จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สะสมทั่วโลกเกิน 40 ล้านรายแล้วเมื่อวันจันทร์ ขณะซีกโลกเหนือเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก

    การรวบรวมข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างข้อมูลอย่างเป็นทางการของแต่ละประเทศ ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มเป็นมากกว่า 40 ล้านรายแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตน่าจะมากกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการมาก เหตุเพราะขาดการตรวจเชื้อและการรายงานตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริงของบางประเทศ

    รอยเตอร์พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจาก 30 ล้านคน เป็น 40 ล้านคน นั้นใช้เวลาเพียง 32 วัน เปรียบเทียบกับการเพิ่มจำนวนจาก 20 ล้าน เป็น 30 ล้าน นั้นใช้เวลา 38 วัน และเพิ่มจาก 10 ล้าน เป็น 20 ล้านราย ใช้เวลา 44 วัน ในขณะที่ผู้ติดเชื้อครบ 10 ล้านคนแรกนับแต่พบผู้ป่วยรายแรกที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อต้นเดือนมกราคม ใช้เวลานาน 3 เดือน

    เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมกันในวันเดียวมากเกิน 400,000 รายเป็นครั้งแรก ส่วนยอดเฉลี่ยการติดเชื้อของสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่วันละประมาณ 347,000 ราย เปรียบเทียบกับเฉลี่ย 292,000 ราย/วัน ในสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม

    สหรัฐ, อินเดีย และบราซิล เป็นสามประเทศที่สถานการณ์หนักที่สุด สำหรับสหรัฐนั้นมีผู้ติดเชื้อประมาณ 247 ราย ต่อประชากร 10,000 คน ส่วนอินเดียและบราซิล สัดส่วนอยู่ที่ 55 และ 248 รายต่อประชากร 10,000 คน ตามลำดับ

    ทวีปยุโรปกำลังประสบปัญหาจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้น โดยมีผู้ติดเชื้อรายวันรวมกันมากกว่า 150,000 คน หลายประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากเป็นสถิติใหม่ ทั้งอิตาลี, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, ออสเตรีย, โปแลน์, ยูเครน, ไซปรัส และสาธารณรัฐเชก

    ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 แล้ว 1.1 ล้านคน โดยอัตราเฉลี่ยการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2.8% ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกเคยเตือนว่า โควิดอาจคร่าชีวิตประชากรโลกถึง 2 ล้านคนก่อนที่วัคซีนที่ได้ผลจะมีใช้อย่างกว้างขวาง และอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านั้นอีก หากทั่วโลกไม่ร่วมมือกันควบคุมโรคระบาดนี้.