ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์

                มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ ระหว่าง 6 มีนาคม 2559-8 กรกฎาคม 2565

            ประเด็นที่กำลังร้อนแรงในเมืองขณะนี้คือ ปรากฏการณ์เกิดขึ้นของคณะราษฎร 2563 ที่แถลง ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ที่จะฟื้นการปฏิวัติสยาม ปี 2475 ขึ้นมาใหม่ และยังพุ่งเป้าปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์แบบไม่เคยมีมาก่อน

            จนถึงขณะนี้คนในเมืองแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มคนที่เอาสถาบัน และกลุ่มคนที่ไม่เอา โดยกลุ่มแรกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกกลุ่ม ขณะที่กลุ่มคนไม่เอาสถาบันก็โจมตีอีกฝ่ายว่าเป็นทาส ถูกล้างสมองให้จงรักภักดี ฯลฯ

            ปรากฏการณ์ที่เกิดกับจิตใจคนไทยขณะนี้-รอบนี้ เป็นอิทธิพลของมฤตยูจร (0) ที่เดินอยู่ในราศีเมษอย่างจริงจังมาตั้งแต่ 6 มีนาคม 2559 และจะอยู่ที่นี่ไปถึง 8 กรกฎาคม 2565 อธิบายทางโหร คือ

            1.ที่ราศีเมษนี้ คือดินแดนที่ ลัคนา คือ ตัวตน ของเมืองสถิตอยู่

            2.ภาคจิตใจที่จะสร้างพฤติกรรมให้แก่คนในเมืองทั้งดี-ชั่ว ทางโหรบอกได้ผ่านดาวที่เป็นตัวแทนที่เรียกว่า ตนุเศษ

            3.ดวงเมืองรัตนโกสินทร์นี้ ดาวที่เป็นตัวแทนจิตใจ หรือ ตนุเศษของเมือง คือ พระอาทิตย์ ที่ใช้เลข ๑ เป็นตัวแทน ส่วนสัญลักษณ์ที่ใช้บ่งบอกทางโหรว่าเป็นตนุเศษหรือจิตใจ คือ มีเครื่องหมายบวก + อยู่บนดาวดวงนั้น (ดังรูป)

                ผลของ อาการของจิตใจเป็นแบบดาวอาทิตย์ ทำให้คนไทยส่วนใหญ่รักอิสระ ถ้าเลือกได้ไม่ชอบเป็นลูกน้องใคร ใจร้อน คอยอะไรไม่ค่อยได้ เชื่อมั่นในตัวเองสูง ฟัง ทนคนที่คิดไม่เหมือนตัวเองไม่ได้ ทำอะไรหวังเกียรติ บ้ายอ แต่จริงใจเปิดเผย ใจดีแต่ใจร้อน สำคัญที่เป็นบุคลิกประจำชาติคือ ชอบเสี่ยง

                พระอาทิตย์ (๑) จิตใจ ของดวงชะตาเมืองนี้สถิต อยู่ราศีเมษ เรียกว่า กุมลัคนาอยู่ (ดังรูป)

                4.ย้อนกลับไป ตั้งแต่ประมาณต้นเดือนมีนาคม 2559 แล้วที่มฤตยูจร (0) หนึ่งในความหมายคือเป็นเจ้าของภัยอาเพศ การปฏิวัติ นักปฏิวัติล้มล้างสิ่งเก่า สร้างสิ่งใหม่ กิจการมหาชน ความเลอเลิศของสิ่งต่างๆ เริ่มก่อการ คิดแต่จะก้าวไปข้างหน้า ถ้าออกมาด้านดีหมายถึง ความพิสดาร-ล้ำเลิศ หรือถ้าด้านร้าย คนอาจมองเป็นวิตถาร คาดไม่ถึง เข้ามาเดินอยู่ในราศีเมษ ทับลัคนาเมือง

            เมื่อทับลัคนาเมือง มฤตยูนี้ก็ย่อมทับพระอาทิตย์ที่เป็นตนุเศษหรือจิตใจของคนในเมืองไปด้วย จึงอย่าแปลกใจที่จิตใจของคนในเมืองได้รับอิทธิพลของมฤตยูจรนี้ไปด้วยแบบเต็มๆ

            5.สิ่งที่เกิดกับจิตใจคนในเมืองในช่วงที่มฤตยูจรมาทับคือ เกิดอาเพศ เพราะอำนาจของ สื่อที่ล้ำเลิศยุค (มฤตยูดวงเดิมดวงเมืองสถิตในราศีมิถุน-ภพที่สาม-สหัชชะ) ทั้งทวิตเตอร์ ยูทูบ และอื่นๆ ที่เริ่มเกิดตามอาการของมฤตยู คือ สะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงก่อน เมื่อได้ที่แล้วจึงระเบิดเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ในเรื่องนั้นๆ-สร้างสิ่งใหม่-สะสมพลังเพื่อเปลี่ยนแปลงต่อไปเรื่อย

