วันนี้ - นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ผลักดันต้มยำกุ้งเข้าสู่บัญชีรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโกต่อจากโขนและนวดไทย ล่าสุด ได้มีการประชุมประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งทางตรงและทางอ้อมจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งชุมชนผู้ถือครองภูมิปัญญา ผู้ปฏิบัติ และผู้สืบทอด ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ประกอบการ บริษัทผลิตอาหาร ร้านอาหาร เพื่อให้ได้รับรู้ รับทราบ ยินยอม และเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำข้อมูล เอกสาร นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พิจารณา ระหว่างเดือน พ.ย.- ธ.ค. นี้ จากนั้นจะนำเสนอต่อไปยังที่ประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ภายในเดือน มี.ค. 2564
นายชาย กล่าวอีกว่า จากการประชาพิจารณ์ทุกฝ่ายได้เห็นพ้องในการเสนอต้มยำกุ้งเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ตามมาตรา 2 ของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ด้วยลักษณะธรรมเนียมและการแสดงออก การปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล ตลอดจนความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล โดยต้มยำกุ้งเป็นภูมิปัญญาการทำอาหารที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่องของชุมชนภาคกลางที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งมีวัฒนธรรมการบริโภคอาหารผ่านการสังเกตและเรียนรู้จากธรรมชาติ โดยนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ที่สำคัญได้มีการนำเสนอถึงสมุนไพรไทย องค์ประกอบสำคัญของการปรุงอาหารต้มยำกุ้ง ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และมะนาว ซึ่งนิยมปลูกตามพื้นที่ว่างภายในบริเวณบ้านหรือตามสวนไร่นาแบบวิถีไทย สมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณช่วยบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยหรือความผิดปกติของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลซึ่งร่างกายมักจะมีไข้ ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว การได้รับประทานต้มยำกุ้งซึ่งมีสมุนไพรจะช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดี และปรับสมดุลร่างกายให้ธาตุทั้งสี่เดินเป็นปกติ
“ สูตรต้มยำกุ้งยังสามารถประยุกต์ได้มากมายเพื่อตอบสนองต่อสภาพทางภูมิศาสตร์ วิถีชีวิต และรสนิยมทางอาหารที่แตกต่างกันไปของคนกลุ่มต่างๆ จนต้มยำกุ้งเป็นที่รู้จักและยอมรับของคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม หากต้มยำกุ้งได้รับการขึ้นทะเบียนจะส่งผลให้เกิดการสืบสานและพัฒนายกระดับอาหารไทยสู่สากล สร้างความภาคภูมิใจ และสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมอาหารที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ ตั้งแต่ชุมชน ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ผู้ผลิต และผู้ส่งออกวัตถุดิบ” นายชาย กล่าว
เครดิตภาพ : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม