30 เม.ย.61 - จากกรณีพบศพ นายสุทัด  ทัดจันดา อายุ 49 ปี ชาว สปป.ลาว ซึ่งถูกคนร้ายฆ่าปาดคอจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งไว้ภายในป่าสาธารณะ พื้นที่ บ.ขุนด่าน ม.1 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ก่อนมีผู้มาพบศพเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา ล่าสุดมีความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา  พ.ต.อ.ยุทธกร  วงเวียน ผกก.สภ.อุบลรัตน์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์  คงศิริสมบัติ ผกก. สส.3 บก.สส.ภ.4 พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน ร่วม สภ.อุบลรัตน์,ภ.จว.ขอนแก่นและ บก.สส.ภ.4 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบศพรวมทั้งการประชุมร่วมชุดสืบสวนสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าและลำดับขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.ยุทธกร กล่าวว่า  ขณะนี้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน เป็นชาย อายุ 40 ปี มีบ้านพักในพื้นที่ 9.บ้านดง อ.อุบลรัตน์    และมีที่ดินใกล้กับจุดที่พบศพผู้ตาย  ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีความสนิทสนมกับผู้ตายและครอบครัวผู้ตายเป็นอย่างดี  เข้าขั้นเพื่อนสนิท ซึ่งขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้นั้น เคยถูกจับในคดีปล้นทรัพย์ คดียาเสพติด และคดีอาวุธปืน ขณะนี้มีหลักฐานที่จะเอาผิดผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ แต่ยังไม่ครบ เพราะต้องรอพยาน หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ 

พ.ต.อ.ยุทธ กล่าวต่อว่าการสืบสวนสอบสวนนั้นขณะนี้มีการระดมทีมเจ้าหนยี่ จาก สภ.อุบลรัตน์,ภ.จว.ขอนแกนและ บก.สส.ภ.4 โดย กก.3ฯ, ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่า การตายของนายสุทัดนั้น คนร้ายไม่ได้ลงมือคนเดียว อย่างน้อยต้องมีคนคอยช่วยเหลืออีก 1-2 คน เพราะผู้ตายเป็นคนรูปร่างใหญ่ ผู้ต้องสงสัยลงมือคนเดียวคงยากพอสมควร และคนร้ายกลุ่มนี้เป็นคนในพื้นที่ ที่รู้จักเส้นทางและจุดที่ทิ้งศพ  รวมทั้งรู้เส้นทางลัดระหว่างพื้นที่ อ.อุบลรัตน์ไป อ.เขาสวนกวาง  ซึ่งจุดที่พบรถของผู้ตายนั้นคือ ที่บ้านดงเย็น ต.นางิ้ว อ.เขาสวนกวาง ซึ่งขณะนี้การตรวจพิสูจน์รถคันดังกล่าว ยืนยันแล้วว่าเป็นรถของผู้ตาย ที่คนร้ายถอดป้ายทะเบียนทิ้งแล้ว ทำการเผาอำพรางส่วนสาเหตุการฆาตกรรมนั้น มุ่งประเด็นเรื่องความแค้นส่วนตัวและความขัดแย้งกับกลุ่มคนร้าย และเชื่อว่าการตายครั้งนี้มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และเป็นคนสั่งฆ่านายสุทัด ดังกล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส. 3 บก.สส.ภ.4  กล่าวว่า   ชุดสืบสวนมีการการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้จริง  แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะยังต้องรอพยานหลักฐานเพิ่มเติม อีกทั้งต้องสอบปากคำภรรยาของผู้ตายด้วยว่า สามีมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับใครบ้าง สนิทสนมกับคนกลุ่มใด  นอกจากอาชีพรับเหมาแล้ว สามีได้ติดต่อสื่อสารทำธุรกิจกับใครบ้าง ซึ่งทั้งหมดต้องสอบสวนอย่างละเอียด และภรรยาผู้ตายต้องพูดความจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะการตายของนายสุทัด ยังมีข้อสงสัยหลายเรื่อง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้เพราะจะกระทบกับสำนวนของการสืบสนสอบสวนในภาพรวม.