'เจรจา'...จะ 'เจรจากับใคร'?


เพิ่มเพื่อน    

 

            สังเกตมั้ย?

                ผ่าน ๗ วัน จาก ๑๓-๒๐ ตุลา

            ม็อบ "สามนิ้ว" ในแบรนด์ "ประชาชนปลดแอก" ใต้คอนโทรลสามสัส จากมุ่งพื้นที่ไข่แดง เปลี่ยนแผนเป็นกระจายไปและเล็มไข่ขาว "ขอบนอก" เข้ามา จาก ๔ ทิศ

            เย็นวาน (๑๙ ต.ค.) ตีรุกทิศพายัพ ย่านกระทรวงสาธารณสุขและย่านมหา'ลัยเกษตรฯ

            รอบนี้ สามสัส ส่ง "จ่านิว" มาเป็นแม่ทัพนำ

            เห็นเก็บตัวมานาน หลังโพสต์ท่าล้อเลียน "พระบรมราชชนก" ขณะทรงงานเผยแพร่ ซึ่งภาพนั้น สร้างความขมขื่นใจให้ประชาชนไม่คลายถึงขณะนี้

            เมื่อปรากฏตัวให้เห็น น่าจะได้รับเกียรติจากตำรวจเชิญตัวเหมือนไมค์ ระยองนะ ผู้คนคิดหมายอย่างนั้น

            คนที่มาม็อบเมื่อวาน อย่างที่บอก ถ้าสังเกตจะเห็นเลยว่า คนละชุด-คนละพวกกับที่มาใน ๒-๓ วันแรก

            คือวัน-สองวันแรก หนาตาไปทาง "แดงส้ม" ขาประจำ ที่ ส.ส.ซีกค้าน ขนเข้ามาจากต่างจังหวัดทางเหนือและอีสาน

            เมื่อหมดโปร ก็กลับกันหมด

            เสาร์-อาทิตย์ เป็นวันหยุด ยังพอได้อาศัยพวกฮาร์ดคอร์พวกอยากอัพเกรดเป็น "รุ่นใหม่ต้องไร้สมอง" ไม่รู้ไปไหน ก็ไหลมากองรวมกัน

            คละเคล้าแดงส้มชานเมือง พวกคลั่งขาประจำ และสาวโรงงานจัดตั้งในชุดนักเรียน ใช้เป็นสัญลักษณ์ "เยาวชนปลดแอก"

            ภาพนักเรียน-นักศึกษา เป็น "จุดขาย" ของคณะ "สามสัส-ล้มเจ้า" ฉะนั้น ไม่มีคราบนักเรียน-นักศึกษาผสมให้เห็นในม็อบ จะขายไม่ออก

            พูดถึงการสร้างภาพ-สร้างเรื่องลักษณะ "เฟกนิวส์" เพื่อปั่นกระแส เห็นตามโซเชียลช่วงนี้กันกระมัง  คนที่ตะโกนหยาบคายขบวนรถพระที่นั่งวันก่อน และถูกออกหมายจับนั่นน่ะ

            วันไปมอบตัวที่โรงพัก......

            มี ๒ สาว ยืนกอดซบหน้าร้องห่มร้องไห้ กรีดตะโกนทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เหมือนพระเอก-นางเอกเอ็มวี กำลังพลัดพรากจากกันไป

            หลายคนอินตาม เคียดแค้นตามคำที่ตะโกน แต่ที่ไหนได้ เป็นการ "จัดฉากแสดง" ของสามสัสฟิล์ม  ข้างหน้ามีช่างภาพ ทั้งฝรั่ง, ไทย ตั้งกล้องถ่ายทำเป็นโขยง

            นี่คือตัวอย่างชัดๆ ของการ "สร้างเฟกนิวส์" ใช้ปั่นกระแส-ปั่นหัวคนรุ่นใหม่ผ่านระบบไอทีให้เป็น "กองทัพซอมบี" ของเขา

            แต่เย็นวาน เป็นวันทำงาน

            คนที่ออกมาเป็นม็อบ จึงมีแต่นักเรียนตามใบสั่ง ไม่หนาตาเหมือนแรกๆ อาจมากตอนค่ำจากคนเลิกงานก็ได้ นั่นก็ไม่รู้นะ เพราะไม่ได้ตามดูตอนค่ำ

            การรุกเพื่อ "ต่อรอง" แล้วชะลอระหว่างรอผล อาจทำให้สามสัสเสียแต้มเดินก็ได้ เพราะ "วัยรุ่นเลือดร้อน" เมื่อรุกแล้วต้องลุยแหลก

            รุกแบบเกียร์กระตุก โอกาสเสียมวลชนมีมาก กับวัยรุ่นที่ไม่เคยรู้จักว่าการชุมนุมคือแบบไหน จะให้มาม็อบยืนโรงทุกวันเป็นเดือน คงยาก

            จะไปขน "ขาประจำ" จากต่างจังหวัดมาใหม่

            ไหนล่ะ ใครจ่ายประจำ?

            ดูอย่างนี้แล้ว อยากบอก "ขาโจ๋-ขาจร-ขาประจำ" ตรงนี้ เลิกได้-เลิกเลย, เลี่ยงได้-เลี่ยงเลย

            อย่ามาม็อบกับเขาเชียวนะ จะบอกให้

            เพราะอะไรน่ะหรือ เมื่อรบชะลอ มวลชนใหม่ฟรีเซ็กซ์, เก่าน้ำหมากย้อย จะร่อยหรอจนหร็อมแหร็มน่ะซี

            ดังนั้น โอกาสที่สามสัสจะเปลี่ยนแผนกลับมาชุมนุมในจุดไข่แดงเศรษฐกิจ สร้าง "คีย์เวิร์ด" หยาบช้า ใช้ตะโกนเป็นต้นเสียงนำผ่านโทรโข่ง มีความเป็นไปได้สูง

            เพื่ออะไร.....?

            เพื่อล่อให้ตำรวจใช้มาตรการเข้มกับผู้ชุมนุม เหมือนที่ปทุมวันนั่นปะไร

            ถ้าไม่มีเจ็บ-มีตาย ต้องระวัง....สามสัสจะ "จัดให้" เพื่อใช้ภาพและข่าวนั้น "เขย่าโลก-เขย่าสังคม"

            เรียกให้ต่างชาติรุมประณามและเข้ามา อย่างที่ตะโกนกันตอนนี้ ที่ว่า.....

            "......เป็นฆาตกรสั่งฆ่า สั่งทำร้ายประชาชน" เป็นต้น!

            ผมเกรงจุดนี้

            ดังนั้น จาก ๒๐ ตุลาเป็นต้นไป คนที่หวังคึก-หวังเท่ อย่าไปร่วมชุมนุมดีที่สุด ให้ขาประจำในพรรค-ในคณะมุ่งล้มเจ้าเขาว่ากันเองเหอะ

            และจำไว้เลย ถ้าจากวันนี้ มีเหตุร้าย-เหตุรุนแรงเกิดขึ้น จะเกิดจากการสั่งของมือ ๑ ผ่านมือ ๒ และไปมือปฏิบัติการ ที่ ๓

            โยนขี้มาที่ "สถาบัน-รัฐบาล-ตำรวจ-ทหาร"

            แล้วสื่อ "ทุกประเภท-ทุกแขนง" จะงับปั๊บ ละเลงปุ๊บ เป็นฉากๆ หลากสี

            สรุปลงที่ ผิดนี้ คือ "รัฐบาล-นายกฯ ประยุทธ์"

            นายกฯ จะเป็นคอแรก ที่กิโยติน แห่งสังคมสื่อสาร จะ "ฉับเดียว... กระฉูด"!

            ตรงนี้ ไม่ใช่ผมไปรู้อะไรมา แล้วส่งซิกแนล

            มันเป็นประสบการณ์จากบทเรียนม็อบที่ผ่านๆ มา ในทุกสงครามมวลชน ฝ่ายรัฐ "ทุกรัฐบาล" เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ได้แค่ตั้งรับ รุกได้เพียงปกป้อง

            จี้จุดปุ๊บ ต้องหยุดปั๊บ ได้แค่นั้น เว้นแต่ "เถื่อน"

            รุกต่อทางยุทธการไม่ได้ ขืนรุก จะเป็นอย่างที่ตะโกนด้านๆ เวลานี้ "รัฐบาลคุกคามประชาชน" หรือ "ฆ่าประชาชน"

            ตรงกันข้าม ฝ่ายม็อบ ซึ่งได้เปรียบทางรัฐศาสตร์การเมือง จะไม่เกี่ยงวิธีการและรูปแบบ

            "เพื่อชนะ" พร้อมทำ และทำได้ ทุกอย่าง!

            ผมขำอยู่อย่าง เมื่อคณะล้มเจ้าตีรุกได้รังวัดทางมวลชนแล้ว นักวิชาการแนวร่วมล้มเจ้า นักสันติวิธี  พวกจานมหา'ลัยขาประจำ

            ซึ่งพวกนี้ เก่งทาง "สร้างโลกในห้องเรียน" จะชักแถวออกมาเสนอแนะหน้าจอพวกขาเดียวกัน

            "รัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรง, รัฐบาลต้องไม่ข่มขู่คุกคามผู้ชุมนุม" และสรุป

            "รัฐบาลต้องเจรจา" หาทางออกร่วมกัน!

            จะกี่ร้อยครั้ง นักวิชาการ นักสันติวิธี ก็งัดตำรามาท่อง "เจรจา..เจรจา" ทุกครั้งไป

            พูดอิฐ ก็ถูกอิฐ ทุกเรื่อง บทจบ ก็ต้องตกลงพูดจากัน แต่ถามคำ พวกท่าน เข้าใจคำว่า "เหตุและผล" ใช่ไหม?

            ที่พวกคุณบอก "ต้องเจรจา" ผมไม่เถียง แต่ถามคำ

            ให้รัฐบาลไปเจรจากับใคร?

            ในเมื่อบอกว่า คนที่มาชุมนุม ไม่มีแกนนำ ไม่มีเจ้าภาพ เขามาด้วยอุดมการณ์ตรงกัน ไม่มีคนนำ  มาแสนคน ก็เป็นแกนนำทั้งแสนคน

            เป้าหมาย ๓ ข้อ ที่จะตกลงกัน พอรู้ แต่คู่เจรจาที่จะมาเจรจากับรัฐบาลนั่นล่ะ คือใคร?

            เจรจากับ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โดยนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก งั้นหรือ?

            หรือ กับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พ่อพวกแดงส้ม?

            หรือ กับ CIA กับ NED กับโซรอส ผ่านพวก NGO พวกกิจกรรมรับจ้างเกิดในชาติเพื่อขายชาติ?

            หรือ เจรจากับ ธนาธร-ปิยบุตร คณะก้าวหน้า?

            หรือกับพวกจานตามมหา'ลัยที่คอยรุนตูดให้นักศึกษาออกหน้าชุมนุม แต่รับทรัพย์ที่เรียก "ทุน" กันเอง?

            หรือจะให้เจรจากับทุกรายหัวที่มาชุมนุม?

            หรือจะให้เจรจากับจันทร์ส่องหล้า หรือกับสมเด็จเจ้าพระยามูลเมือง ที่ดูไบ?

            หรือกับป้ามุด?

            บอกให้ชัดทีซิ ท่านนักวิชาการโลกสวยหน้าจอทั้งหลาย ใครคือ "หัวหน้าใหญ่" ขบวนการมุ่งล้มสถาบัน เปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุขแทน "พระมหากษัตริย์" อย่างที่พยายามกันอยู่ขณะนี้

            และคนนั้น คือผู้มีอำนาจเต็ม สามารถตกลงในการเจรจาได้?

            ไหน ลองชี้ "คู่เจรจา" กับรัฐบาลมาให้ดูหน้าซักหัวซิ

            ธนาธร ปิยบุตร หรือ?

            เขาบอกว่า เขาเปล่า ที่แอบๆ ซ่อนๆ ไปม็อบ เปล่าชักใย ธนาธรอ้าง แค่ไปสังเกตการณ์ ไปเป็นจำนวนนับ

            ปิยบุตร ก็ว่า เปล่า...

            ที่ยกเรื่องปฏิวัติฝรั่งเศส นั่นก็เป็นการให้ความรู้-ความเห็นทางวิชาการ

            สรุป เขาไม่ยอมรับเป็นตัวการม็อบ "ล้มเจ้า-ล้มประเทศ" แล้วใครล่ะ ที่จะมานั่งเจรจาน่ะ?

            กางตำราสร้างสันติภาพในอากาศน่ะ มันง่าย แค่น้ำลายไม่กี่หยด เอาจริง มันมีองค์ประกอบอีกมากที่ต้องเคลียร์กันให้ชัด ก่อนไปถึงจุดนั้น

            นักวิชาการพวกนี้ กล้าเอาสิ่งที่ "กินอยู่-รู้เห็น" กับปาก-กับใจ ออกมาพูดตามเป็นจริง เจตนาจริงต่อสังคมชาติบ้านเมืองหรือเปล่าล่ะ?

            มันก็เปล่า แค่ใช้ภาพครู อาจารย์ นักวิชาการ สร้างภาพสวยหน้าจอ หลังจอ "ขยิบตา" กับโจร เขารู้กันทั้งเมือง

            รัฐบาลเสียเปรียบตรงนี้ คือ มีตัวตน

            โจรล้มเจ้า ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวตน ขับเคลื่อนกองทัพซอมบี แถมตั้ง ๓ เงื่อนไข โดยไม่ปรากฏตัวให้รู้

            "ใคร...เจ้าของ ที่จะเจรจาสู่การตกลงอย่างใด-อย่างหนึ่งได้"?

            ขณะเดียวกัน กลับใช้สถานภาพ "สมาชิกรัฐสภา" ในฝ่ายค้านของคนร่วมขบวนการ ตีไพ่หน้าเสื่อแทนกับรัฐบาล!?

            สรุป.......

            ที่จะเปิดสภาวิสามัญ ที่จะได้ ไม่ใช่คำแนะนำสู่ทางออก แต่จะเป็นการให้ขบวนการร่วมใช้สภา ตะโกนคำว่า รัฐบาลทำรุนแรงกับผู้ชุมนุม รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเผด็จการ

            นายกฯ ประยุทธ์ ต้องลาออก!

            ฝ่ายค้านจะพูดแต่ "ผล" ที่พวกเขาต้องการ แต่จะไม่พูดถึง "เหตุ" เลยว่า

            ที่ม็อบสามสัสตะโกนกล่าวร้ายสถาบัน เช่น "......ฆ่าประชาชน"

                แบบนั้น พวกฝ่ายค้าน จะให้รัฐบาลจัดการกับพวก "คิดคดกบฏชาติ" อย่างไร?

           

            


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"