20 ต.ค. 63 - ที่สำนักงานเทศบาลเมืองเมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่ง ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัดนครราชสีมา แก้ไขปัญหาน้ำท่วมอำเภอปักธงชัย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมรอบบ่ายติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปักธงชัย พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบกับอุทกภัยในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยมีนายบัลลังก์ ไวย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย , นายมงคล ประยูรหงส์ นายกเทศมนตรีตำบลเมืองปัก และ นางแสงเสน่ห์ เกษกระทุ่ม หัวหน้ากลุ่มงานยุทธ์ศาสตร์และการจัดการ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม อย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมทั้งลงพื้นที่บ้านโนนตูม เขตเทศบาลเมืงปักฯ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจชั้นในถูกน้ำท่วมทั้งหมด

นายบัลลังก์ เปิดเผยว่า มวลน้ำจากลำพระเพลิงและลำน้ำสาขาได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจเมืองปักธงชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในของตัวเมืองตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาและเพิ่มระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมที่ว่าการอำเภอ ตลาดปักธงชัย ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านผ้าไหมที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวน้ำท่วม อยู่ที่ระดับประมาณ 45-50 ซม. โรงเรียนหลายแห่งประกาศปิดการเรียนการสอน โดยรวมของอำเภอปักธงชัย ขณะนี้น้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ 14 ตำบล 1 เทศบาลเมือง 1 เทศบาลตำบล จากทั้งหมด 16 ตำบล มีเพียง ต.ภูหลวง และ ต.ธงชัยเหนือ ที่ไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม โดยบางจุดน้ำยังท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร เช่น ต.บ่อปลาทอง ต.ตูม ต.ตะขบ ต.เมืองปัก ประชาชนสัญจรลำบาก เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือในการอำนวยความสะดวกเข้าออกและเฝ้าดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน ส่วนถนนทางหลวงหมายเลขสาย 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรีท่วมสูงประมาณ 40 ซม. ฝั่งทางคู่ขนานขาเข้าจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดช่องทางพิเศษให้รถสัญจรเพียง 1 ช่องจราจรเป็นระยะทางประมาณ 1 กม.

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยรวมในวันนี้ ระดับน้ำทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง โดยเขื่อนลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำลดลง มีระดับน้ำเกินความจุในระดับกักเก็บประมาณ  4 ล้าน ลบ.ม. ล้นเฉพาะปากแตร ส่วนทางระบายน้ำฉุกเฉินไม่มีน้ำล้นออกมาแล้ว ฉะนั้นคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีกจะสามารถระบายน้ำได้ภายใน 2-3 วันนี้ ประกอบกับมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งผลักดันน้ำอยู่ด้านท้ายของตัวเมืองปักธงชัยก็จะช่วยเหลือน้ำไปได้เร็วขึ้น แต่ในพื้นที่ลุ่มอาจจะใช้เวลานานกว่านี้