17 ตุลาคม "วันตำรวจ" ปีนี้ บรรยากาศดูจะแตกต่างกว่าทุกๆ ปี เพราะสถานการณ์บ้านเมือง

            "ไม่ปกติ"

            มีม็อบ มีการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคณะราษฎร ที่กำลังเขม็งเกลียวมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ย้ายมาทำเนียบรัฐบาล และมาต่อที่แยกราชประสงค์

            พื้นที่ใกล้ๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพียงไม่กี่ก้าว!!!!

            "ตำรวจ" ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง เป็นกำลังหลักในการดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม

            และเป็น "หนังหน้าไฟ" ปะทะโดยตรง แบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

            ...เห็นใจ "3 นายพล" นครบาล ทั้ง พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ปราศรัย  จิตตสนธิ ผบก.น.1 และ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.อคฝ. ที่ถูกคำสั่งไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ตร.  ตั้งแต่ 14 ต.ค.63 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

            ...เข้าใจ "ผู้บังคับบัญชา" ถึงเหตุผลการสั่งย้าย เพราะเกิดการคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติตามแผน

            ก็เหมือนกับที่ โฆษก ตร. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ออกมาบอกไว้

            "การทำงานก็ต้องมีข้อผิดพลาด คนที่ไม่ผิดพลาดคือคนที่ไม่ทำงาน ขณะนี้ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการไปตามแผนที่วางไว้ เพียงแต่ยังมีบางจุดที่ต้องกลับมาทบทวน"

            ยิ่งได้อ่าน "สารวันตำรวจ" ที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ส่งถึงข้าราชการตำรวจทุกนาย

            "....วันตำรวจ มิได้มีความหมายเกี่ยวข้องกับตำรวจแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายรวมถึงทุกภาคส่วนในสังคม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เหล่าทัพ และสื่อมวลชน ที่ร่วมมือกันทำให้สังคมไทยปลอดภัยจากอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชนที่งานตำรวจนั้นมีความใกล้ชิดกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุด จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในบางครั้ง ที่จะเกิดความเข้าใจไม่ตรงกันในการทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของตำรวจ ซึ่งผมได้มอบนโยบายเน้นย้ำไปแล้วว่า การสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่ตำรวจทุกนายต้องตระหนักและถือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะความสำเร็จส่วนหนึ่งของงานตำรวจนั้น เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชน

            ผมมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกนาย ทุกสายงาน ที่มีความสำคัญต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามภารกิจหน้าที่ของแต่ละงาน ขอให้ทุกนายใช้ความรู้ความสามารถทำงานอย่างเต็มกำลัง รับผิดชอบต่อหน้าที่และทำให้ดีที่สุด ช่วยกันเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนโดยพร้อมเพรียงกัน ขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายมีความสุขและช่วยกันทำงานต่อไป..."

            หาก "ตำรวจ" เป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชนได้อย่างที่ ผบ.ตร.ส่งสารบอกไว้

            "ศรัทธา"

            "ความเชื่อมั่น"

            ต่อองค์กรตำรวจจะกลับคืนมาทันที.