                ย้อนกลับไป ก่อนหน้านี้มีการสะสมปลุกพลังเรื่องอุดมการณ์ประชาธิปไตย-คณะราษฎร 2475-สถาบันพระมหากษัตริย์มานานแล้วจากทั้งในและนอกประเทศ เหมือนรอวันระเบิด

            ในที่สุดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ในการชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน ได้มีข้อเรียกร้องสิบประการให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

            หลังจากนั้น สถาบันก็ถูกท้าทายเป็นระยะๆ แบบไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่ฝ่ายจงรักภักดีก็ตั้งคำถามว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วจะลงเอยอย่างไร ซึ่งผู้เขียนก็มีหลักโหรพออธิบายเหมือนที่เคยให้ไว้ก่อนหน้าดังนี้

            1.ยุคใหม่ที่สิบสามของกรุงรัตนโกสินทร์ที่เริ่มมาตั้งแต่มีนาคม 2562 และจะกินเวลายาวนานไปยี่สิบปีนั้น จะเป็นยุค 4.0 – ขึ้นไปถึง 5.0 หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ด้านร้ายคือ จะมีการต่อสู้กันเกี่ยวกับอุดมการณ์ หรือ ความคิดที่สำคัญ เช่น ในอดีตคือขบวนการแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ และคอมมิวนิสต์

            รอบนี้เราได้เห็นแล้วว่าเกิดเรื่อง อุดมการณ์ประชาธิปไตย และ สถานะของสถาบัน

            2.แม้การต่อสู้ทางความคิดรอบนี้จะคุกรุ่นไปเรื่อยๆ แต่สิ่งดีๆ ก็จะมีเข้ามาเป็นช่วงๆ เช่น ในระยะอันใกล้นี้ระหว่างวันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2564-21 เมษายน 2565 เป็นช่วงเหมาะสำหรับเจรจาสันติภาพ หรือทำความเข้าใจของคนในเมือง (พระศุกร์ ดาวสันติภาพเป็นศรีจร-หนึ่งปี)

            3.สำคัญคือ ตั้งแต่กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป มฤตยูจรจะหยุดทับจิตใจคนในเมือง (ย้ายราศี) จิตใจคนไทยที่โดนมฤตยูชักนำจนบางคนเป็นนักปฏิรูปสถาบันคงจะตกผลึกแล้วโดยภาพรวมว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าจะมีต่อไปก็จะเป็นอิทธิพลจากดาวอื่น (ทั้งดี-ร้าย)

            4.แล้วในที่สุดผลสรุปโดยการต่อสู้แต่ละครั้งจะออกมาอย่างไรนั้น ผู้เขียนเห็นว่า โลกนี้ไม่มีประเทศไหนไม่มีความขัดแย้ง ยิ่งเมืองไทยด้วยแล้วการทะเลาะเบาะแว้งถือเป็นวาสนาที่ติดมากับเมืองตั้งแต่วันแรกไปจนถึงวันที่จะไม่มีกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยซ้ำ แต่

            4.1 เพราะพระจันทร์ (๒) ตัวแทนประชาชนของเมืองเข้มแข็ง (สถิตราศีกรกฎได้มาตรฐานเกษตราธิบดี) ยังไงคนไทยส่วนใหญ่จะช่วยกันพาเมืองไปรอด

            4.2 ตามหลักโหรแล้วพระอาทิตย์ (๑) ดวงเดิมของเมืองเป็นตัวแทนพระราชสายโลหิตของพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ จึงเมื่อเป็นดาวตนุเศษด้วย แปลความหมายได้ว่า จิตใจคนไทยส่วนใหญ่จะอยู่กับพระราชสายโลหิตของรัชกาลที่หนึ่ง

            และเมื่อดาวจิตใจนี้เกาะกุมลัคนาเมือง ก็อ่านว่า จิตใจคนไทยส่วนใหญ่ก็อยู่กับเมือง-ราชวงศ์โดยพื้นฐาน

            แม้ บางครั้ง-บางคราว เมื่อดาวร้ายมาระรานจิตใจ เช่น ที่การมาของมฤตยูรอบนี้เล่นถึงขนาดจะปฏิรูปสถาบันที่คนไทยรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป-ดาวร้ายจากไปแล้ว ดังเช่นมฤตยูที่จะจากไปในเดือนกรกฎาคม 2565 จิตใจคนไทยส่วนใหญ่ก็ยังจะผูกพันกับสมาชิกราชวงศ์ เพียงแต่จะแบบใด-ระดับไหนเท่านั้น

            ตอนหน้าจะว่าด้วยฤทธิ์ราหูที่กำลังค้นทรัพย์เมืองรอบนี้.