23 ต.ค.63 - เมื่อเวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานจอดรถภายในที่ว่าการอำเภอเมืองขอนแก่น กลุ่มชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ทั้ง 18 ตำบล รวมกว่า 500 คน พร้อมใจกันสวมใส่เครื่องแบบข้าราชการเต็มยศ และสวมใส่เสื้อสีเหลือง รวมตัวกันเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและปกป้องต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งเพื่อมอบหนังสือกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้กำลังพระทัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้พระองค์ได้มีกำลังพระทัยที่จะผ่านพ้นเหตุการณ์ จากกรณีที่กลุ่มการเมือง นักศึกษา และนักเรียน ที่มีการชุมนุมประท้วงและพูดจาจาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ เป็นที่รักทิดทูนของประชาชนชาวไทยที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ซึ่งในช่วงของของการรวมตัวทำกิจกรรมนั้น กลุ่มชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านได้มีการร่วมชูธงชาติไทย และธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ โบกสะบัดแสดงพลังเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งร้องเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจะมอบหนังสือให้กับนายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ นายอำเภอเมืองขอนแก่น และแยกย้ายกันอย่างสงบ ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด
นางทัศนี ศรีโสภา ประธานกลุ่มสตรี อ.เมือง จ.ขอนแก่น และประธานขับเคลื่อนองกรสตรีหรือบทบาทสตรีระดับจังหวัด กล่าวว่า การแสดงออกในวันนี้ทุกคนมากันเองด้วยใจ เพื่อแสดงออกในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คนไทยให้ความเคารพ เชิดชูมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ
" โดยส่วนตัวมองว่าการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาในขณะนี้ ทุกคนมีสิทธิทำได้แต่ขอให้เหมาะสมโดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษาที่มีหน้าที่เรียนเป็นหลัก การแสดงออกต่างๆที่กระทำนั้นหากเนื้อหาสมควรก็ไม่ผิด แต่การจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควร"
นางทัศนี กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ทุกคนพร้อมใจกันสวมเสื้อเหลืองเพื่อมาแสดงออกในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อให้กำลังพระทัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้พระองค์ได้มีกำลังพระทัยที่จะผ่านพ้นเหตุการณ์ที่กลุ่มการเมือง นักศึกษา และนักเรียน ที่มีการชุมนุมประท้วงและพูดจาจาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ เป็นที่รักทิดทูนของประชาชนชาวไทยที่เกิดขึ้นในขณะนี้
23 ต.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศบริเวณพระลานพระราชวังดุสิตตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีพิธีวางพวงมาลาน้อมรำลึกครบรอบ 110 ปี วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่พระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีบรรดาหน่วยงานราชการ องค์กรอิสระ ภาคเอกชน พรรคการเมือง คณะครู นักเรียน และนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทยอยเดินทางมาร่วมวางพวงมาลา อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย นอกจากนี้ยังประชาชนกลุ่มต่างๆมาร่วมพิธีดังกล่าว พร้อมแสดงเจตจำนงในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน
โดยกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ยังได้อ่านแถลงการณ์ที่มีใจความว่า จากเหตุการณ์ที่มีกลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมาทำกิจกรรมเสนอข้อเรียกร้องตามสถานที่ต่างๆในช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าได้มีกลุ่มทั้งในและต่างประเทศที่ไม่หวังดี แทรกตัวเข้ามาด้วยการให้ข้อมูล และชี้แนะเยาวชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่เพื่อหวังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการปกครองโดยให้ข้อมูลในเชิงลบ บิดเบือน แฝงการยุยงปลุกปั่นเป็นขบวนการ เพื่อให้เกิดการแตกแยกของคนไทยกันเอง โดยเจาะเข้าทางกลุ่มนิสิต นักศึกษา และผู้ที่กำลังอยู่ในวัยบรรลุนิติภาวะ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิด ความมุ่งมั่นในการรับรู้ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลจากการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลกันในวงกว้าง จึงทำให้การป้อนข้อมูลที่ผิดเพี้ยน เน้นการปลูกฝังซ้ำๆ รวมทั้งการโน้มน้าวแบบผิดแผก จึงเป็นกลยุทธ์หลักในการชักนำไปสู่การปลูกฝังทางความคิดของกลุ่มใหม่แบบบิดเบือน เพื่อให้คนกลุ่มนี้บรรลุสู่การชักนำที่รวดเร็ว นำมาซึ่งความสัมฤทธิ์ผลของผู้ไม่หวังดี ทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังมุ่งหวังต่อผลสำเร็จมีความประสงค์ที่จะล้มล้างสถาบันสูงสุดของคนในชาติเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความสั่นคลอนต่อรัฐบาลในการบริหารประเทศต่อไปได้
กลุ่มอาชีวะฯ ระบุอีกว่า ผู้ที่ไม่หวังดีเหล่านั้นพร้อมที่จะหาจังหวะช่วงชิงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ตามเป้าหมายระดมคนรุ่นใหม่ให้กระทำการพลิกประวัติศาสตร์ในการจาบจ้วงกระทำการหมิ่นราชวงศ์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้มีเหตุการณ์จาบจ้วงผิดแผกออกมาเป็นระยะกระจายในหลายจุดแบบรายวัน ไม่ว่าจะเป็นการชูป้ายข้อความของคนบางคนในกลุ่มม็อบ มีการใช้คำที่ให้ร้ายพาดพิงต่อพระมหากษัตริย์ การทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ในหลายพื้นที่ ทางกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน จึงไม่สามารถนิ่งเฉยได้ และขอเสนอจุดยืน คือ 1. กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันจะดำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. ขอให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจงหยุดการกระทำก้าวล่วงบิดเบือนต่อสถาบัน การยุยงปลุกปั่นเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงประเทศทำให้ประชาชนแตกแยก 3. ทางกลุ่มขอประณามผู้ที่สั่งการ ผู้ที่สนับสนุนรู้เห็นและผู้ที่กระทำการล้อมรถยนต์พระที่นั่งเมื่อวันที่ 14 ต.ค.โดยวิงวอนขอให้รัฐบาลลงโทษผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายบ้านเมือง
4.ทุกการแสดงออกของประชาชนโดยเฉพาะอมคนรุ่นใหม่ ถือเป็นสิทธิเสรีภาพทุกคนสามารถกระทำได้อย่างอิสระตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุม การจัดกิจกรรมใดๆถือเป็นสิทธิของบุคคลทางกลุ่มจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และขัดขวาง แต่ต้องไม่ก้าวล่วงและมีพฤติกรรมที่หมิ่นต่อสถาบัน และต้องไม่จาบจ้วงสถาบันโดยเด็ดขาด 5. เราจะไม่ทำร้ายประชาชนคนไทยกันเองยกเว้นผู้ที่จาบจ้วง หรือเพื่อป้องกันตัวเองและป้องปกป้องประชาชนที่จงรักภักดีเราพร้อมปกป้องสถาบัน โดยถวายความจงรักภักดีจนถึงที่สุด และ 6.กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการทำงานของรัฐบาล
จึงขอเรียกร้องให้นักศึกษากลุ่มอาชีวะทั่วประเทศ ซึ่งเราคืออาชีวะของพระราชา ออกมายืนเคียงข้างประชาชนผู้จงรักภักดีและขอเชิญผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะรวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว พร้อมกันออกมาร่วมแสดงความแสดงจุดยืน เพื่อปกป้องราชบัญญัติบัลลังก์ให้อยู่คู่แผ่นดินนี้สืบไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |