โคราชแจ้งเตือนประชาชนริมลำน้ำสำคัญเก็บของขึ้นที่สูงพร้อมอพยพ หลังน้ำในเขื่อนลำตะคองสูงกว่าความจุที่กำหนด ขณะที่น้ำจากลำพระเพลิงไหลบ่าเข้าท่วมเขตชุมชนเมืองปักธงชัย เช่นเดียวกับที่ปากช่องก็วิกฤติ อรัญประเทศหนักสุดในรอบ 8 ปี บิ๊กตู่ส่ง รมช.พาณิชย์เยี่ยมชาวบ้าน ฝากบอกจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
    ช่วงสายวันที่ 19 ตุลาคมนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแนวลำตะคอง ลำบริบูรณ์ ลำเชิงไกร และลำน้ำมูล เตรียมพร้อมอพยพกรณีเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลาก ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนทราบ เตรียมการเก็บของขึ้นที่สูง และพร้อมอพยพหากเกิดสถานการณ์ ติดตามสถานการณ์น้ำ และจัดเวรยามเฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ หากประเมินแล้วไม่ปลอดภัยให้เร่งอพยพประชาชนทันที และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะยุติ หลังจากล่าสุดสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 319 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นกว่า 101% ของความจุทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 16.15 ล้าน ลบ.ม. ทางเขื่อนยังไม่ระบายน้ำออก เนื่องจากพื้นที่ด้านล่างน้ำในลำน้ำลำตะคองยังมีปริมาณมาก
    นายชยุธพงศ์ อำรุงสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ปริมาณน้ำจะเต็มความจุของเขื่อนลำตะคองแล้วก็ตาม แต่ทางเขื่อนยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม. โดยขณะนี้ทางเขื่อนยังไม่ได้ระบายน้ำออกจากเขื่อนแต่อย่างใด แต่ก็ขอให้ประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงระยะนี้อย่างใกล้ชิด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะที่อำเภอปักธงชัย น้ำจากลำพระเพลิงได้ไหลเอ่อท่วมตลาดและชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองปักธงชัยซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลือประชาชนทั้งการขนของและอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มวลน้ำยังไหลเข้าท่วมทางหลวงหมายเลข 304 ปักธงชัย-กบินบุรี  และถนน 304 หน้าโลตัส-แยกหน้าโรงเรียนเมืองปัก ขามาจากวังน้ำเขียวเข้านครราชสีมา ระยะทางยาว 1 กิโลเมตร ท่วมสูง 10-20 เซนติเมตร การจราจรติดขัด 
    ด้านอำเภอปากช่อง มวลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.หมูสี ต.ขนงพระ ต.หนองน้ำแดง และลงมายังเขตเทศบาลเมืองปากช่อง ไหลต่อไปยัง ต.หนองสาหร่าย ต.จันทึก ลงสู่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง แต่การท่วมรอบที่ 2 นี้ปริมาณน้ำไม่มากเท่าครั้งแรก และประชาชนมีประสบการณ์ในการเตรียมความพร้อมทั้งการขนส่งของและการอพยพคน
    มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีกำหนดการด่วนในการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.นครราชสีมา โดยเวลา 13.30 น. นายกฯ พร้อมคณะออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่กองพลทหารม้าที่ 2 กรุงเทพฯ จากนั้นในเวลา 14.30 น. รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วม ที่เทศบาลตำบลเมืองปัก อ.ปักธงชัย ก่อนเยี่ยมประชาชนที่สี่แยกกาแฟ ตลาดเทศบาลเมืองปัก และตรวจเยี่ยมบ้านบ่อปลา ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 15.40 น.
    ในช่วงบ่าย ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่บ้านใหม่สะแกราช หมู่ที่ 15 ต.สะแกราช และบ้านสะแกงาม หมู่ที่ 4 ต.ตูม อ.ปักธงชัย ซึ่งมีหมู่บ้านที่ถูกน้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงสาไหลบ่าเข้าท่วม โดยน้ำไหลเชี่ยวกราก ชาวบ้าน 80 หลังคาเรือนออกมาจากหมู่บ้านไม่ได้ ระดับน้ำยังแรงและสูง 60 ซม. ส่วนที่ ต.งิ้ว น้ำที่ไหลลงมาจากเขื่อนลำพระเพลิงเข้าท่วมบ้านเรือน บางจุดสูง 30-50 ซม. ประชาชนกว่า 60 หมู่บ้านได้รับผลกระทบ
    นายวีรศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและได้สั่งการให้ตนลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมฝากความห่วงใยมาด้วย และยังได้บอกว่าวันนี้จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนที่จะเดือดร้อนต้องไม่เดือดร้อน หรือคนที่เดือดร้อนต้องให้เดือดร้อนน้อยที่สุด 
    กาญจนบุรี นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค ออกช่วยเหลือราษฎร บ้านหาดงิ้ว ม.5 ต.วังกระแจะ และบ้านแม่น้ำน้อย ม.5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค ที่ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก ท่วมถนน ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อการเดินทางสัญจรไปมา ซึ่งต่อมาทหาร ร.29 พัน 1 ค่ายสุรสีห์ กองร้อย ตชด.ที่ 136 อ.ไทรโยค ทหารค่ายสุรสีห์ 105 และสมาชิก อส. อ.ไทรโยค ร่วมช่วยเหลือราษฎร ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่งเข้าช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย
    สระแก้ว บริเวณหอนาฬิกาในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ต้องปรับใช้เป็นพื้นที่รับส่งชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศชั่วคราว หลังระดับน้ำในคลองพรมโหดเอ่อล้นเข้าท่วมทั่วทุกพื้นที่ในเขตเทศบาลตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 ต.ค. ระดับน้ำเฉลี่ยสูงกว่า 80 เซนติเมตร ขณะที่เขตชุมชนใกล้คลองพรมโหด ระดับน้ำสูงกว่า 1.30 เมตร รวมถึงกระแสน้ำยังไหลเชี่ยวแรง
    ชาวบ้านเล่าว่า น้ำเริ่มเอ่อล้นเข้าในเขตเทศบาลเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 ต.ค. แค่เวลาไม่ถึงชั่วโมง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกือบถึงเอว ถึงแม้จะติดตามสถานการณ์ และข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดแล้ว ก็ยังเก็บข้าวของขึ้นที่สูงแทบไม่ทัน
    ปลัดอำเภออรัญประเทศกล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศถือเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 8 ปี ตั้งแต่ปี 2555 เฉลี่ยสูงกว่า 80 เซนติเมตร และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นมีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1 หมื่นครัวเรือน ประชากรมากกว่า 2 หมื่นคน ขณะนี้ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้ระดมสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว
    ที่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำคลองพระสทึงเป็นจำนวนมาก นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำคลองพระสทึง มีปริมาณน้ำ 69 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 106 ของความจุอ่าง ส่วนปริมาณน้ำในคลองพระสทึง บ้านเขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.25 ม. มีแนวโน้มลดลง บ้านสระขวัญ อ.เมือง ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.56 ม. มีแนวโน้มทรงตัว และบ้านแก้ง อ.เมือง ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.20 ม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะมีผลกระทบบริเวณอำเภอวังน้ำเย็น อำเภอเขาฉกรรจ์ และอำเภอเมืองสระแก้ว 
    ที่ อ.คลองลึก พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก นำกำลังตำรวจออกตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือราษฎรตามหมู่บ้านชายแดน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ หลังเกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านชายแดนที่ติดคลองพรมโหดใน ต.ท่าข้าม พบว่าระดับน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดคลองพรมโหดสูงกว่า 150 ซม. มีราษฎรหมู่บ้านชายแดนกว่า 100 หลังคาเรือนติดอยู่ภายในบ้านเรือน จึงประสานความร่วมมือกับ พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 สั่งการให้ ร.ต.ธิติวุฒ ยีนุช ผบ.ร้อย ทพ.1201 นำกำลังจิตอาสา ร้อย ทพ.1201 ไปร่วมสนับสนุนการช่วยเหลือราษฎรไทยบริเวณชายแดนที่ถูกน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน ขนย้ายทรัพย์สินที่จำเป็นออกมาจากบ้าน พร้อมทั้งนำถุงยังชีพมอบให้ราษฎรที่ติดอยู่ในบ้านที่น้ำท่วมสูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น.