 2 ในช่วงปี พ.ศ.2475 ได้พัฒนาจากเรือแจวข้ามฟากมาสู่เรือยนต์ลำแรก (สภ. 1) โดยใช้สีแดงขาวซึ่งเป็นสีกาชาดสากล (Red Cross) เป็นสัญลักษณ์ของการช่วยเหลือประชาชน

      “ในปี พ.ศ.2512 มีเรือโดยสารที่เรียกว่าเรือด่วน ริเริ่มโดยกระทรวงคมนาคม วิ่งระหว่างตลาดขวัญ-พายัพ และเกียกกาย-ถนนตก ซึ่งต่อมาได้โอนกิจการให้แก่เอกชน คือ คุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ และได้ตั้งชื่อว่า บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เมื่อ พ.ศ.2514”

      ครูเล็ก เล่าว่า กิจการได้ขยายเติบโตมาจนกระทั่งคุณสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ได้รับช่วงบริหารต่อ เป็นทายาทรุ่น 3 โดยได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวเรือด่วนปรับอากาศ Riva Express จำนวน 4 ลำ สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 200 คน เส้นทางนนทบุรี-บางโพ-สาทร นับเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างระบบเรือและระบบรางได้อย่างสมบูรณ์ และยังมีระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing) รับชำระค่าโดยสาร ผ่าน Rabbit Card อีกด้วย

      “จะเห็นได้ว่าจากความสำเร็จตลอดช่วงเวลา 1 ศตวรรษ การทำงานโดยผู้หญิง 4 รุ่นที่ได้สืบทอดกันมา ขณะนี้กำลังส่งต่อจากรุ่นที่ 3 ไปสู่รุ่นที่ 4 คุณณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะมีแผนการพัฒนาระบบการเดินทางทางน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ พัฒนาการเดินเรือ ที่มีทั้งการจัดหาเรืออะลูมิเนียม หรือ เรือคาตามารัน catamaran มีน้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมัน และช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อม มาทดแทนเรือไม้ที่หาไม้มาทำเรือยากขึ้นในปัจจุบัน”

      ในเวลาต่อมาได้มีการพัฒนาระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ จากเมื่อก่อนที่ใช้ตั๋วกระดาษและเงินสด ก็ปรับมาใช้บัตรระบบเงินสด (cashless) และพัฒนาให้เป็นไปในระบบ common Ticketing system (ระบบตั๋วร่วมบัตรโดยสาร) ซึ่งสามารถนำไปขึ้นรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน เรือ โดยใช้บัตรโดยสารร่วมอันเดียว เพิ่มการประกาศเสียงตามสาย (Public Announcement) ซึ่งจะบอกว่าตอนนี้คุณถึงท่าไหนแล้ว ทำให้ไม่ต้องชะโงกออกไปดู หรือใช้ความเคยชินมีการพัฒนาท่าเรือที่สามารถรองรับได้ทั้งเรือโดยสาร เรือข้ามฟาก เรือเช่าเหมาลำ เรือท่องเที่ยว เรือโรงแรม และยังมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจทั้งหมดในเครือยังสามารถเติบโตได้ในอนาคต

      จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 100 ปี เราได้เห็นการวิวัฒนาการและการพัฒนาของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีวิกฤติและอุปสรรคปัญหาต่างๆ เข้ามามากมาย บริษัทได้ต่อสู้และผ่านมาได้ทุกครั้งด้วยการทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ความรู้และความสามารถ ในการบริหารจัดการปัญหาต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีของเรือ การเดินเรือให้มีความทันสมัยและปลอดภัย และมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวทางน้ำโดยจะขยายการลงทุนมุ่งสู่น่านน้ำทะเลไทยต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"