20 ต.ค. 2563 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังให้การดูแลเกี่ยวกับมาตรการเสริมสภาพคล่อง ทั้งการพักชำระหนี้ การชะลอการชำระหนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ในการเป็นเครื่องมือช่วยให้สภาพคล่องในระบบธุรกิจสามารถเดินต่อได้ ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับธนาคารต่าง ๆ ซึ่งจะได้เห็นความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า
"ที่ผ่านมาสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้ให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารแล้วกว่า 4 ล้านราย จากทั้งหมด 12 ล้านราย ซึ่งเป็นไปตามมาตรการซอฟท์โลนของ ธปท.แล้ว ยังมีมาตรการเฉพาะของแต่ละธนาคารเองที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้วย ส่วนสินเชื่อที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท จากทั้งหมด 5.5 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ยังได้มีการปล่อยสินเชื่อจากซอฟท์โลนให้แก่นอนแบงก์ เช่น ลิซซิ่ง เช่าซื้อรถที่มีอยู่อีกจำนวนหนึ่งด้วย" นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวอีกว่า ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะนี้ได้ประสานกับธนาคารพาณิชย์เพื่อให้มีมาตรการต่อเนื่องในการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคาร หลังจากมาตรการภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พ.ร.ก.ซอฟท์โลน) วงเงิน 5 แสนล้านบาท ของ ธปท. ซึ่งจะสิ้นสุดอายุมาตรการในวันที่ 22 ต.ค. นี้
ทั้งนี้ ได้มีการจัดกลุ่มลูกค้าไว้ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ลูกหนี้ที่กลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติ ประมาณ 60% 2. ลูกหนี้ที่กลับมาดำเนินธุรกิจได้ แต่ยังไม่ฟื้นตัวดี ประมาณ 34% 3.ลูกหนี้ที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ และ 4.ลูกหนี้ที่ขาดการติดต่อกับสถาบันการเงิน ประมาณ 1%
นอกจากนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาน์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบเกี่ยกวับประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทย ที่ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ในปี 2563 ให้ดีขึ้นเป็น -7.1% จากเดิมที่คาด -7.7% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย
"แนวโน้มการปรับตัวเลขเศรษฐกิจนั้น ทั้งไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้ปรับตัวเลขให้ภูมิภาคเอเชียฟื้นตัวเร็วกว่าภูมิภาคอื่นของโลก ประกอบกับจะเห็นได้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นหลายตัว มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 นี้ และคาดว่าจะต่อเนื่องไปไตรมาส 4/2563" นายอาคม กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |