19ต.คต.63-"ณัฏฐพล"รื้อใหม่ ปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน รับของเดิมที่ทำไปบ้างแล้วต้องล้างทิ้ง โดยหารือ จุฬาฯ มศว. สร้างเนื้อหาใหม่ เผยต้องทำให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์เป็น และต้องพยายามหาวิธีให้เด็กไม่ขอบเรียนวิทยาศาสตร์ มาสนใจเรียนให้ได้ หวังทันใช้ปีการศึกษา 65
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมหารือการจัดทำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น ตนต้องการปรับใหม่ โดยจะไม่เหมือนหลักสูตรฐานสมรรถนะแบบเดิมที่เคยมีการดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้จะใช้ชื่อหลักสูตรแบบไหนนั้นในเร็วๆ นี้ คณะทำงานปรับปรุงหลักสูตรจะสรุปรายละเอียดออกมาเป็นมติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนจะหลักสูตรใหม่จะทันใช้ในปีการศึกษา 2565 หรือไม่นั้น ตามความต้องการของตนก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้น แต่เมื่อรีบดำเนินการให้เสร็จเร็วก็ต้องมีความรอบคอบในการปรับปรุงด้วย เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์มากที่สุด
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบใหม่ของหลักสูตรการแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น จะเริ่มตั้งแต่หลักสูตรการศึกษาระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งจะแยกสัดส่วนออกมาแต่ละกลุ่มสาระวิชาการเรียนรู้หลักให้มีความเหมาะสมกับเด็กแต่ละช่วงชั้น โดยจะมีความเชื่อมโยงหลักสูตรใหม่และหลักสูตรเก่าพร้อมกับผสมผสานการเรียนรู้โลกในศตวรรษที่ 21 ซึ่งหลักสูตรใหม่จะมุ่งเป้าหมายของการผลิตผู้เรียนตามความต้องการของประเทศในอนาคต เช่น การเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ จะพัฒนาเด็กเล็กให้รู้พื้นฐานใดบ้างจนไปถึงเด็กโต ซึ่งหากเด็กไม่ชอบการเรียนวิทยาศาสตร์จะมีกระบวนการพัฒนาและบริหารจัดการอย่างไรบ้าง หรือหากเด็กมีทักษะพิเศษเก่งด้านวิทยาศาสตร์จะต้องต่อยอดและส่งต่อผู้เรียนด้วยรูปแบบไหน เป็นต้น
“หลักสูตรใหม่จะทำให้เด็กมีทักษะคิดวิเคราะห์เป็น และผู้เรียนมีทางเลือกในการเรียนรู้อย่างหลากหลายมากขึ้น เพราะสามารถเลือกอนาคตได้ด้วยตัวเองว่าอยากจะทำอะไร โดยเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึงตรงกับความต้องการของเด็ก สำหรับหลักสูตรฐานสมรรถนะที่มีการปรับมาก่อนหน้านี้นั้นผมยอมรับว่าขอล้มล้างและนำมาเขย่ารวม เพื่อปรับหลักสูตรใหม่ทั้งหมด โดยจะไม่ใช่หลักสูตรฐานสมรรถนะแล้ว แต่จะเป็นการนำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมาอัดเดทใหม่และเสริมด้วยเทคโนโลยีในอนาคต” รมว.ศธ. กล่าว