ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "บิ๊กตู่" โชว์ถอยสเต็ปแรก เซ็นคำสั่งยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร โดยให้ใช้กฎหมายปกติจัดการกับม็อบคณะราษฎรแทน อาทิ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ขณะที่อีกฝั่งยังไม่ลดราวาศอก หลังได้ใจบุกทำเนียบฯ รอบ 2 ขีดเส้นตาย 3 วัน ต้องทิ้งเก้าอี้นายกฯ แถมร่างหนังสือลาออกไว้ให้เสร็จสรรพ มีเนื้อหาว่า "ตามที่ข้าพเจ้า ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง บังคับขู่เข็ญ ร่างรัฐธรรมนูญโจร ต่อรองผลประโยขน์และอำนาจหน้าที่ และใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นข้ออ้าง เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เพื่อเป็นการรักษาซึ่งเกียรติยศของตระกูล เกียรติยศของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกียรติยศของประเทศชาติ และแสดงซึ่งความเคารพต่อประชาชนผู้ถือครองอำนาจอธิปไตย ข้าพเจ้า นายประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี" งานนี้เลยต้องรอดูว่าครบ 3 วันแล้ว กลุ่ม 3 นิ้วจะแกงอะไรมาอวดคนไทยกันอีก ครั้นจะให้บิ๊กตู่ถอยฝ่ายเดียวแบบสุดซอย ณ เวลานี้ ตอบเลยว่ายาก อย่างน้อยต้องให้อภิปรายทั่วไปของรัฐสภาโดยไม่ลงมติ เพื่อหารือถึงทางออกสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ก่อน
๐ "ฝ่ายค้านเห็นเนื้อหาในญัตติที่ฝ่ายรัฐบาลขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญแล้ว กังวลว่าจะขัดข้อบังคับการประชุมหรือไม่ หากจะมีการพูดถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการประชุมครั้งนี้จะตอบสนองความคาดหวังของสังคมในการหาทางออกให้ประเทศได้จริงหรือไม่ ถ้าพิจารณาแล้วไม่ใช่ทางออก ฝ่ายค้านอาจจะพิจารณาทบทวนไม่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ" ไม่ทันไรฝ่ายค้านก็ยักท่าส่อพลิกเกมไม่ร่วมวงอภิปรายกับรัฐบาลและ ส.ว. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ก็เรียกร้องปาวๆ ทุกวันให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ พอวันนี้มีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมกำหนดวัน แบ่งกรอบเวลาอภิปรายกันแล้ว กลับลังเล สงสัยดูท่าแล้วกลัวจะเข้าทางบิ๊กตู่ ผิดคอนเซ็ปปต์จากทีแรกหวังจะเปิดสภาถลกบิ๊กตู่ จะกลายเป็นหาทางลงให้โดยไม่ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ถึงว่าการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่สุดท้ายพลิ้วลำบาก หลังการหารือของหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุในทำนองต้องจำใจร่วมวงแก้วิกฤติชาติ พร้อมตำหนินายกฯ ไม่จริงใจ เสนอญัตติป้ายสีม็อบ
๐ กับสถานการณ์ที่รุกไล่ พล.อ.ประยุทธ์อย่างหนัก หนึ่งในตัวแปรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง บีบบิ๊กตู่ออกจากตำแหน่งได้ก็คือ การที่พรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรค ประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล พปชร.ก็ไปต่อไม่ได้แม้จะมีเสียง ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ อยู่ในมือ ยิ่งสภาฯ สมัยหน้า สามารถยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ได้ ฝ่ายค้านก็ต้องรีบยื่นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์แน่ ตอกย้ำให้ไปสู่ทางตัน อาจลาออกหรือยุบสภาฯ แต่สถานการณ์อย่างนั้นยังไม่เกิดขึ้น ปัจจุบันท่าทีของ ปชป.และ ภท.ยังยืนกรานจุดยืนเดิม หนุนบิ๊กตู่ต่อไป โดยเฉพาะเสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีลุ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ ส่วนจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าประชาธิปัตย์ แสดงท่าทีชัดเจนไปแล้วช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อดีตหัวหน้าพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม เดอะมาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยทำหน้าที่นำประชาธิปัตย์มา 14 ปีกว่า จากสถานการณ์การเมืองร้อนๆ เวลานี้อภิสิทธิ์ได้แสดงทัศนะเรื่องทางออกของวิกฤติการเมืองเวลานี้เอาไว้หลายแนวทาง โดยเน้นเรื่องการต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเมื่อถูกถามว่า "ในฐานะสมาชิกพรรค ปชป. หากมีคนถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรมีท่าทีในการร่วมรัฐบาลต่อไปอย่างไร อภิสิทธิ์ ตอบคำถามนี้อย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทสัมภาษณ์พิเศษ อภิสิทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี วันอาทิตย์นี้ 25 ตุลาคม ใน "ไทยโพสต์ แทบลอยด์".
ลี้คิมฮวง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |