ปิดตำนานมือปราบ ‘ไอ้ด่างบางมุด’


เพิ่มเพื่อน    

29 เม.ย.61 - นายสัณธยา พิมาน อายุ 55 ปี หัวหน้าฝ่ายก่อสร้างและช่างบำรุง อบจ.ชุมพร บุตรชายของ พ.ต.จำนงค์ มือปราบจระเข้ยักษ์ “ไอ้ด่างบางมุด” เปิดเผยว่า พ.ต.จำนงค์ อายุ 86 ปี บิดาตนเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดครบ 7 วันแล้ว จะทำการฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้(30 เม.ย.61 ) บิดาตนเป็นพูดน้อยมีนิสัยกล้าหาญไม่ยอมคนพูดจาเสียงดังโผงผาง อดีตเคยไปรบในสงครามเวียดนาม และครั้งสุดท้ายพ่อเป็นทหารยศสิบเอกไปรบกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ที่ภูเขาช่องช้าง จ.สุราษฏร์ธานี บิดาตนโดนระเบิดร่างลอยกระเด็นมีทหารเสียชีวิต 5 ศพ ส่วนบิดาตนได้รับบาดเจ็บที่ผ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง และแพทย์ต้องตัดขาขวาทิ้ง เป็นคนพิการและได้รับเลื่อนยศเป็น พ.ต.จำนงค์ พิมาน แล้วปลดจากทหารประจำการเป็นทหารผ่านศึกกลับมาอยู่บ้านกับครอบครัวจนวาระสุดท้ายเสียชีวิตด้วยโรคชรา

นายสัณธยากล่าวว่า ช่วงปี พ.ศ.2507 ที่บิดาตนไล่ล่าฆ่า “ไอ้ด่างบางมุด” จระเข้ยักษ์กินคนจนเป็นข่าวใหญ่โตในช่วงนั้น และได้นำเรื่องราวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฉายไปทั่วประเทศ กลายตำนานที่ยังเล่าขานมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 54 ปีแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนยังเป็นเด็กเล็กอยู่ วันนี้ท่านได้จากไปแล้วตนรู้สึกภูมิใจในท่านมากที่เป็นวีระบุรุษมือปราบจระเข้ยักษ์ไอ้ด่างบางมุดได้สำเร็จ ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องมาตายเพราะถูกจระเข้กินอีก

นางสังวาลย์ พิมาน อายุ 81 ปี ภรรยาของ พ.ต.จำนงค์ กล่าวว่าสามีจะรักตนและครอบครัวมาก ส่วนวันที่ไปตามล่า “ไอ้ด่าง บางมุด” พ.ต.จำนงค์ได้ชวนหลานชายออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า หลังจากนั้นก็มารู้อีกทีว่าสามีได้ฆ่า “ไอ้ด่าง บางมุด” ตายไปแล้ว ทุกครั้งที่สามีตนออกศึกเขาจะเชื่อในเรื่องโชคลางของขลัง ต้องห้อยพระเกจิดังและเครื่องรางของขลังถึง 2 พวงด้วยกัน โดยพระเครื่องและเครื่องรางทั้ง 2 พวงที่ห้อยคออยู่ประจำนั้นได้ขาดหายไปในช่วงที่ พ.ต.จำนงค์ซึ่งขณะนั้นมียศสิบเอกไปออกศึกสู้รบกับคอมมิวนิสต์ที่เขาช่องช้าง จ.สุราษฏร์ธานี แล้วโดนระเบิดร่างลอยกระเด็กจนสร้อยคอทั้ง 2 เส้นขาดหายไป ซึ่งตัวเองได้รับบาดเจ็บที่ขาและต้องตัดขาขวาในเวลาต่อมา ส่วนเพื่อนทหารเสียชีวิตไปหลายนาย

