'คลัง'โยนฝ่ายนโยบายเคาะต่อสัมปทานบีทีเอสแลกหนี้ย้ำสคร.กำลังดูอย่างรอบคอบ


เพิ่มเพื่อน    

 

20 ต.ค. 2563  จากกรณีที่กรุงเทพมหานครในฐานะคู่สัญญากับบริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ – คูคต 38 ปี ในเงื่อนไขแลกหนี้ 1 แสนล้านบาท กับค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย แต่ล่าช้า เพราะติดขัดในขั้นตอน รอให้ รมว.การคลัง คนใหม่ เห็นชอบ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพิ่งได้ยินเรื่องการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่เรื่องนี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) น่าจะกำลังดูอยู่ ทุกอย่างมีขั้นตอน พิจารณาเสร็จเมื่อไหร่ ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบาย 

“คลังรับมาศึกษาดูอยู่ ต้องไปถาม สคร. เพราะมีหลาย ๆ ประเด็น ที่ สคร.น่าจะต้องพิจารณา ให้รอบคอบ” นายกฤษฎา กล่าว 

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาที่ สคร. เพื่อร้องเรียน ตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยคณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.36 แห่ง พรบ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) ที่ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2563 เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่ (TOR) หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติและส่อไปในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย 

การเปลี่ยนแปลง TOR ภายหลังการขายซองประกวดราคาไปแล้ว ถือว่าเป็นสาระสำคัญ และไม่เคยมีการดำเนินการลักษณะเช่นนี้กับโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนมาก่อน ซึ่งปกติทั่วไปจะใช้วิธีการพิจารณาจะแยกซองเทคนิค หากผ่านตามเกณฑ์ จึงจะเปิดซองการเงิน โดยผู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดจะได้รับการคัดเลือก 

แต่คราวนี้กลับคัดเลือกโดยใช้ข้อเสนอทางเทคนิคร่วมกับซองการเงิน ซึ่งจะเป็นช่องทางที่ส่อไปในทางไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม หรืออาจเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบริษัทใดบริษัทหนึ่งหนึ่งเป็นการเฉพาะหรือไม่ เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการคัดเลือกได้มากกว่าแบบเดิม ซึ่งจะทำให้ได้ผู้ชนะการประมูลไม่ใช่ผู้ที่ให้ผลตอบแทนต่อรัฐสูงสุดก็ได้ 

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลง TOR ใหม่หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นการขัดต่อมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อ 28 ม.ค.2563 และยังขัดต่อการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ ตาม ม.6(3) และ ม.32 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2562 ประกอบกับข้อ 8(4) ของคณะกรรมการนโยบายร่วมทุนฯ อีกด้วย ดังนั้นเมื่อ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ใช้อำนาจเปลี่ยนแปลง TOR ซึ่งจะยังผลให้ไม่เป็นไปตามมติ ครม.และกฎหมายดังกล่าวแล้ว เมื่อเกิดการฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาล หากแพ้คดีขึ้นมาเสียค่าโง่ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"