ชาวบ้านลิบงช่วยพะยูนนอนร้องไห้ หลังเกยตื้นกลับลงน้ำไม่ทัน


เพิ่มเพื่อน    

18 ต.ค.63- เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.ได้เกิดเหตุการณ์พะยูนเพศเมีย ตัวโตเต็มวัย สภาพอ้วนท้วมสมบูรณ์ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ยาวประมาณ 180 ชม.เกยตื้นนอนแน่นิ่ง มีน้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ดวง บริเวณบนชายหาดแหลมโต๊ะชัย หมู่ 1 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยมีชาวบ้านลิบงจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 คนช่วยกันนำผ้าขาวม้าพยุงพยูนตัวดังกล่าวลงน้ำได้อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริเวณผิวหนังมีรอยถลอกจากการตะเกียกตะกายกับชายหาดเพียงเล็กน้อย จนทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นต่างมีความสงสารเมื่อเห็นภาพขณะพะยูนตัวดังกล่าวนอนร้องไห้เพื่อรอความช่วยเหลือกลับสู่ท้องทะเล

นายอับดุลรอหีม ขุนรักษา กำนันตำบลเกาะลิบง กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองนั่งกินกาแฟอยู่ที่ร้านปรากฏว่าได้มีลูกบ้านที่ได้ไปวางอวนดักปลาโทรศัพท์เข้ามาหาว่าพบพะยูนนอนเกยตื้นอยู่บนชายหาดดังกล่าว ห่างจากน้ำทะเลประมาณ 100 เมตร ตนเองจึงได้ประสานไปยังผู้ช่วยและรีบเดินทางเข้าไปตรวจสอบพร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่หลังเมื่อทราบจึงรีบไปตรวจสอบและช่วยเหลือ โดยเมื่อไปถึงพบว่าพะยูนตัวดังกล่าวนอนแน่นิ่งมีน้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาทั้งสองดวง แต่ยังพบว่ามีชีวิตอยู่ ขณะเดียวกันไม่มีอุปกรณ์อื่นๆที่สามารถจะช่วยเหลือได้มีเพียงผ้าขาวม้ามาก็เลยใช้ผ้าขาวม้าสอดเข้าใต้ลำตัวพะยูนทำให้พะยูนตัวดังกล่าวดิ้นเพื่อที่จะไม่ให้คนที่ไปช่วยเหลือเข้าใกล้ แต่ก็สามารถช่วยเหลือนำลงทะเลได้อย่างปลอดภัย และว่ายไปอย่างทันที เบื้องต้นคาดว่าน่าจะกลับลงน้ำไม่ทันในช่วงน้ำลงเมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมา

นายอับดุลรอหีม กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยมากนัก แต่ก็มีให้เห็นบ้าง ซึ่งหากไม่มีชาวบ้านหรือใครไปพบเจอพะยูนที่เกยตื้นไม่สามารถตะเกียกตะกายลงในน้ำทะเลได้อย่างแน่นอน เพราะว่าพื้นที่หาดไม่มีน้ำประกอบกับเป็นพื้นที่สูงโดยถ้าหากไม่เจอมีโอกาสสูงที่จะเกยตื้นเสียชีวิตได้ เพราะกว่าน้ำจะขึ้นอีกครั้งประกอบกับโดนแสงแดดมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต แต่โดยส่วนใหญ่หากพะยูนเกยตื้นชาวบ้านจะพบเห็นและช่วยเหลือเป็นประจำ เพราะช่วงเวลาน้ำลงชาวบ้านที่เป็นชาวประมงจะออกไปหาปลาหาหอยบริเวณชายหาด ซึ่งในส่วนของน้ำตาพะยูนหรือน้ำตาดุหยงที่มีการร่ำลือหรือมีความเชื่อว่า หากใครครอบครอง จะให้ความเมตตามหานิยม มีเสน่ห์คนรักคนหลง ซึ่งในส่วนนี้ตนเองไม่ได้มีความเชื่อนั้นและน่าจะเป็นเรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมาเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาชุมชนก็ได้พึ่งพาชาวประมงชายฝั่ง หากพบเจอพะยูนก็จะโทรหาผู้นำชุมชนโดยตลอดและจะช่วยเหลือให้รอดปลอดภัยทุกครั้ง และร่วมด้วยช่วยกันในการอนุรักษ์พะยูนมาโดยตลอดถือเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับเกาะลิบงมาอย่างช้านาน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"