ด้าน นายเสมา พิมาน อายุ 69 ปี ลูกชายเหยื่อ “ไอ้ด่างบางมุด” รายสุดท้ายกล่าวว่า บิดาตนชื่อนายซ้วน พิมาน เป็นพี่ชายของ พ.ต.จำนงค์ พิมาน มือปราบไอ้ด่างบางมุด ซึ่งบิดาตนเป็นเหยื่อรายสุดท้ายที่ถูกไอ้ด่างบางมุดฆ่าและลากร่างลงไปในคลอง เนื่องจากวันนั้นบิดาคนเดินทางกลับบ้านมืด เมื่อมาถึงสะพานซึ่งเป็นสะพานไม้มีแคบๆข้ามคลองและถูกน้ำท่วมขังถึงเข่าเพราะฝนตกน้ำหลาก ขณะเดินข้ามมาถึงกลางสะพานได้ถูกจระเข้จู่โจมกัดที่ขาแล้วลากลงไปในคลอง ต่อมาญาติๆและชาวบ้านตามหาพบศพถูกกัดลากไปขัดไว้กับรากไม้ใต้น้ำมีบาดแผลถูกกัดหลายจุด ต่อมา ส.อ.จำนงค์ ยศขณะนั้น เป็นทหารอยู่ในค่ายเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดทหารบกชุมพร ซึ่งเป็นน้องชายของนายซ้วนผู้ตาย ได้พาหลานชายและเพื่อนทหารออกไล่ล่า “ไอ้ด่างบางมุด” จนพบตัวแล้วใช้ระบิดปาใส่ ลูกแรกพลาดเพาะมันไหวตัวหลบไปได้ แต่เจอซ้ำลูกที่ 2 ทำให้มันจบชีวิตลงจนปิดตำนานเพชฌฆาต “ไอ้ด่างบางมุด”  ที่ชาวบ้านหวาดกลัวอย่างมากในยุคนั้นได้ในที่สุด

สำหรับประวัติ “ไอ้ด่างบางมุด” จระเข้ยักษ์กินคนแห่งคลองบางมุด ตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร มันออกอาละวาดกินมนุษย์มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ศพ  ในช่วงปี พ.ศ.2507  มันอาศัยกบดานอยู่ในคลองบางมุด ตำบลนาขา อ.หลังสวน ซึ่งเป็นคลองยาวใกล้ทะเลเชื่อมต่อหลายท้องที่ จนกลายเป็นที่หวดกลัวของชาวบ้านอย่างมากและหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นได้ลงข่าวพาดหัวใหญ่โต จนมีการตั้งค่าหัวรางวัลนำจับทำให้มีนักล่าจากทั่วสารทิศที่มากด้วยวิชาอาคมเวชมนต์คาถาในยุคนั้น นำอาวุธออกไล่ล่ามันมีทั้งมีด เหล็กแหลม ปืน และระเบิด นับสิบลูกปาใส่มัน แต่ “ไอ้ด่างบางมุด” ก็รอดไปได้ทุกครั้ง ขณะที่นักล่าบางรายต้องกลายเป็นผู้ถูก “ไอ้ด่างบางมุด” ล่ากินเป็นอาหารเสียเองด้วย ยิ่งทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวมากขึ้นไม่มีใครกล้าออกไปไหนมาไหน

จนกระทั่งวันที่ 20 พ.ย.2507  ส.อ.จำนงค์ พิมาน พร้อมเพื่อนทหารและหลานชาย ได้ออกแกะรอยตามล่าตัวมันถึง 2 วันเต็ม จนรู้วังที่มันใช้กบดานในคลองบางมุด จึงได้ใช้ระเบิด TNT ที่ประกอบใส่ในกระป๋องจุดชนวนหย่อยลงไประเบิดลูกแรกทำงานพลาดเป้าจระเข้ยักษ์รู้ตัวพยายามจะว่ายน้ำหนี แต่ถูก ส.อ.จำนงค์ ปาซ้ำอีกลูกจนมันได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลังหักและสิ้นใจตายในเวลาต่อมา เมื่อนำตัวมันขึ้นมาและผ่าท้องต้องผงะไปตามๆกันเมื่อพบหัวกะโหลกมนุษย์อยู่ในห้องมันถึง 2 หัวด้วยกัน  จากวันนั้นเป็นอันปิดฉาก “ไอ้ด่างบางมุด” จระเข้ยักษ์กินคน จนมาถึงวันนี้เวลาผ่านไปนานถึง 54 ปี  เป็นวันปิดตำนาน พ.ต.จำนงค์ พิมาน ผู้พิฆาต “ไอ้ด่างบางมุด” ซึ่งได้เสียชีวิตด้วยโรคชราในวัย 86 ปี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"