"อนุทิน" บินด่วนลงพื้นที่แม่สอดหลังโควิดลาม 5 ราย สั่งยกระดับคุมเข้มสกัดเชื้อชายแดนไทย-เมียนมา ผู้ว่าฯ ตากสั่งปิดด่านระงับขนส่งสินค้าทั้ง 33 ช่องทางถึง 25 ต.ค. รัฐบาลเผยข่าวดี! ไทยมีโอกาสรับวัคซีนลำดับต้นๆ ของโลก ออกซ์ฟอร์ดใช้เป็นฐานผลิตให้สิทธิ์จำหน่ายประเทศอาเซียน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ปัจจุบันสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยอยู่อันดับที่ 144 ของโลก โดยพบผู้ป่วยใหม่ 7 ราย ยืนยันผู้ป่วยสะสม 3,686 คน และเสียชีวิตรวม 59 คน สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ แบ่งเป็น 1.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันของรัฐ 3 ราย ได้แก่ หญิงไทย อายุ 47 ปี มาจากประเทศสวีเดน, หญิงไทย อายุ 39 ปี มาจากสหราชอาณาจักร และชายสัญชาติเบลเยียม อายุ 54 ปี มาจากประเทศเบลเยียม 2.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย โดยเป็นชายชาวเมียนมาอายุ 33 ปี อาชีพพนักงานขับรถ ส่งตัวกลับไปรักษาที่ประเทศเมียนมา และ 3.ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าที่ จ.ตาก 3 ราย ทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา ได้แก่ หญิงอายุ 23 ปี, เด็กหญิงอายุ 10 ขวบ และเด็กชาย อายุ 1 ขวบ ซึ่งเป็นมารดาและบุตร เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนไทย โดยมีความพยายามผลักดันให้ประชาชนชาวไทยเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงการผลิตและจัดสรรวัคซีนวิจัยป้องกันโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมาก เริ่มทดลองกับมนุษย์แล้ว โดยวัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิต โดยใช้โรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นแหล่งผลิตวัคซีน
นอกจากนี้ ในหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดยังได้ให้สิทธิประเทศไทยในการจัดจำหน่ายวัคซีนให้แก่ประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วย แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านการสาธาณสุข มีความสามารถที่จะใช้เป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งมีความสำคัญต่อประชากรโลก และจะทำให้คนไทยได้รับวัคซีนเป็นประเทศแรกๆ ของโลก
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมได้พัฒนาเทคนิคตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับการตรวจที่ไม่ใช่เพื่อการกักตัว เทคนิคที่พัฒนาขึ้นเป็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากน้ำลาย โดยจะนำน้ำลาย 6 คน มารวมกันเป็น 1 กลุ่มแล้วตรวจหาเชื้อ หากกลุ่มใดพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ก็แยกตรวจตัวอย่างน้ำลายรายตัวของทั้ง 6 คนอีกครั้ง เพื่อหาผู้ที่ติดเชื้อต่อไป เทคนิคการตรวจด้วยน้ำลายนี้มีความแม่นยำ 80-90% แต่มีค่าใช้จ่ายลดลง 3-4 เท่าจากที่ปัจจุบันการตรวจมาตรฐานมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อครั้ง 1,600 บาท ก็จะลดลงเหลือประมาณ 400 บาท ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีแนวคิดนำเทคนิคการตรวจน้ำลายนี้ไปใช้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
ที่ด่านพรมแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางตรวจราชการที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก ด้วยเครื่องบินส่วนตัว โดยได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มาปฏิบัติงาน เยี่ยมชมรถตรวจโรคชีวนิภัยและรถขนส่งสินค้าของเมียนมาที่เข้ามารับสินค้าหน้าด่านพรมแดน จากนั้นเดินทางไปตรวจศูนย์กักกันโรคระดับพื้นที่ (local Quarantine) อ.แม่สอด ก่อนจะเดินทางไปมอบนโยบายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลแม่สอด
นายอนุทินกล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา เตรียมพร้อมยา เวชภัณฑ์ห้องปฏิบัติการ โดยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษด้านสาธารณสุข พร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน? อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการควบคุมโรคในพื้นที่ แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการค้นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19? หากไม่ใช่เป็นการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ไม่มีทางที่จะหลุดรอดมาตรการไปได้ เราสามารถตรวจเจอหมด เพราะระบบเราดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะการส่งรถตรวจชีวนิรภัยพระราชทานมาสนับสนุนความแม่นยำในการตรวจคัดกรอง ซึ่งการติดเชื้อมาจากการลักลอบเข้าเมือง ส่วนทั้ง 5 รายที่เราตรวจพบเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ทางการแพทย์มีรายงานเลยว่าโอกาสแพร่เชื้อยาก อย่าไปตื่นตระหนกจนเกินเหตุ เราเอาอยู่ไม่ต้องกังวล
ด้านนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมาจังหวัดตาก ลงนามในคำสั่งจังหวัดตาก ระงับการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และสินค้าผ่านแดน ณ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และช่องอื่นนอกทางอนุมัติ ตามกฎหมายศุลกากร เฉพาะเพื่อการขนส่งสินค้าและสินค้าข้ามแดน ที่ได้รับการผ่อนผัน จำนวน 33 ช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.2563 เวลา 15.00 น. จนถึงวันที่ 25 ต.ค.2563 เวลา 18.30 น.
โดยระบุว่า เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเป็นไปอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง มีรายงานข้อมูลจากการสุ่มตรวจหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถที่เข้ามาขนส่งสินค้าในราชอาณาจักรไทย ณ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และในย่านชุมชนต่างๆ ซึ่งตรวจพบพนักงานขับรถติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ราย และพบบุคคลที่อาศัยในย่านมาดีนะ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 ราย เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอแม่สอด และพื้นที่อำเภอใกล้เคียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายหลังเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก และชุดอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านแนวชายแดนอำเภอแม่สอด สนธิกำลังทุกหมู่บ้านในจุดล่อแหลมริมแม่น้ำเมย ออกตั้งจุดตรวจบนถนนสายยุทธศาสตร์เลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา รวมมทั้งแบ่งกำลังออกไปเดินเท้าลาดตระเวนในทุกท่าข้ามธรรมชาติทุกท่าเพื่อกดดันและป้องกันสกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบขนคนข้ามชายแดนเข้ามาในหัวเมืองชั้นในอำเภอแม่สอดด้วยความเข้มข้น ได้ตรวจพบกลุ่มคนไม่ทราบสัญชาติแอบซุกซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบท่ามกลางความมืด จากการตรวจสอบเบื้องต้นทั้งหมดเป็นคนสัญชาติไทย เป็นหญิง 11 คน และชาย 1 คน ซึ่งทุกคนหน้าตาดี เดินทางมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มาตรการป้องกันส่งตัวทั้งหมดไปตรวจโควิด-19 อย่างเร่งด่วน ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผล
จากการสอบสวน คนไทยทั้งหมดที่ถูกจับกุมตัวให้การเบื้องต้นว่าได้เข้าไปทำงานในเขตจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา แต่ไม่ยอมบอกว่าทำงานชนิดใด และกลัวสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเมียนมาที่กำลังระบาด จึงว่าจ้างเรือหางยาวฝั่งเมียนมานั่งโดยสารลักลอบข้ามแนวชายแดนเพื่อหวังจะเข้าไปในตัวอำเภอแม่สอด แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |