20 ต.ค.63-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มครูและอาจารย์จะหยุดสอนทั่วประเทศ หากนายกรัฐมนตรีไม่ลาออก ว่า เรื่องการนัดหยุดเรียนและหยุดสอนนั้นก็ต้องดูความเหมาะสมคืออะไร ซึ่งหากหยุดการเรียนการสอนแล้วประเทศจะสามารถพัฒนาไปได้หรือไม่ เพราะวันนี้สิ่งที่เราต้องการคืออยากให้เด็กและเยาวชนของไทยมีความรู้ความสามารถมากที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กมีศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ ดังนั้นหากเด็กไม่ได้รับความรู้หรือพัฒนาตามทักษะไม่เพียงพอก็อาจจะส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาเด็กไทยในอนาคตได้ ทั้งนี้หากครูหยุดสอนทั่วประเทศ โรงเรียนจะต้องดูเหตุผลของการหยุดเรียนหยุดการสอนด้วย เพราะในปัจจุบันก็มีนักเรียนที่หยุดเป็นกลุ่มชั้นเรียน โดยตนได้มีการพูดคุยกับผู้อำนายการโรงเรียนให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น แต่ยังไม่ได้เป็นการกระจายในวงกว้าง ซึ่งตนคิดว่านักเรียนส่วนใหญ่ยังคงเห็นความสำคัญของการศึกษา และหารได้รับความรู้ในโรงเรียน ส่วนนอกเวลาเรียนจะไปทำเรื่องอะไรนั้น ตนหวังว่านักเรียนคงมองเห็นเวลาที่ว่างให้หาความรู้ใส่ตัวเอง
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นข้อเสนอแนะของกลุ่มนักเรียนในองค์กรต่างๆ ที่เสนอให้ ศธ.มีการปฏิรูปการศึกษาทั้งเรื่องเครื่องแบบนักเรียน ทรงผมนักเรียน การจัดการเรียนการสอน หลักสูตรการเรียนการสอนนั้น ขณะนี้ ศธ.ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนของนักเรียน นักศึกษาแล้ว ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วย ผู้แทนจากครูอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา นักวิชาการ และตัวแทนนักเรียน เพื่อรวบรวมปัญหาข้อร้องเรียนทั้งหมดนำไปสู่การแก้ไขให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นข้อเรียกร้องในประเด็นต่างๆ จากการเปิดรับฟังความคิดในทุกช่องทางของ ศธ.นั้นกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาและหาทางออกให้อย่างแน่นอน โดยคณะกรรมการฯจะแบ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาออกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องที่แก้ไขได้ทันที และ เรื่องที่ต้องรอการดำเนินการ เพราะบางเรื่องต้องเข้าไปแก้ไข