"ในหลวง-พระราชินี" ทรงวางพวงมาลาและทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานในวันปิยมหาราช ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรที่เข้าเฝ้าฯ เสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องตลอดเส้นทาง
เมื่อเวลา 17.42 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระลานพระราชวังดุสิต เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานในวันปิยมหาราช ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในการนี้ ทรงวางพวงมาลาแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบรมอัฐิและพระอัฐิแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระอัฐิสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตั้งแต่พุทธศักราช 2560 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระอัฐิสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และพระวิมาดาเธอฯ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ออกประดิษฐานร่วมในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล
พระสงฆ์ 57 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระเทพศากยวงศ์บัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร 18 ไตร พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ 57 รูป และที่ถวายพระธรรมเทศนา สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
เวลา 19.47 น. ภายหลังเสร็จจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานในวันปิยมหาราชภายในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างเนืองแน่น โดยทรงพระดำเนินจากศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ไปตามถนนจักรีจรัณย์ เลี้ยวขวาประตูวิเศษไชยศรี เข้าถนนหน้าพระลาน มุ่งหน้ายังถนนราชดำเนินใน จนถึงบริเวณหน้าศาลฎีกา แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ผ่านเส้นทางถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง
ครั้นเสด็จฯ ถึงบริเวณหน้ากองทัพภาคที่ 1 ถนนราชดำเนินนอก ทรงพระดำเนินเยี่ยมพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ ตลอดสองฟากฝั่งถนนราชดำเนินในต่อเนื่องจนถึงพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระลานพระราชวังดุสิต ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์พร้อมแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด โดยพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จต่างสวมใส่เสื้อสีเหลือง พร้อมถือพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ โบกธงชาติ ธงพระปรมาภิไธยย่อ ว.ป.ร. ธงพระนามาภิไธยย่อ ส.ท. ต่างพร้อมใจเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องตลอดเส้นทางที่ล้นเกล้าฯ ทั้ง 4 พระองค์ประทับรถยนต์เสด็จพระราชดำเนินผ่าน
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จด้วย
วันเดียวกัน ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในวันปิยมหาราช วันที่ 23 ต.ค.63 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่สำนักพระราชวังเปิดให้เข้า มีประชาชนจำนวนมากสวมเสื้อสีเหลืองมาเข้าแถวรอบระเบียงคด วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อรอคิวเข้า ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดแบ่งเป็น 2 แถว โดยกำหนดให้เข้ากราบ 50 คนต่อรอบ เพื่อความรวดเร็วและเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยประชาชนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงมีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งประชาชนต่างหลั่งไหลมาอย่างเนืองแน่นท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว
นางศรีวรรณ อำภาพันธ์ อายุ 47 ปี กล่าวว่า เดินทางมาจาก จ.นนทบุรี โดยนัดหมายเพื่อนไว้ แม้จะใช้เวลาในการต่อแถวก็อดทนรอคอยด้วยความตั้งใจ เพราะในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงนำพาประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง
นางศุภัคชญา ตั้งเจริญ ชาวกรุงเทพฯ กล่าวว่า เดินทางมาจากเขตตลิ่งชันเพื่อมาถวายบังคมพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นพระเมตตาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงให้ประชาชนได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์ทั้ง 9 พระองค์ ภายในปราสาทพระเทพบิดร
น.ส.ปราณี ศรีศรากร อายุ 80 ปี เดินทางมาจากเขตพระนครพร้อมกับครอบครัว กล่าวว่า วันคล้ายวันสวรรคตรัชกาลที่ 5 ปีนี้ตั้งใจมาถวายบังคมพระบรมรูปบูรพกษัตริย์ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 ก่อนหน้านี้เคยมาถวายบังคมพระบรมรูปในปราสาทพระเทพบิดร แต่ตอนนั้นยังไม่ประดิษฐานพระบรมรูป ร.9 ตั้งจิตอธิษฐานให้พระบารมีกษัตริย์ทุกพระองค์ทรงคุ้มครองแผ่นดินไทย เรามีชาติไทยทุกวันนี้เพราะพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ทรงบริหารบ้านเมืองในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
“สถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ที่มีความแตกต่างทางความคิด อยากให้หันหน้าคุยกัน และอยากให้กตัญญูรู้คุณสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์ที่กอบกู้รักษาชาติ“ น.ส.ปราณีกล่าว
ช่วงเย็นที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พระครูวิจิตรธรรมคุณ ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายฆราวาส ร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาเนื่องในวันปิยมหาราช ซึ่งเป็นไปตามมติมหาเถรสมาคมที่ให้จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาพร้อมกันทั่วประเทศ โดยในส่วนของกรุงเทพมหานครจัดที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ส่วนต่างจังหวัดกำหนดจัดพิธี ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดและสถานที่ที่เหมาะสม
“อยากให้ลูกหลานไทยได้ระลึกถึงสิ่งที่พระมหากษัตริย์ไทยได้ทรงสร้างไว้ให้จวบจนทุกวันนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดกิจกรรมสวดมนต์ทุกสัปดาห์จนถึงวันที่ 5 ธ.ค.63 ซึ่งตรงกับวันพ่อแห่งชาติ”
ขณะเดียวกันในส่วนกลาง รัฐบาลและรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนต่างเดินทางไปถวายความเคารพ พร้อมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต
ไม่ต่างจากในภูมิภาคที่ทุกจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะนำส่วนราชการ เอกชน และประชาชนทำพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม ในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |