คงไม่มีใครอยากให้เกิดสำหรับอุบัติเหตุ กรณีขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 852 ดีเซลเลขที่ 5102 มีต้นทางสถานีแหลมฉบัง และสถานีปลายทางลาดกระบัง (ไอซีดี) เฉี่ยวชนรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ขณะที่ขบวนผ่านสถานีคลองบางพระ ก่อนถึงบริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น เป็นทางผ่านที่ยังไม่ได้รับอนุญาต หรือทางลักผ่าน กม.50+031 จากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย
เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างก็หาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเดิม แม้ว่าพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ติดตั้งป้ายหยุด และสัญญาณไฟเตือนเพื่อช่วยในด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ โดยช่วงเกิดเหตุมีรถบัสโดยสารไม่ประจำทางขับผ่านจุดตัดบริเวณดังกล่าว แม้ว่าพนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับ โดยการเปิดหวูดเตือนก่อนจะถึงจุดตัดเสมอระดับทาง แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน จนทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถบัสโดยสาร
เร่งแก้ไข "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการด่วนให้ปลัดกระทรวงคมนาคมประชุมร่วมกับรองปลัดฯ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กรมการขนส่งทางบก ผู้ว่าฯ รฟท. ซึ่งได้ข้อสรุปที่ต้องดำเนินการแก้ไขระยะเร่งด่วน จุดที่เกิดเหตุ 2 เรื่อง คือ 1.ให้ รฟท.ปรับปรุงแก้ไขป้ายเตือน สัญญาณไฟกะพริบให้เสร็จและพร้อมใช้งานโดยเร็ว
2.ให้ รฟท.เร่งเสนอคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาขอติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ ก่อนเสนอคณะกรรมการร่วมพิจารณาการขออนุญาตและการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนที่มีรองปลัดคมนาคมเป็นประธานเป็นการเร่งด่วน เพื่ออนุญาตให้ รฟท.ดำเนินการติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหา โดยขอใช้เงินจาก กปถ.ดำเนินการเร่งด่วนประมาณ 4-5 ล้านบาท เนื่องจาก รฟท.และจังหวัดไม่มีงบประมาณ
ส่วนมาตรการระยะต่อไป ให้ รฟท.ร่วมกับจังหวัดสำรวจตรวจสอบจุดตัดทางรถไฟที่เป็นทางลักผ่านที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนและมีความเสี่ยงสูง พิจารณาแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ตามเกณฑ์ความปลอดภัยในการเดินรถ ซึ่งหากเป็นทางลักผ่านขนาดใหญ่ และมีความจำเป็นต้องเปิดให้สัญจรจะต้องติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ ทางลักผ่านขนาดเล็ก หากไม่จำเป็นมีปริมาณรถน้อย และมีผลต่อความปลอดภัยในการเดินรถไฟ จำเป็นต้องปิด ต้องเร่งดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันมีจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศรวม 2,684 แห่ง แบ่งเป็นจุดตัดต่างระดับ 406 แห่ง จุดตัดเสมอระดับ 2,278 แห่ง ซึ่งเป็นจุดตัดเสมอระดับที่ได้รับอนุญาตจำนวน 1,657 แห่ง (ติดตั้งเครื่องกั้น 1,450 แห่ง ติดไฟกะพริบและป้ายสัญญาณเตือน 207 แห่ง) เป็นจุดตัดเสมอระดับลักผ่าน ไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 621 แห่ง ซึ่งจากสถิติช่วงปี 2558-2562 พบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุบ่อย ซ้ำซ้อน จำนวน 35 แห่ง เบื้องต้นเป็นทางลักผ่าน 9 แห่ง โดยบางแห่งเกิดเหตุซ้ำ 2-3 ครั้ง ดังนั้นต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน
ขณะที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟมาตั้งแต่ปี 2557 โดยจะใช้เกณฑ์พิจารณาจากปริมาณการจราจรผ่านจุดตัด เช่นเกิน 1 แสนคันจะก่อสร้างถนนเป็นทางต่างระดับข้ามทางรถไฟ กรณีต่ำกว่าจะติดเครื่องกั้นอัตโนมัติ เป็นต้น ส่วนจุดตัดเสมอระดับที่เป็นทางลักผ่าน ได้มีการติดป้ายเตือนและสัญญาณไฟกะพริบ แต่ต้องยอมรับว่าการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เมื่อถึงจุดตัดทางรถไฟ ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถและมองซ้ายมองขวา มั่นใจว่าไม่มีรถไฟแล้วจึงขับผ่านไปนั้นยังเป็นสิ่งที่ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ดีที่สุด เพราะแม้จะมีเครื่องกั้น แต่ยังมีผู้ขับขี่พยายามฝ่าเครื่องกั้นไปอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนในการระมัดระวังเมื่อขับผ่านจุดตัดทางรถไฟ
พูดได้เลยว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทุกครั้งที่เกิดขึ้นแน่นอนว่ามีการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น กรมการขนส่งทางราง ได้รายงานกระทรวงคมนาคมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟทั่วประเทศ และแผนปฏิบัติการ รวมถึงออกแบบรายละเอียดในการปรับปรุงกายภาพจุดตัดแต่ละแห่ง โดยใช้งบศึกษาจาก กปถ.จำนวน 29.5 ล้านบาท ระยะเวลาศึกษา 15 เดือน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรมขนส่งทางบกได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจถึงความปลอดภัยในการใช้บริการ รถโดยสารแบบไม่ประจำทาง กรณีต้องการเช่าเหมาบริการนั้นจะต้องตรวจสอบสำเนาจดทะเบียน การชำระภาษี ใบขับขี่คนขับ ประกันภัย จำนวนที่นั่ง และอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยตามกฎหมาย และเมื่อใช้บริการจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งอย่างเคร่งครัด.
กัลยา ยืนยง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |