23 ต.ค.63- .น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์แสดงความเห็นในเพจเฟซบุ๊กระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ละเลยข้อเสนอเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า นายธนาธรกำลังเสนอสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ และคนไทยจำนวนมากไม่มีวันที่จะรับได้ ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีชัดเจนในการปกป้องสถาบัน ในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีรายงานข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ยังได้กล่าวกับ ครม.ว่า "เมื่อเกิดมาเพื่อปกป้องสถาบัน ถ้าตายขอตายเพื่อสถาบัน" ฉะนั้น คนที่มีจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันอย่างพล.อ.ประยุทธ์ ถึงขั้นยอมตายได้เช่นนี้หรือ จะยอมรับข้อเรียกร้องเรื่องปฏิรูปสถาบันได้

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แต่ที่สังคมต้องตั้งข้อสังเกตก็คือ ความกระตือรือร้นผิดปกติ ในการผลักดันข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของนายธนาธรมากกว่า สิ่งที่นายธนาธรพยายามปฏิเสธมาตลอดว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ชุมนุม แต่การออกมาพูดสนับสนุนแนวทางของกลุ่มผู้ชุมนุม การเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุม แม้จะไม่ได้ออกหน้าเป็นแกนนำ โดยเฉพาะการออกมาสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์นี่ต่างหาก ที่ยิ่งพูดยิ่งเปิดเผยเป้าหมายและเจตนาที่แท้จริงของนายธนาธรที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

"นายธนาธรดูกระเหี้ยนกระหือรือดิ้นรนเป็นพิเศษ ในการผลักดันข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์  โดยอ้างมวลชนมาบังคับขู่เข็ญพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอาจเชื่อว่ามาถึงจุดนี้ จากพฤติกรรมของนายธนาธร ทำให้สังคมไม่ไว้วางใจนายธนาธรเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่มีความจงรักภักดี  ก็มีสิทธิคิดว่านายธนาธรต้องการปฏิรูป ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงหรือล้มล้างสถาบัน และต้องการอะไรที่เลยเถิดมากไปกว่านั้นหรือไม่ "น.ส.ทิพานัน กล่าว

ส่วนที่นายธนาธร กล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ปลุกให้ประชาชนเกลียดชังกันเอง จนเกิดปะทะกันเองแทนเจ้าหน้าที่รัฐนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ต้องถามกลับว่า ประชาชนผู้เห็นต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น เขาต้องการอะไร เท่าที่ดูคือการแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบัน เป็นเสียงสะท้อนอันบริสุทธ์ที่ไม่ต้องการให้มีการแตะต้องสถาบัน แสดงให้นานาอารยประเทศได้รับรู้ว่าประชาชนคนไทยไม่ได้เห็นด้วยกับการปฏิรูปสถาบันเท่านั้น ฉะนั้นหากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้นำเรื่องปฏิรูปสถาบันเข้าไปเป็นหนึ่งใน 3 ข้อเรียกร้อง ก็จะไม่มีกลุ่มปกป้องสถาบันเกิดขึ้นได้เลย ฉะนั้น หากไม่มีเงื่อนไขตามข้อเรียกร้องดังกล่าวก็จะไม่เกิดการปะทะกันของมวลชนอย่างที่นายธนาธรกังวลแน่นอน

"ต้องมองที่ต้นตอของปัญหาว่าเริ่มมาจากตรงไหน มากกว่ามาตีโพยตีพาย กล่าวโทษผู้อื่น อีกทั้งยังทำให้เข้าใจได้ว่าการนำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวก็เพื่อยั่วยุ หรือหวังให้สถานการณ์ลุกลามจนเกิดการปะทะเสียเอง กดดันให้เกิดการรัฐประหารเพื่อปูทางให้นักการเมืองบางคนถือโอกาสขอลี้ภัยหลบหนีจากคดีอาญาที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะแม้กระทั่งการถอยคนละก้าว ที่พล.อ.ประยุทธ์ออกมาแถลงการณ์ก็สะท้อนถึงความจริงใจ ด้วยการประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในท้องที่กรุงเทพฯแล้ว แต่นายธนาธรก็ยังชี้นำด้วยอคติ เหมือนต้องการผลักให้ประเทศไปสู่ทางตัน"น.ส.ทิพานัน กล่าว