30 เม.ย.61 - ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลแม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ในวันนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้เข้าติดตามความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านกรณีที่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งจะเข้ามาทำการก่อสร้างโรงเชือดหมูขนาดใหญ่ในพื้นที่บ้านแม่ทะหลวง ม.8 โดยขณะนี้ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่จำนวน 40ไร่ และทางนายกเทศมนตรีตำบลแม่ทะ นายศุภรัช ตุ้ยใจ ได้เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกเทศบาล และผู้ที่คัดค้านเข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพื่อรับทราบแนวทางในการดำเนินการดังกล่าว 

แต่เมื่อถึงเวลานัดประชุมในเวลา 09.00 น. ปรากฎว่าไม่มีสมาชิกผู้นำมาร่วมประชุม กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงมีผู้นำซึ่งเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและสมาชิกเทศบาลมาไม่ถึง20คน และเมื่อผู้นำท้องถิ่นมาถึงก็พบว่ามีผู้สื่อข่าวมาสังเกตุการณ์และร่วมรับฟังด้วยก็ไม่มีใครกล้าพูด บางคนเซ็นชื่อแล้วก็กลับ โดยผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่งระบุว่าการมาประชุมครั้งนี้คิดว่ามาเพื่อพูดคุยกันเป็นการภายในเพื่อจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่เมื่อมาถึงกลับพบว่ามีชาวบ้านมาชูป้ายประท้วงคัดค้านอยู่ด้านล่างสำนักงานเทศบาลและในห้องก็ยังมีนักข่าวมาฟังด้วยอีก จึงคิดว่าไม่น่าจะใช่การพูดคุยและแก้ปัญหาได้ 

ซึ่งระหว่างที่มีการพุดคุยกันก็เป็นเพียงการพูดคุยถึงปัญหาที่ผ่านมา ไมไช่ว่าจะเป็นการทำประชาคมที่ฝ่ายเทศบาลก็อ้างว่าการประชุมในวันที่3เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นเพียงการประชุมและรับฟังความคิดชาวบ้านเท่านั้นไม่ใช่การทำประชาคม ส่วนชาวบ้านที่คัดค้านก็ระบุว่าเมื่อไม่ใช่การทำประชาคมแต่ทำไมถึงมีการระบุในบันทึกการประชุมพร้อมกับระบุจำนวนคนและสัดส่วนของผู้เห้นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวด้วย 

สุดท้ายการประชุมก็ล่มโดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ เพราะผู้นำที่มาไม่กล้าพูดเพราะมีนักข่าวมานั่งสังเกตุการณ์ในการประชุม โดยนายกเทศมนตรีระบุว่าจะขอนัดประชุมอีกครั้งก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกลับ

ขณะที่กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านประมาณ30 คน ได้มารวมตัวถือป้ายคัดค้านไม่เอาโรงเชือดหมูพร้อมกับยื่นหนังสือคัดค้านผ่านทางนายกเทศมนตรีตำบลแม่ทะ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลแม่ทะพร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าคัดค้านต่อไปเพราะมีความกังวลกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำ เพราะหากปล่อยให้มีการก่อสร้าง ในอนาคตเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่มั่นใจว่าหน่วยงานไหนจะมาแก้ไขปัญหาให้ได้เพราะปัจจุบันปัญหาขาดแคลนนน้ำในพื้นที่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ และขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่มีความแตกแยกกันเป็นอย่างมาก.